สิงห์บลูบู๊ไม่เดือน แต่ได้เห็นการเข้าทำที่เป็นระบบมากขึ้น !!

..........ต้องบอกว่าโปรแกรมการแข่งของ เชลซี ในช่วงแรกๆ นี่เป็นใจอย่างมากในการกอบโกยแต้มเลยนะครับ เปิดหัว 3 นัดด้วยการเจอทีมที่ไม่ค่อยหนัก แถมการเริ่มต้นได้สวยอันนำมาซึ่งสปิริตของทีมที่ดีกว่าเดิม

สรุปคือยังไงถ้าหากเป็นไปได้ก็คือไม่ควรจะพลาดในอีก 2 เกมข้างหน้าเช่นกัน

ทัพสิงห์บลูลงเตะวันเสาร์มา 3 นัดติดแต่ว่าสัปดาห์หน้าต้องลงเล่นวันอาทิตย์ซึ่งจะบุกไปเยือน เวสต์แฮม จากนั้นอีก 1 วีคค่อยกลับมาเล่นในบ้านต้อนรับ แบล็คพูล ทีมน้องใหม่
arsenal
คาร์โล อันเชล็อตติ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าฤดูกาลนี้ต้องเน้นเกมเยือนเป็นพิเศษ นัดไหนควรจะได้ 3 แต้มก็ต้องไม่พลาด ล่าสุดเว็บไซต์หลักสโมสรทำโพลสำรวจไว้ว่าทีมมีโอกาสจะทำลายสถิติในปี 2005 ได้หรือไม่ ?

ฤดูกาลนั้น เชลซี เริ่มต้นด้วยการชนะรวด 9 นัดติดต่อกันและใน 6 นัดแรกทีมไม่เสียประตูแม่แต่ลูกเดียว

6 นัดดังกล่่าวเริ่มจากการพบ วีแกน , อาร์เซน่อล , เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน , สเปอร์ , ซันเดอร์แลนด์ และ ชาร์ลตัน ซึ่งนัดที่พบกับ ชาร์ลตัน นั้นมีประตูสุดสวยตลอดการของ อาร์เยน ร็อบเบ็น ในเสื้อสีน้ำเงินเอาไว้ด้วย

ถ้าหากใครยังจำได้คือตอนนั้นทีมนำอยู่ 1 ลูกแต่สภาพความกดดันในสนามมีอยู่สูงมาก จะยิงบวกสกอร์ก็ทำไม่ได้แถมทีมดาบคู่ก็จ้องหาจังหวะรอสวนกลับ โชคดีได้ ร็อบเบ็น ปั้นโค้งด้วยซ้ายเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงามทำให้ทีมเล่นได้สบายหลังจากนั้น

อันที่จริงน่าจะรักษาสถิติคลีนชีทไว้ที่ 7 นัดติดต่อกันด้วยครับ เพราะพบกับ แอสตัน วิลล่า ในบ้านซึ่งแนวรับผิดพลาดนิดเดียวเลยทำให้เสียประตู

เพ็ตเตอร์ เช็ก ให้สัมภาษณ์อย่างละเอียดไว้ว่า ผมรู้สึกผิดหวังมากที่เซฟลูกนั้นไม่ได้ บอลโดนปลายมือผมแล้วแต่เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดเมื่อบอลพุึ่งไปถึงก้นตาข่าย เหนือสิ่งอื่นใดเราโดนนำ แต่ก็ต้องสู้ต่อไปจนสุดท้ายเราได้ 3 แต้มในเกมนั้น

ถึงตอนนี้พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ผ่านไป 3 เกม.. 2 นัดแรกยิงใส่คู่แข่งไส้แตกในการเล่นที่เฉียบขาดแต่รูปแบบการเล่นยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่นัก..

