ผีเกือบโดนฝังคาถิ่น เมื่อปอล ป๊อกบาทะเล่อทะล่าทำแฮนด์บอล และเจมส์ มิลเนอร์ยิงจุดโทษเข้าไปไม่พลาดขึ้นนำ 1-0 แต่ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ช่วยผีโกงความตาย โดยการโหม่งประตูช่วย ไล่ตามตีเสมอ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ในนาทีที่ 84 จบที่ผล 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม
ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2560
แมนฯ ยูไนเต็ด 1 - 1 ลิเวอร์พูล
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แดงเดือด ครั้งที่ 198 "ปีศาจแดง" ได้ตัว ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก่งหายป่วยกลับมาลงสนามได้ตามปกติแล้ว แดนกลางเรียก ไมเคิ่ล คาร์ริค กลับมาคุมเกมกลางสนาม อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เบียด มาต้า ยึดตำแหน่งแนวรุก
ฝั่ง "หงส์แดง" มีข่าวร้าย เนธาเนียล ไคลน์ แบ็กขวาตัวเก่งบาดเจ็บซี่โครง จนต้องให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงสนามแทน แต่ยังมีข่าวดีที่ได้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หายเจ็บกลับมาประจำการแดนกลาง ส่วน โฌแอล มาติป กองหลังตัวเก่งลงเล่นไม่ได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการเล่นให้กับทีมชาติแคเมอรูน
ช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมเล่นกันด้วยความรัดกุม กว่าจะมีโอกาสได้ลุ้นครั้งแรกก็นาทีที่ 12 เข้าให้แล้ว อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เปิดบอลจากทางซ้ายนอกเขตโทษยาวเข้าไปทางเสาสองให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กระโดดชาร์จ แต่บอลแรง เกี่ยวไม่ติด บอลเลยหลุดกรอบออกหลังไป
หลังจากนั้นนาทีที่ 18 แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะได้ประตู เดยัน ลอฟเรน จ่ายบอลคืนไปให้ มิโญเล่ต์ แต่น้ำหนักไม่ดี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช วิ่งกดดันไป แล้วตั้งเท้าบล็อคบอลจาก มิโญเล่ต์ บอลลอยโด่งไปตกบนตาข่าย
จังหวะต่อมา ยังเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง เอร์เรร่า ตัดบอลได้ที่กลางสนาม แล้วจ่ายขึ้นหน้าให้ มคิทาร์ยาน ลากจี้ขึ้นไป จ่ายตามช่องให้ ปอล ป็อกบา ได้หวดบริเวณหน้าเขตโทษ แต่บอลบดพื้น หลุดกรอบออกหลังไป
เลยมาถึงนาทีที่ 23 ลิเวอร์พูล ได้กดดันบ้าง จากจังหวะเปิดฟรีคิกฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ กองหลังเจ้าบ้านสกัดบอลกันไม่ดี บอลมาเข้าทาง ดิว็อค โอริกี ซัดด้วยขวาบริเวณเส้นเขตโทษ แต่โดนบอลไม่ดี เด เคอา รับเอาไว้ได้
อีก 3 นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด โดนกดดันอีกครั้ง ฟิล โจนส์ พยายามเอาบอลลง แล้วโดน ฟีร์มิโน่ ตามมาแซะจากทางด้านหลัง แย่งบอลไปได้ มีตัวสอดมาจากข้างหลังอีก แต่ยังดีที่ มาร์กอส โรโฮ ตามมาเคลียร์ออกหลังได้ก่อน
อีกนาทีให้หลัง ปอล ป็อกบา ทำแฮนด์บอลในเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันที เจมส์ มิลเนอร์ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าไปทางขวามือของตัวเองไม่พลาด ให้ ลิเวอร์พูล ออกนำไปก่อน 1-0
เลยมาถึงนาทีที่ 31 เกมเริ่มเดือด เดยัน ลอฟเรน เสียบหนักเข้าใส่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กรรมการต้องแจกใบเหลืองระงับเหตุ
นาทีต่อมา แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา ตรงปากประตู ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซัดด้วยขวาเต็มข้อ เล็งหาเสาแรก แต่ มิโญเล่ต์ ยังคุมเสาดี ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
ช่วงท้ายครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะได้ประตูตีเสมอ เอร์เรร่า จ่ายบอลให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมา แล้วซัดด้วยซ้ายทางซ้ายของเขตโทษ แต่โดน มิโญเล่ต ออกมาปิดมุมเซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ครบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล บุกมานำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
