มันอัดอั้น! หงส์ติดปีกบุกรัวมาริบอร์ยับ 7-0 (มีไฮไลต์)

หงส์แดงเรียกความมั่นใจก่อนมีคิวดวลไก่เดือยทองสุดสัปดาห์นี้ ด้วยการบุกถล่มทีมจากสโลวีเนียในเกม UCL นัดที่สามยับเยิน

ฟุตบอลยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม อี เกมนัดที่สาม ที่ ลุดสกี้ วิอาร์ที เป็นการพบกันระหว่าง มาริบอร์ รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล

เจ้าถิ่นทำผลงานเสมอ 1 แพ้ 1 เกมนี้มี อเล็คซานเดอร์ รายเซวิซ จับคู่กับ มาร์โก ซูเลอร์ เป็น 2 กองหลังตัวกลาง โดยมี วาลอน อาห์เมดี้, ดามยาน โบฮาร์ และตาวาเรส เป็นแกนหลักในแนวรุก

ทางฝั่งทีมเยือนจากอังกฤษ ที่เสมอมา 2 นัด เกมนี้มีลอริส คาริอุส เฝ้าเสา มีจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม คุมแดนกลางร่วมกันกับ เจมส์ มิลเนอร์ และเอ็มเร ชาน โดยมี ฟิลิปป์ คูตินโญ, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็น 3 ประสานเกมรุก

เริ่มเกมได้เพียง 4 นาที ทีมเยือนได้ประตูนำอย่างรวดเร็ว เมื่อซาลาห์พาบอลจากด้านขวาเข้าเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางให้ฟีร์มิโนวิ่งมายิงจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ ลิเวอร์พูลนำ 1-0

จากนั้นนาทีที่ 13 มิลเนอร์ได้โอกาสตวัดบอลจากด้านขวาคืนเข้าใน และเป็นคูตินโญวิ่งมากดเต็มเท้าส่งหงส์แดงหนีห่าง 2-0

อีก 6 นาทีถัดมา ฟีร์มิโนได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแทงบอลตัดแนวรับให้ซาลาห์สอดแปสวนทางฮันดาโนวิชเข้าประตู พร้อมขยับหนี 3-0

ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 40 เหล่ากองเชียร์เดอะ ค็อปป์ ได้ดีใจอีกหน คราวนี้เป็น ซาลาห์ เข้าชาร์จบอลเปิดอย่างยอดเยี่ยมของโมเรโน ทำประตูที่ 2 ของเขาเอง ช่วยให้ทีมนำเป็น 4-0

เปิดครึ่งหลังนาทีที่ 56 หงส์แดงมาได้ประตูที่ 5 จากจังหวะที่คูตินโญเปิดลูกตั้งเตะด้านซ้ายให้ฟีร์มิโนโหม่งเสยตัดหน้ากองหลังเจ้าถิ่นผ่านมือฮันดาโนวิชเข้าประตู และกลายเป็นลูกที่ 2 ของหอกแซมบ้าในเกมนี้

จากนั้นคล็อปป์ตัดสินใจเริ่มพักตัวหลัก โดยเลือกถอดซาลาห์ออก แล้วส่งอเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ลงเล่นแทนนาทีที่ 57 และในอีก 10 นาทีต่อมา เลือกฟีร์มิโนออกแล้วส่งสเตอร์ริดจ์เข้ามายืนค้ำหอกแทน

นาทีที่ 75 เอ็มเร ชานเป็นอีกหนึ่งแกนหลักที่ถูกถอดออก และเป็นโซลันกี้ที่ลงมาเล่น

ท้ายเกมนาทีที่ 86 สเตอร์ริดจ์ไหลต่อให้อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ประเดิมประตูแรกในสีเสื้อหงส์แดงด้วยการซัดบอลสวนตัวนายด่านเจ้าบ้านตุงตาข่าย ส่งหงส์นำ 6-0

นาที 90+1 อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงไปแฉลบกลายเป็นประตู ส่งลิเวอร์พูลนำ 7-0

เวลาที่เหลือยังคงเป็นทีมจากอังกฤษที่ครองบอลบุกกดดันใส่อยู่ฝ่ายเดียว และยังคงรักษาสกอร์ถล่มขาดลอยจนจบเกมการแข่งขัน ทำให้ลิเวอร์พูลขยับรั้งจ่าฝูงของตาราง จากการมี 5 คะแนน พร้อมลูกได้เสียที่ +7

Cr::: GOAL.COM/TH