|
ความคิดเห็นที่ 4 [อ้างอิง]
เสียวจิง ยอมรับ ลูกที่หลุยซ์ยิงสวยจิงๆ
แต่ ส่งพี่เบิบลงมา ก็ 2-1
[ วันพุธ ที่ 2 มีนาคม 2554 เวลา 04:00 น. ]
| ความคิดเห็นที่ 20 [อ้างอิง]
| |
[ วันพุธ ที่ 2 มีนาคม 2554 เวลา 04:19 น. ] |
| ความคิดเห็นที่ 5 [อ้างอิง]
|
| ความคิดเห็นที่ 6 [อ้างอิง]
| |
[ วันพุธ ที่ 2 มีนาคม 2554 เวลา 03:19 น. ] |
| ความคิดเห็นที่ 11 [อ้างอิง]
|
| ความคิดเห็นที่ 28 [อ้างอิง]
| |
[ วันพุธ ที่ 2 มีนาคม 2554 เวลา 03:35 น. ] |
| ความคิดเห็นที่ 40 [อ้างอิง]
|
| ความคิดเห็นที่ 15 [อ้างอิง]
| |
[ วันพุธ ที่ 2 มีนาคม 2554 เวลา 03:15 น. ] |
| ความคิดเห็นที่ 16 [อ้างอิง]
|
ปีศาจแดง แมนยู | |
รูนีย์ จัดให้เต็มตีน 1 เม็ดแล้วครับ | |
View : 947 | Post : 112 |
ปีศาจแดง แมนยู | |
มีทีท่าว่าหอยพร้อมโดนตลอดเวลาครับนี่ผมนึกว่าเล่นบ้านแมนยูนะเนี่ย แมนยูเล่นอย่างกับเล่นในบ้านตัวเอง | |
View : 115 | Post : 1 |
เครดิตเอ็มทัย
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2554
เชลซี 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน
เวลาเตะ : 02.45 น. ถ่ายทอดสด : ทรูสปอร์ต 1 (101)
ผู้ทำประตู : (0-1) รูนี่ย์ น.31, (1-1) ดาวิด หลุยส์ น.54, (2-1) แลมพาร์ด จุดโทษ น.78
เริ่มเกมเป็นทางด้านเจ้าบ้าน เชลซี เริ่มเกมบุกใส่ แมนฯ ยูฯ ทันทีแล้วก็ทำได้ดี แต่แมนฯ ยูฯ ก็ยังเหนี่ยวแน่น เรียกได้ว่าทั้งสองทีม มาเปิดเกมแลกกันเลย บุกใ่ส่กันตลอด และก็มาถึงในนาทีที่ 4 เชลซีได้โอกาสลุ้นประตู แบบน่าได้สุดๆ จากการยิงเน้นของ มาลูด้า แต่ลูกนี้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ยังไม่พลาด
5 นาทีผ่าน เป็นทางเชลซี ที่บุกใส่แมนฯ ยูฯ อยู่ฝ่ายเดียวเลยก็ว่าได้ แต่ในจังหวัสุดท้าย เชลซียังไม่เฉียบคมพอ ส่วนทางด้านแมนฯ ยูฯ ก็ยังแพ็คเกมแน่นหนากันอยู่
มาถึงนาทที่ 15 แมนฯ ยูฯใช้เ้กมสวนกลับจากชิชาริโต้ ก่อนจ่ายให้ เอวร่าทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนผ่านบอลเข้า กลางโล่งๆ แต่รูนี่ย์ วิ่งเข้ามาแปไม่ทัน ซึ่งน่าจะเป็นประตูขึ้นนำ ของแมนฯ ยู เหลือเกิน
20 นาทีผ่านทั้งสองทีมกลับมาเล่นสู่สีกันแล้ว โดยเกมส่วนมากจะอยู่กันที่แดนกลาง ซึ่งทั้งสองทีมยังเล่นกันได้ดี ยังไม่แสดงข้อผิดพลาดอ่ะไรให้เห็นเลย
30 นาที่ผ่าน เป็นทางด้านแมนฯ ยูฯ ที่ทำเกมบุกใส่เชลซี ได้อย่างต่อเนื่องแล้ว โดยแผงหลังเชลซี ก็เริ่มสกัดบอลกันไม่เป็นทิศเป็นทาง แสดงถึงความไม่มั่นใจให้เห็น
แล้วก็มาโดนจนได้ ใน น.31 จากจังหวะการลากเลือยของนานี่ ก่อนไล่บอลต่อให้รูนี่ย์ เล่นที่กรอบเขตโทษและก็ตัดสินใจยิง บอลเสียบเขาที่เสาแรก หมดสิทธิ์รับแน่นอน สำหรับ เช็ก แมนฯ ยูฯ 1 เชลซี 0
