อะไรคือทิศทางของ เชลซี ที่กำลังดำเนินในเวลานี้ by PetrBoat

Image


อะไรคือทิศทางของ เชลซี ที่กำลังดำเนินในเวลานี้ !!!???



..........นับตั้งแต่ที่ เชลซี ดึงตัวกุนซือหนุ่มไฟแรงอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามากุมบังเ**ยนในปี 2004 สูตรสำเร็จของทัพสิงโตน้ำเงินครามคือ 4 - 3 - 3 มาโดยตลอดถึงแม้ในวันนี้ เดอะ สเป....ล วัน จะไม่ได้เป็นคนบงการข้างสนามแล้วก็ตาม..

อัฟฟรัม แกรนท์ ที่เข้ามารับช่วงต่อในฤดูกาล 2007 / 2008 พยายามอ้างสโลแกนของตนเองร่วมกับ เฮง เทน คาร์ต ว่าจะปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของ เชลซี ให้เอ็นเตอร์เทนคนดูแต่ก็ต้องกลับไปเล่นแบบรัดกุมเหมือนเก่าแทนเพราะว่ามันไม่เวิร์ค
arsenal
หลายครั้งที่โค๊ชคนอื่นๆ ลองเปลี่ยนไปเล่น 4 - 2 - 3 - 1 แทนอย่างเช่น หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ แต่ก็ไปไม่รอดต้องให้ กุสส์ ฮิดดิ้งค์เข้ามาจับ 4 - 3 - 3 ถึงจะปลุก เชลซี ขึ้นมาเหมือนเก่าได้สำเร็จ

แม้่แต่ทัพสิงห์บลูชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกปีก่อนของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็เริ่มต้นกับทีมด้วย 4 - 4 - 2 แบบไดมอนด์ซึ่งประเดิมได้สวย แต่ก็พบจุดอ่อนในเวลาต่อมาว่าโดนโจมตีริมเส้นง่าย เจอปีกฝ่ายตรงข้ามกดจนวิงแบ็คของทีมไม่กล้าเติม

อันนำมาซึ่งช่วงที่นักเตะขอร้อง อันเชล็อตติ ให้กลับไปเล่น 4 - 3 - 3 แบบที่ทีมถนัดเหมือนเดิมจนเข้าวินในแมทสุดท้ายได้แบบเฉียดฉิว ต้องบอกว่ายังดีที่กลับลำทัน ไม่สายเกินไปเพราะถ้าช้ากว่านี้แชมป์ลีกสมัยที่ 19 ของ แมนยูไนเต็ด คงได้ตั้งแต่ซีซั่นก่อน

เปิดศักราชใหม่มา เชลซี ก็ยังฟอร์มดี ออกสตาร์ทได้ร้อนแรงแต่ว่า อันเชล็อตติ ปรับระบบไปจากเดิมนิดหน่อย นั่นก็คือฟอร์เมชั่นที่ขึ้นมาบนหน้าจอเป็น 4 - 3 - 3 แต่ทว่าพอลงไปเล่นจริงกลับเล่น 4 - 3 - 2 - 1 สูตรต้นคริสต์มาสเสียแทน..

แผนการเล่นนี้ อันเช่ เคยใช้และประัสบความสำเร็จสมัยคุม เอซี มิลาน ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2007 ซึ่งตอนนั้นแผงกองกลาง 3 คนได้แก่ อันเดรีย ปิร์โร่ รับหน้าที่โฮลดิ้งมิดฟิล์ดและมี อัมโบรซินี่ กับ กั๊ตตูโซ่ ขนาบซัพพอร์ตด้านข้าง

ส่วน 2 ตัวรุกเป็น คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ประสานงานกับ ริคาร์โด้ กาก้า ในช่วงที่ฟอร์มพีคสุดขีดทำให้ทีมมีรูปแบบในการเข้าทำที่โคตรหลากหลาย..

การเล่นแบบนี้จะไม่มีปีกในการทำเกม เน้นหวังผลริมเส้นจากการเติมไปครอสของฟูลแบ็คแทนแล้วใช้ความสามารถของ 2 ผู้เล่นตัวรุกเพื่อบรรจงถวายพานให้กับศูนย์หน้าซึ่งในตอนนั้น ฟิลิโป้ อินซากี้ ยิงกระจายเป็นว่าเล่น

ความจริงแล้ว อันเชล็อตติ พยายามจะอิมพอร์ตการเล่นจาก มิลาน มาสู่ เชลซี ตั้งแต่ซีซั่นก่อนแต่ก็ติดตรงที่ว่าไม่มีใครในทีมสามารถเล่นได้แบบ อันเดรีย ปิร์โร่ ที่ผ่านบอลจากแนวลึกได้เทพ 1 จังหวะสามารถตัดสินเกมได้ทันที

แถมตอนนั้นศูนย์หน้าอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า ก็เหมาะที่จะลงไปเ่ล่นคู่กันทำให้การเลือกใช่ 4 - 4 - 2 ไดมอนด์ซึ่งดูลงตัวกว่า 4 - 3 - 2 - 1 ในชนิดที่คีย์หลักไม่ครบ