เกมเมื่อคืนที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้่พบกับ สโต๊ค ซิตี้ มีการคาดการไว้ว่า เชลซี ถล่มหม้อแหลกแน่.. แต่ค่อนกลับกันจากสิ่งที่หวังไว้เมื่อผู้ตัดสิน มาร์ติค แอตกินสัน เป่านกหวีด 90 นาทีจบเวลา

ใครจะมองว่ายิงน้อยหรือกระสุนหมดยังไงก็ช่าง แต่ผมพอใจกับรูปเกมมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยครับ

ทีมได้จุดโทษตั้งแต่ต้นเกมแต่ว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด สังหารพลาดนั่นคือจุดเปลี่ยนของเกม.. ผมเชื่อครับว่าถ้าได้่ประตูนั้นเกมน่าจะไหลเพราะ สโต๊ค ซิตี้ ต้องเปิดเกมสู้แล้วพื้นที่ข้างหลังเข้าทางเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัด
arsenal
แต่เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องรับในสิ่งที่เกิด สภาพจิตใจของแลมพ์หายเกลี้ยง แนวรับของทีมเยือนดันไลน์ต่ำยิ่งกว่าเก่า โอกาสจะหาพื้นที่เข้าไปจบสกอร์นั้นทำให้ยากยิ่งขึ้่นกว่าเดิมเอามากๆ

อย่างไรก็ตาม ยังไงก็ต้องเชื่อใจใน แลมพาร์ด ต่อไปครับ ของแบบนี้คนเรามันพลาดกันได้ ทำดีมามากโข พลาดบ้าง พลั้งบ้าง ก็ต้องเป็นกำลังใจให้ ไม่ใช่เอาเวลามาแขวะซูเปอร์สตาร์ของทีมคนนี้อย่างเดียว

ยังดีนะครับที่ทีมได้ประตูขึ้นนำจนได้ในครึ่งแรกจากจังหวะที่ จอห์น เทอร์รี่ ฝากบอลไปให้กับ อเล็กซ์ และเคาะกลับมาให้กัปตันแทงคิลเลอร์พาสไปถึง มาลูด้า ซึ่งยิงได้เฉียบขาดพอที่จะนำบอลผ่านมือ โธมัส โซเรนเซ่น ได้สำเร็จ

2 เกมก่อนหน้านี้ผมมองว่าเีราเน้นเรื่องความเฉียบขาดเกินไปครับ การเข้าทำแบบเป็นระบบหาไม่ค่อยเจอ ส่วนใหญ่เป็นจังหวะสวนกลับหรือไม่ก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัวล้วนๆ ของผู้เล่น

แต่นัดนนี้ชัดเจนมากคือ อันเชล็อตติ ปรับสปีดเกมให้เร็วขึ้น โจมตีด้านข้างด้วยฟูลแบ็คและแทงทะลุช่องตรงกลางหา ดร็อกบา ให้เก็บบอลเอาไว้แล้วไปปั้นเกมกันต่อ

ผมเคยเขียนเอาไว้แล้วว่า มาลูด้า กับ อเนลก้า ตามฟอร์เมชั่นเป็นปีกก็จริง แต่ทว่าในสนามจัดเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัดเข้ามาผ่านบอลมากกว่าครับ เพราะว่าหน้าที่ริมเส้นเป็นของ แอชลีย์ โึึคล และ เปาร์โล เฟอร์เรร่า

ถ้าหากทีมได้ โชเซ่ โบซิงวา กลับมาเกมรุกฝั่งขวาน่าจะมีทริคมากกว่านี้ ซึ่งรอกันอีกไม่นานครับ แบ็คขวาฉายา โปรถีบ จะกลับมาวาดลวดลายให้เราได้ชมกันอีกครั้ง แต่ก่อนอื่นอยากแนะนำให้ไปเจรจากับ เบนายูน ก่อนละกัน ฮา

อีกอย่างที่พัฒนาขึ้นมาในเกมนี้ก็คือการทำชิ่ง 1 - 2 ซึ่งเราได้เห็นมากขึ้น.. และที่สำึัคัญคือผมขอชื่นชมฟอร์มของ จอห์น โอบิ มิเกล มากที่สุดในเลยครับ เล่นได้เด่นที่สุดแผงกองกลาง