กลับมาต่อครึ่งหลัง นาที 55 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูตีเสมอ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ไปฉกบอลจาก เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทางซ้ายแล้วจ่ายเข้ากลางให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไหลออกทางขวา เฮนริค มคิตาร์ยาน แตะเข้าเขตโทษก่อนเลือกผ่านเข้ากลางให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล พยายามยิงไขว้หลังแต่ดันวืดไปเอง
ชั่วโมงแรกของเกมพอดี ลิเวอร์พูล ถอด ดิว็อค โอริกี้ แล้วส่ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ลงไปป่วนแนวรับเจ้าบ้าน
ถัดมาไม่เท่าไร ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เกือบแผลงฤทธิ์หลังจ่ายบอลให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้โอกาสตะบันมุมแคบในเขตโทษติดเซฟ ดาบิด เด เคอา
นาที 63 ทีมเยือนได้ใบเหลืองที่ 2 จากจังหวะที่ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ไปถ่วงเวลาไม่ให้ ยูไนเต็ด เล่นฟรีคิกเร็ว
15 นาทีสุดท้าย "หงส์แดง" น่าได้เพิ่ม ปอล ป๊อกบา เสียบอลก่อนโดนเกมสวนกลับเร็ว เอ็มเร่ ชาน บรรจงหยอดจากกราบขวาให้ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ใจร้อนเลือกกระโดดโหม่งข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น
ความพยายามของ ยูไนเต็ด มาสัมฤทธิ์ผลใน นาที 83 เวย์น รูนี่ย์ ตัวสำรอง โยนจากซ้ายไปหน้าประตู มารูยาน เฟลไลนี่ ตัวสำรองอีกคน โหม่งเช็ดไปชนเสาไกล อันโตนิโอ วาเลนเซีย ปรี่ไปตวัดเข้ากลางให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตั้งหัวโหม่งเสยเช็ดคานเป็นประตู 1-1
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นจากจังหวะโต้กลับเร็วของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แต่ อันเดร์ เอร์เรร่า ลงทุนดึงเสื้อจนเกมต้องหยุดก่อนได้รับใบเหลืองเป็นคนแรกของฝั่ง "ปีศาจแดง"
ช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 เจ้าถิ่นอยู่อันดับที่ 6 ของตารางคะแนนตามเดิม ขณะที่ ลิเวอร์พูล แซงอาร์เซน่อล ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 มีแต้มเท่ากับ สเปอร์ส รองจ่าฝูง แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน - อันเดร์ เอร์เรร่า, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ปอล ป็อกบา - เฮนริค มคิทาร์ยาน, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
สำรอง : ฆวน มาต้า, เวย์น รูนี่ย์, คริส สมอลลิ่ง, ดาเล่ย์ บลินด์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, เซร์คิโอ โรเมโร่, มารูยาน เฟลไลนี่
ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโยเล่ต์ - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, รักนาร์ คลาวาน, เจมส์ มิลเนอร์ - จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เอ็มเร่ ชาน - โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดิว็อค โอริกี, อดัม ลัลลาน่า
สำรอง : ลอริส คาริอุส, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โจ โกเมซ, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, อัลเบร์โต้ โมเรโน่, เควิน สจ๊วร์ต, โอวี เอจาเรีย
ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์
ขอขอบคุณข่าวจาก สยามกีฬา
จบเกมส์ หงส์แดงมีคะแนนเป็นอันดับ 3 แมนยูมีคะแนนเป็นอันดับ 6
1 Chelsea แข่ง21 มี52คะแนน
2 Tottenham แข่ง21 มี45คะแนน
3 Liverpool แข่ง21 มี45 คะแนน
4 Arsenal แข่ง21 มี44คะแนน
5 Man City แข่ง21 มี 42คะแนน
6 Man Utd แข่ง21 มี 40คะแนน
7 Everton แข่ง21 มี33คะแนน