ไมเคิ่ล เอสเซียง คือคนแรกที่ถูกจับไปลองเล่นปรากฏว่ามันเป็นการทำลายประสิทธิภาพอย่างแท้จริงของมิดฟิล์ดกัปตันทีมชาติ กาน่า คนนี้ไป.. อันเชล็อตติ เลยใช้เวลาบ่ม จอห์น โอบิ มิเกล อยู่นานเพื่อก้าวมาทำหน้าที่อย่างเต็มตัวในปีนี้

แต่ทว่าการจับ มาลูด้า มายืนเป็นกองกลางตัวรุกแทนที่จะเอาไปโจมตีด้านข้างแล้วกระชากเปิดเหมือนแต่ก่อนมันดันทำให้มิติเกมรุกของ เชลซี ดูดร็อปลงไป และที่สำคัญไปกว่านั้นคือในทีมไม่มีนักเตะพ่อหมดมหัศจรรย์อย่าง กาก้า มันเลยยิ่งไปกันใหญ่

ผมว่าการปรับ มาลูด้า ให้เล่นในแบบที่ เซดอร์ฟ เคยทำมันยังพอถูไถ เพราะว่าดาวเตะเฟรนช์แมนสามารถหาตำแหน่งได้่ดี มักอยู่ถูกที่ถูกเวลาเลยทำสกอร์ได้เยอะแต่การเลือกเอา อเนลก้า ให้ลงมาล้วงบอล ดึงจังหวะทำเกม มันไม่ธรรมชาติอย่างแรง !

ปัญหาของ เชลซี ในตอนนี้ถ้าตัดเรื่องนอกสนามออกไปว่ากันจะๆ แค่แผนการเล่นต้องบอกว่าการเล่นสั้น ช้าแต่ชัวร์ตามสไตล์ อันเชล็อตติ ถูกจับทางได้ง่ายเพราะไม่มีคนสร้างสรรค์เกมให้กองหน้านั่นเอง
arsenal
บทจะใช้่การขึ้นบอลของแบ็คก็ถ่ายบอลกันช้าเกินไปเจอคู่แข่งดันไลน์ต่ำรับลึกหมดแล้วแบบนี้มันเลยเจาะไม่เข้า.. นั่นคือสิ่งที่เห็นได้ชัดตอน เชลซี เจอ แอสตั้น วิลล่า นำ 2 - 1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ฟุตบอลตัดสินผลแพ้ชนะกันที่การทำประตู ไม่ใช่ครองบอลไปมาแต่หาโอกาสจบไม่ได้.. มันชัดเจนที่สุดสำหรับปัญหาของ เชลซี ในเวลานี้แต่ก็ยังดีที่ดูเหมือน คาร์โล อันเชล็อตติ เริ่มปรับรูปแบบการเล่นให้ต่างจากเดิม

ช่วง 20 นาทีสุดท้ายในนัดที่เสมอกับ วิลล่า 3 - 3 อันเชล็อตติ ปรับให้นักเตะเล่นจังหวะกันไวขึ้น เน้นการถ่ายบอลออกด้านข้างแล้วจู่โจมด้วยการเปิดบอลของแบ็คก็ได้ ปีกก็ดี เรียกได้ว่าบอมป์ไปเถอะ ขอเข้าในกรอบเขตโทษไว้ก่อนมันยังดีกว่าต๊อกแต๊กแบบไร้หนทาง

บทสรุปของการแก้เกมคือสามารถแซงกลับมานำได้แบบปาฏิหารย์แต่น่าผิดหวังคือพลาดกันในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเลยอดได้ 3 แต้มสำคัญ.. อารมณ์มันต่างกันเลยนะครับ จบแบบนี้ขอลงเอยด้วย 2 - 2 ดีกว่าเพราะมันคงไม่ค้างคาเท่ากัน 3 - 3 ในแบบที่แฟนสิงห์เป็นกันอยู่

เกมล่าสุดที่แพ้ให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตั้น วันเดอร์เรอร์ส ดูแล้วมันยิ่งทำให้สถานการณ์ของทีมแย่ไปกว่าเก่า.. อนาคตของ อันเชล็อติต เหมือนถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายจะเจอเสี่ยหมีตัดหางปล่อยวัดเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบ

ผมว่าถ้าหากเป็นแต่ก่อนผลงานแบบนี้เจอ โรมัน อบราโมวิช สั่งปลดไปนานแล้วครับ แต่ว่าเงาของ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังคงวนอยู่คือหลังจากกุึนซือชาวโปรตุกีสจากไปก็ดูเหมือนจะมีแต่ปัญหาร้ายๆ ตามมา

เป็นส่วนสำคัญเลยทีเดียวที่เสี่ยหมียังให้โอกาส อันเชล็อตติ ต่อไปเพราะว่าซีซั่นก่อนก็ทำผลงานซะยิ่งใหญ่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ยิงเกินร้อยแบบนี้พอฟอร์มบู่ชุดใหญ่เข้า 1 ดอกจะให้ไล่ออกก็ยังไงๆ อยู่..