เอสเซียง เป็นสไตล์ชิงจังหวะซึ่งเกม สโต๊ค เปิดไม่กว้าง ทำให้ดูดรอปๆ ไปกอปรกับการที่ แลมพาร์ด กำลังใจหายมันเลยทำให้ประกายของ โอบิ มิเกล เด่นขึ้นมา

รูปร่างสูงใหญ่ ผ่านบอลฉลาด มีการวางบอลยาวมากขึ้น อนาคตเราได้เห็นหมอนี่ยืนเป็นตัวหลักแน่ๆ แถมมีสิทธิ์ลุ้นถึงกัปตันทีมเลยก็เป็นไปได้เหมือนกัน
arsenal
อีก 1 เรื่องที่ผมต้องขอพูดหน่อยก็คือ รามิเรส ได้ลงเล่นเกมแรกไปแล้ว ถึงแม้จะได้ไปเหยียบหญ้าอันเขียวขจีแค่ 5 นาทีก็เถอะ แค่นี้แฟนบอลก็ปลื้มใจแล้วครับ อายุแค่ 23 เป็นการซื้อเพื่อระยะยาว

ผมเคยวาดฝันไว้ว่าถ้าหากพวก แลมพาร์ด เลิกเล่นเราน่าจะได้เห็น รามิเรส เอสเซียง และ โอบิ มิเกล เป็น 3 ประสานพลังแบล็คกี้ที่ดูฟิตเปรี๊ยะน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

มีโอกาสที่ทีมจะได้ปรับระบบจาก 4 - 3 - 3 ไปเป็น 4 - 3 - 2 -1 หรือที่เรียกกันว่าแผนต้นคริสมาสต์สูงเลยครับ.. โอบิ มิเกล เล่นเป็นดีพไลน์อิ้ง เพลย์เมกเกอร์คอยยืนต่ำปั้นเกม

จากนั้นให้ ราิมิเรส กับ เอสเซียง เป็นตัวประคองและหวังผลจากเกมสวนกลับได้ ที่เหลือก็ฝากความหวังไว้ที่ตัวรุกข้างหน้าอีก 2 คนครับ จะเป็นใครก็ตามแต่คิดว่าถึงเวลานั้นคงไม่ใช่ มาลูด้า กับ อเนลก้า แล้ว

ภาวนาให้ทีมหาผู้เกมรุกมาถ่ายเลือดใหม่เร็วๆ ครับ รวมถึงตัวแทนของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ด้วยเพราะนักเตะแบบท่านเมพแมลงสาบหาได้ยากจริงๆ

3 นัดยิงได้ 14 ลูกและไม่เสียประตู ออกมารูปแบบนี้ยังไงแฟนบอลก็พอใจครับ.. เราได้เห็นการชนะต่อเนื่องและการเล่นที่มีครีเอทีฟมากขึ้น

โบราณเขาบอกว่าถ้าจะรักใครไม่ต้องรักมากแต่ขอให้รักนานๆ.. ในทางกลับกันถ้าหากเลือกได้แฟนบอล เชลซี ทุกคนขอเป็นแบบนี้น่าจะดีกว่า

ไม่ต้องยิงเยอะมาก แต่ให้ยิงเรื่อยๆ และรักษาสปิริตยอดเยี่ยมแบบนี้ต่อไปพวกเราึึคง Love Chelsea Forever เลยละจร้าาา


วันนี้ผมรีบเขียนมาก ถ้าหากคำพูดไม่ดูไม่ค่อยคลีนยังไงก็ขออภัยด้วยครับ เพราะเดี๋ยวจะต้องออกจากบ้านไปทำธุระนิดหน่อย แต่สัญญากับแฟนบอล เชลซี ใน Facebook เอาไว้แล้วว่าจะเขียนวันนี้ผมก็ต้องรักษาสัญญาครับ ฮา



เครดิต Petrboat  http://www.teenee.com/forum/viewtopic.php?f=12&t=29450






เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์