คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหงส์เปิดบ้านโชว์ฟอร์มร้อนแรงไล่จิกสโต๊ค 4-1
ในนาทีที่ 8 โมเรโน่พาหงส์แดงทะยานฟ้า จากการที่เจมส์ มิลเนอร์ถูกทำฟาวล์และเล่นเร็ว แทงทะลุมาให้ แบ็คซ้ายจอมบุกอัลแบร์โต้ โมเรโน่ ซัดเต็มข้อ ลูกพุ่งเข้าเสาไกล หงส์แดงเจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
ในนาทีที่ 17 ฟีมีโน่จ่ายวืดซะงั้น ลิเวอร์พูลสวนกลับเร็ว โดยโรแบร์โต้ ฟีมีร์โน่ เลี้ยงกระชากจากกลางสนามเข้าริมเส้นฝั่งขวา แต่น่าเสียดายเปิดบอลย้อนหลัง ดาเนี่ยล สเตอริจ ไปแบบกองเชียร์โคตรเซ็ง (น่าจะเปิดแม่นกว่านี้)
สโต๊ค มีโอกาสจากเด็กเก่าหงส์ ปีเตอร์ เคร้าช์ อยู่หลายลูก แต่ยังไม่เป็นประตู
จนในนาทีที่ 22 ช่างปั้นหม้อ ก็มาไล่ตีเสมอสำเร็จ 1-1 เมื่อชากิรี่ได้เตะมุมไปที่กลางประตูโบยาน เกร์กิช ลอยตัวโหม่งเหน่งๆ เข้าประตูไปแบบมิโญ่เล่ไม่ได้กระดิกตัว
นาทีที่ 27 เคร้าช์ได้โอกาสโหม่งในระยะ12หลา เข้าตุงตาข่าย แต่ผู้กำกับเส้น ชี้เป็นการล้ำหน้า
นาทีที่ 32 เซยี่ โอโจ้ นักเตะพลังหนุ่มวัย 18ของหงส์ โชว์ฟอร์มเทพ เข้ารับลูกจากกลางสนาม และทำชิ่งก่อนวิ่งไปรับลูกที่เกือบสุดเส้นฝั่งซ้าย ก่อนแตะบอลหลบ เซอร์ดาน ชากิรี่ และเปิดบอลถวายพานทองให้แดเนี่ยน สเตอริดจ์ โหม่งเต็มกบาล พาหงส์ขึ้นนำ 2-1
หลังจากนี้เกมก็ยังเปิดแลกกันสนุกสนาน โดยที่สโต๊คยังมีลุ้นจากลูกโหม่งของปีเตอร์ เคร้าช์อยู่หลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะล้ำหน้า ก่อนจะหมดครึ่งแรกไปแบบไม่มีสกอร์เพิ่มเติม
เริ่มครึ่งหลัง เจอเก้นส์ คล็อปป์แก้เกม เปลี่ยนเอา โอโจ้ออก และส่งกองหน้า โอริกี้ลงสนาม เล่นด้วยระบบไดมอนด์ 4-4-2 เกมส์แทบจะตกเป็นของหงส์แดงแทบฝ่ายเดียว เดินหน้าบุกกระหน่ำ
จนในนาทีที่ 50 หงส์แดงได้เตะมุม เจมส์ มิลเนอร์ เล่นชิ่งสั้นๆ กับสเตอริดจ์ ก่อนสเตอริดจ์ แตะคืนให้เจมส์ มิลเนอร์ เปิดบอลเข้าไปลุ้นหน้าประตู และเป็น ดิวอล์ค โอริกี้ ที่เทคตัวขึ้นสูง โหม่งเหน่งๆ แบบไร้ตัวประกบ พาหงส์แดงขึ้นนำ 3-1
นาทีที่ 65 หงส์แดง นำห่าง 4-1 เมื่อดิว็อค โอริกี้ ลากบอลขึ้นไปทางฝั่งซ้าย ก่อนกระชากหลบนักเตะของสโต๊ค และปั่นโค้งเข้าประตูไป
หลังจากนั้น ทำอะไรกันไม่ได้ จบเกมด้วยสกอร์ 4-1
แมนออฟเดอะแมทช์ โจ อัลเลนเล่นได้สุดติ่งกระดิ่งแมวมากๆ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 78 โดยส่งลูคัส เลว่าเข้าคุมเกมแทน
ในเกมส์นี้เจอร์เก้น คล็อปป์ได้เปลี่ยนตัวถึง 7ตำแหน่ง เพื่อรักษาความสดของนักเตะไว้ในเกมหน้าที่จะเปิดรังรับการมาเยือนของดอร์ทมุน โดยในเกมนี้เป็นเกมที่แดเนี่ยน สเตอริดจ์ได้เล่นครบ 90นาทีเป็นเกมแรก หลังจากหายเจ็บกลับมา