คือเทียบเหตุผลแล้วมันไม่คุ้มกันกับการที่จะต้องฆาตกรรมโหด อันเช่ ออกจาก เดอะ บริดจ์ แล้วมาเกิดเรื่องวุ่นวายยิ่งกว่าเก่าแถมจะหาคนมาขัดตาทัพในเวลานี้ก็มองได้ยากสำหรับผู้ที่มีบารมีพอในการหยุดซูเปอร์สตาร์ของทีม..

อย่างไรก็ตาม.. ถึงแม้สกอร์จะแพ้แต่ถ้าหากใครได้ชมเกมนี้เต็มๆ ผมว่า อันเชล็อตติ วางแผนมาได้ดีทีเดียว แต่พอเสียประตูไวมันเลยทำให้สิ่งที่เตรียมมาพังทลาย เล่นได้ยากกว่าที่เป็นอยู่เพราะเจ้าบ้านกุมความได้เปรียบไว้ในมือ..
arsenal
นิโกล่าส์ อเนลก้า ที่ดูเหมือนจะเล่นมากจังหวะเกินไปไม่เหมาะกับเกมสปีดเร็วๆ ถูกสั่งนั่งพักไว้ที่ข้างสนามและเลือกใช้ ซาโลมอน คาลู ลงมาเล่นเป็นปีกขวาแทน..

ว่ากันง่ายๆ เลยก็คือเกมนี้ อันเชล็อตติ ไม่ฝืนสไตล์นักเตะ ให้เล่นแบบที่อยากเป็นนั่นก็คือจัดแผนมา 4 - 3 - 3 ก็เล่นโจมตีแบบปีกจริงๆ ไม่ต้องหุบเข้ามาตรงกลางเป็นตัวรุกเลียนแบบเงา มิลานแชมเปี้ยนส์ยุโรป 2007

ฟลอล็องต์ มาลูด้า มีโอกาสกระชากไปครอสสวยๆ หลายครั้งตามที่ถนัด.. อันที่จริงรูปเกมมันควรจะออกมาเพอร์เฟ็คเพราะ อันเชล็อตติ ใช้แดนกลางได้เป็นประโยชน์มากเอา เอสเซียง ไปยืนต่ำเน้นออกบอลสปีดไวๆ ส่วน รามิเรส เป็นบ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์ มิดฟิล์ด วิ่งพล่านไปทั้งสนาม

พอมีคนสนับสนุนแบบนี้ แฟรงค์ แลมพาร์ด เลยเล่นได้ง่ายมีจังหวะมองหาเพื่อนหลายครั้งและได้จ่ายบอลสวยๆ เป็นอันว่าระบบตรงกลางดูลงตัวสำหรับการประสานงานเพื่อจู่โจมในแบบที่วางไว้

เหนือสิ่งอื่นใดผมว่า เชลซี ไม่น่าจะแพ้ถ้าการจบสกอร์อยู่ในระดับปานกลางไม่ถึงขั้นแย่แบบในเกมนี้

เพราะว่า ซาโลมอน คาลู เล่นได้โอเคสำหรับการเจาะแผงแนวรับแต่พอมีโอกาสจบสกอร์ต้องบอกว่ายิงให้ออกมันยังง่ายกว่ายิงให้เข้าสำหรับจังหวะชาร์ตบอลจ่อๆ แต่ดันไปติดซูเปอร์เซฟของ เวย์น เฮนเนสซีย์ !!!

รวมถึงช็อตที่เกือบจะเป็นโคตรแอสซิสของ แลมพาร์ด ที่บรรจงตอกส้นเน้นๆ ให้แต่ว่าพี่ คาลู ดันยิงหลุดเสาไกลไปแบบเลิกลุ้นตั้งแต่บอลออกจากเท้า..

ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังชั่วโมงนี้แฟนบอล เชลซี ทุกคนเสียอารมณ์และหมดความไว้ใจในตัว คาลู เยอะพอสมควรแล้วตัว คาลู เองก็คงหมดความเชื่อมั่นในฝีเท้าของตนเช่นกัน..

ถึงจะแพ้แต่อย่างน้อยมันก็เห็นแนวทางว่า อันเชล็อตติ กำลังปรับให้ทีมเล่นแบบเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ต้องฝืนเหมือนเก่า.. ปล่อยอิสระให้เล่นง่ายๆ แต่ได้ประสิทธิภาพแบบนี้ดูดีกว่าแต่ก่อนเยอะ

ตอนนี้เรื่องของหัวใจเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งอาจทำได้ดีแต่ก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างจนโชคร้ายเสียขวัญกำลังใจไปมากโข..

ไม่มีโค๊ชคนไหนอยากเห็นทีมของตัวเองแพ้.. รวมถึงตัว คาร์โล อันเชล็อตติ เช่นกัน..

ถ้าให้เลือกได้ เขาคงไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้...


Petrboat

ไม่ได้เขียนนานครับ มึนหัวมาก ฮา ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยครับ

Image
ทักทายได้ที่
http://www.facebook.com/Petrboat

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์