ประวัติของทีมเชลซี--The Pensioners -> The Blues

ประวัติของทีมเชลซี--The Pensioners สู่ The Blues

แฟนบอลเชลซีนั้นย่อมที่จะคุ้นเคยกับชื่อเล่นว่า สิงโตน้ำเงินคราม
ใช่มั้ย เราสมัครใจเป็นแฟนเชลซี แล้วเดินตามเชลซีมาตั้งแต่
ยุคกุนซือคนไหนก็แล้วแต่ จนเราเห็นสัญลักษณ์สิงโตน้ำเงินด้วย
ความเคยชิน และอดภาคภูมิใจกับสิงโตตัวนี้เสียไม่ได้

จนมีหลายคนเรียกแฟนบอลเชลซีว่า สาวกสิงห์น้ำเงิน

แต่เรารู้มั้ยว่า ทำไมเชลซีถึงมีโลโก้เป็นสิงโต และทำไมต้องเป็น
สิงโตน้ำเงินด้วย ส่วนตัวก็สงสัยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นกระทู้นี้
ขอเป็นเรื่องโลโก้ของทีมเชลซีแล้วกันนะ




เชลซีมีโลโก้มากมาย ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาเชลซีเปลี่ยนมาแล้ว
ทั้งหมด 5 แบบ มาทำความรู้จักกับเชลซียุคแรกกันหน่อย

โลโก้นี้คือโลโก้เริ่มแรกของทีมเชลซี ผู้สูงอายุในวงกลมนั้น
เป็นหนึ่งในขุนนางที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง (ไม่เคยมีใครรู้ด้วยว่า
ผู้สูงอายุผู้นี้เป็นใคร) โลโก้นี้ไม่เคยใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์
บกอกเสื้อนักเตะมาก่อน อย่างไรก็ตาม จะปรากฎในตาราง
การแข่งขันและในจอทีวีบอกสกอร์ในสนามเท่านั้น ทำให้
The Pensioner จึงเป็นชื่อเล่นของทีมเชลซีเพื่อเป็นเกียรติ
ในฐานะที่เป็นโลโก้แรกของทีมในปัจจุบัน

***คำว่า Pensioner แปลตามพจนานุกรมเป๊ะๆ คือ ผู้มีสิทธิ
รับบำนาญ ในอังกฤษสมัยก่อนนั้น คนที่มีสิทธิ์ได้รับบำนาญ
คือขุนนาง หากเปรียบในสมัยนี้ คือข้าราชการนั่นเอง

โลโก้ที่สองเริ่มใช้ตั้งแต่ยุคกุนซือเท็ด เดร็คในปี 1952 อดีตกุนซือ
ผู้นี้เป็นผู้ปลุกกระแสให้คิดโลโก้ใหม่แทน The Pensioner และ
อีกจุดประสงค์หนึ่งก็คือเปลี่ยนชื่อเล่นทีมเป็น The Blues หาก
เราดูรูปให้ดี เราจะเห็น CFC -> Chelsea Football Club ซ้อนกัน
เพราะเหตุนี้ ในสมัยนั้น หากใครบอกว่าพวกเขาคือชาวสีน้ำเงิน
จะรู้ทันทีว่าเป็นแฟนบอลเชลซี

ซึ่งชื่อเล่นใหม่นี้ก็ได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม จนเป็นสีศักดิ์สิทธิ์
ของแฟนบอลเชลซีในช่วงนั้น

โลโก้ที่สามนี้เป็นโลโก้ที่โด่งดังมากที่สุด และเชลซีก็ใช้โลโก้นี้
เป็นเวลาถึง 33 ปี โลโก้ด้านนอกนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
แขนของเสื้อนอกของพระชั้นเหนือบิชอฟในเขตมณฑลเชลซี

ส่วนสิงโตสีน้ำเงินถือไม้เท้าสีทองได้รับต้นแบบมาจากแขนเสื้อของ
ขุนนางท่านหนึ่งนามว่า Earl Cadogan (Earl ไม่ใช่นามสกุลนะคะ
เป็นชื่อระดับชั้นขุนนาง ระดับเออร์ล) ซึ่งในสมัยนั้น ขุนนางผู้นี้
เป็นประธานของทีมเชลซีรวมทั้งได้รับความเห็นชอบจากขุนนาง
ระดับสูงกว่าระดับบารอนให้ใช้สิงโตถือไม้เท้าได้

