ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ 2 เจ้าของสโมสร ลิเวอร์พูล ชาวอเมริกัน ตกเป็นข่าว เตรียมได้กำไรเหนาะๆ เอาไปแบ่งกันถึง 3.25 พันล้านบาท จากการขายสโมสรให้กับ ดูไบ อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล หลังจากการเจรจามาถึงขั้นตอนสำคัญ และทั้ง 2 ฝ่ายใกล้จะบรรลุข้อตกลงซื้อขายกันแล้ว
นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เล่มดัง แฉสถานการณ์ล่าสุดของการถือสิทธิ์ครอบครองสโมสร ลิเวอร์พูล ว่าส่อแววเปลี่ยนมือไปอยู่กับ ดูไบ อินเตอร์เนชั่นแนล แคปปิตอล (ดีไอซี) เต็มที ซึ่งจะส่งผลให้ ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ 2 เจ้าของสโมสรคนปัจจุบัน ได้กำไรจากการขายครั้งนี้ถึง 50 ล้านปอนด์ (ราว 3.25 พันล้านบาท)
ตัวเลขดังกล่าวคิดได้เป็นเงินถึง 65,000 ปอนด์ (ราว 4.23 ล้านบาท) ต่อวันต่อคน สำหรับความวุ่นวายที่พวกเขาสร้างขึ้นตลอดเวลา 12 เดือน ในถิ่น แอนฟิลด์ เลยทีเดียว โดยบริษัทเงินทุนจากอาหรับ ใกล้บรรลุข้อตกลงที่จะสิ้นสุดสิทธิ์การครอบครองของ 2 นักธุรกิจแดนลุงแซม หลังจากการเจรจาเข้ามาถึงช่วงที่เป็นกุญแจสำคัญ
ล่าสุด ยิลเล็ตต์ มีแนวโน้มที่จะตัดความสัมพันธ์ของเขากับ หงส์แดง เป็นคนแรกมากที่สุด ขณะที่ ฮิคส์ ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ขณะที่ ดีไอซี หวังหาบทสรุปให้ได้โดยเร็ว โดยปัจจุบันสโมสรมีการประเมินค่าอยู่ที่ประมาณ 400 ปอนด์ (ราว 2.6 หมื่นล้านบาท) แต่จำนวนนี้ 350 ล้านปอนด์ (ราว 2.28 หมื่นล้านบาท) เป็นหนี้ที่เพิ่งก่อขึ้น
ด้วยเหตุนี้ จึงหมายความว่า ถ้าชาวอเมริกันทั้ง 2 เตรียมจะขายสโมสรตอนนี้ พวกเขาก็จะได้กำไรไปแบ่งกันถึง 50 ล้านปอนด์ (ราว 3.25 พันล้านบาท) ทั้งที่สร้างปัญหาให้ทีมตลอดปีที่ผ่านมา โดย ฮิคส์ มีสิทธิ์ซื้อหุ้นของ ยิลเล็ตต์ เป็นรายแรก ภายใต้เงื่อนไขที่ตั้งไว้ ตั้งแต่ตอนที่ทั้งคู่มาเทกโอเวอร์ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2007
สถานการณ์ที่แย่ที่สุดสำหรับทุกฝ่ายคือ ฮิคส์ เลือกใช้ออปชั่นนี้ และถือสิทธิ์ครอบครองสโมสรเพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม การที่ ลิเวอร์พูล ยังต้องเผชิญปัญหาการเงินครั้งใหญ่ เพราะหวังระดมเงินสร้างสนามมูลค่า 300 ล้านปอนด์ (ราว 1.95 หมื่นล้านบาท) บริเวณสวนสาธารณะ สแตนลี่ย์ พาร์ค ทำให้จุดยืนที่หนักแน่นของ ฮิคส์ เริ่มอ่อนลงในระยะหลัง