ถึงตอนนี้ แดนกลางของแมนฯ ยูฯ เล่นได้ดีกว่าเชลซีอยู่เยอะแล้ว ต้องบอกเลยว่า ทั้ง นานี่ เฟล็ทเชอร์ สโคลล์ เล่นกันได้ดีจริงๆ
และในนาทีที่ 40 เชลซีน่าจะได้ประตูตีเสมอเหลือเกิน จากจังหปวะฟรีคิกทางเขตโทษฝั่งขวา โดยแลมพาร์ด วิ่งเข้ามาซัดเต็มเท้าบอลพุ่งไปเสาสอง ฟาน เดอร์ ซาร์ รับกระฉอก และเป็นอิวาโนวิช พยายามจะซ้ำ แต่น้าซาร์ ก็ปัดบอลทิ้งไปได้อย่างเหลือเชื่อ
มาถึงช่วงทดเวลบาดเจ็บ ทั้งสองทีมก็ยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรก เชลซี 0 แมนฯ ยูฯ 1
กลับมาเล่นกันต่อนาที 49 แลมพาร์ด ยิงฟรีคิกระยะไกลบอลพุ่งผ่านกำแพงไปได้แต่ก็ไปกลางประตูเข้าซอง ฟาน เดอร์ ซาร์
นาที 54 เจ้าบ้านตีเสมอจนได้เมื่อ อิวาโนวิช โหม่งซงให้ ดาวิด หลุยส์ เอี้ยวตัวยิงด้วยขวาบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมเป็น 1 ต่อ 1
นาที 64 โอกาสทองของ เวย์น รูนี่ย์ หลุดขึ้นไปทางด้านซ้ายก่อนจี้เข้าเขตโทษแล้วยิงผิดเหลี่ยมเลยเสาไกลออกหลังไปเสีย
นาที 73 ดร็อกบา ลองยิงฟรีคิกทว่าบอลแรงออกหลังไปเสีย จากนั้นเป็นทีของทีมเยือนจาก รูนีย์ แต่ก็ยิงตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก นาที 78 แมนฯยู มาเสียจุดโทษ และเป็นหน้าที่ของ แลมพาร์ด ยิงเข้าไปกลางประตูตรงๆ ให้เชลซี พลิกขึ้นนำ 2 ต่อ 1
นาที 82 เชลซี เกือบได้ลูกหนีห่างจาก ยูริ ซีร์คอฟ วอลเล่ย์นอกกรอบไปติด เนมานย่า วิดิช บอลแฉลบชนเสาออกหลังนิดเดียว
ต้องบอกเลยว่า พอเปลี่ยนเอาดร็อกบาลงมาในครึ่งหลังรูปเกมของเชลซีก้เปลี่ยนไปทันตาเห้นเลยครับ เกมบุกของเชลซีดูดุดันขึ้นมาทันที
และมาถึงช่วงทดเจ็บ วิดิช ก็มาโดนใบแดง แบบเล่นไม่ดูตาม้าตาเรือเลย เพราะนัดหน้าต้องเจอ กับลิเวอร์พูล และก็จบเกม เชลซีพลิกกลับมาชนะ แมนฯ ยูฯ สุดมันส์ 2 ต่อ 1 ซึ่งทำให้ตอนนี้แมนน ยูฯ แข่งมากกว่าอาร์เซน่อล 1 นัด แต่มีแต้มนำเหลือ 4 แต้มเท่านั้น
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
ผู้เล่น : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, เดวิด หลุยส์, ไมเคิ่ล เอสเซียง, รามิเรส, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า
ตัวสำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, ดร็อกบา, จอห์น โอบี มิเกล, โบซิงวา, ยูริ ซีร์คอฟ, กาลู, แม็คเอ็นชราน
แมนฯ ยูฯ
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
ผู้เล่น : จอห์น โอเช, คริส สมอลลิ่ง, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลล์, หลุยส์ นานี่, เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
ตัวสำรอง : โทมัสซ์ คุสซ์แซค, เวส บราวน์, เบอร์บาตอฟ, ไรอัน กิ๊กส์, ฟาบิโอ, ราฟาเอล, ดาร์รอน กิ๊บสัน