***ไม้เท้า มีความหมาย หมายถึงความรู้ ศรัทธา จรรยาต่อ
พระผู้เป็นเจ้า ก็เหมือนกับพระระดับสูงมีไม้เท้าบอกระดับชั้นนะค่ะ
อีกทั้งในสมัยก่อน ศาสนจักรรุ่งเรืองมากกว่าอาณาจักร ทำให้
สัญลักษณ์อื่นใดก็ตามจากศาสนจักรนั่นเป็นสิ่งต้องห้าม

แต่ถึงกระนั้น เชลซีก็สามารถใช้ได้...เท่ห์แค่ไหน

โลโก้นี้ไม่ได้ใช้บนอกเสื้อนักเตะจนเมื่อถึงปี 1960 โลโก้นี้จึงเสร็จ
สมบูรณ์และใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอย่างที่เห็นในรูป

ถึงแม้ว่า โลโก้นี้จะไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโลโก้ประจำทีมโดยตรง
แต่ทีมเชลซีก็ใช้มาตั้งแต่ปี 1960-1970 แต่ทุกๆ คนก็เริ่มจะรู้จัก
และจำเชลซีในฐานะสิงโตน้ำเงินก็เพราะโลโก้นี้

ในปี 1986 เชลซีได้ปรับสี่โลโก้ให้เป้นโลโก้เดียวทำให้สินค้าของ
เชลซีพัฒนาและขายได้ โดยเฉพาะเสื้อและลูกฟุตบอล ในขณะที่
สิงโตและ CFC ยืนพื้นและไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งสีน้ำเงินก็ใช้เป็นสี
ของทีมเชลซีมาตั้งแต่โลโก้แรก

โลโก้นี้ใช้มาถึง 19 ปี แฟนเชลซีจึงจำเชลซีว่าเป็นทีมสิงโตน้ำเงิน
โดยสมบูรณ์ ถึงกระนั้นแฟนบอลและผู้สนับสนุนเชลซีกลับจำโลโก้
นี้ได้มากกว่าโลโก้ที่สาม แต่เมื่อเวลาผ่านไป แฟนเชลซีกลับต้องการ
ที่จะกลับไปใช้โลโก้แบบเก่าเพื่อจะนำทีมเชลซีสู่สมัยใหม่ การคิดค้น
โลโก้ใหม่จึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี 2004 ทีมเชลซีจึงได้โลโก้ใหม่ คือ
เดือนพฤษภาคม 2005 โดยเอาโลโก้ที่สามเป็นหลัก คือ
สิงโตสีน้ำเงินถือไม้เท้าสีน้ำเงินบนพื้นหลังสีขาว ซึ่งความหมาย
ของไม้เท้ายังไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่เปลี่ยนสีตามสีของทีม
เท่านั้น ซึ่ง ปีเตอร์ เคนยอน กล่าวว่า

ทีมเชลซีค้นหาโลโก้เพื่อบ่งบอกถึงตัวตนของเรามานานแสนนาน
เรามีประวัติศาสตร์กับสิงโตและสีน้ำเงิน สองสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับ
เชลซีทั้งสิ้น ทีมเชลซีก็มีอายุเกิน 100 ปีแล้ว แต่ทีมเชลซีก็จะใช้
โลโก้นี้ตลอดไป

ณ ตอนนี้ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ทีมไหน ต่างจำสิงโตสีน้ำเงิน
ในฐานะที่เป็นโลโก้ของทีมเชลซีไปหมดแล้ว ครั้นจะมีการเปลี่ยน
ก็ได้รับเสียงคัดค้านจากแฟนบอลทั่วโลก ถึงแฟนบอลจะมีไม่เยอะ
เท่าแมนยู ฯ และลิเวอร์พูล แต่ก็ทำให้สโมสรไม่อาจคัดใจแฟนบอล
ได้ ทีมเชลซีจึงใช้สัญลักษณ์นี้มาจนถึงปัจจุบัน

,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,


แถม เพื่อความรู้ของพวกเราชาวเชลซี Sun newspaper เคย
ออกแบบโลโก้ทีมเชลซีในคราวที่ทีมเชลซีมีอายุครบ 100 ปี
ด้วย


<><><><><><><><><<><><><><><><><><><><><><><>

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
http://www.chelseafc.com
http://theleftback.co.uk
http://www.oleole.com

www.teenee.com



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์