|
สิงห์บลู เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก พร้อมจัดผู้เล่นแนวรุกเต็มสูบเพื่อไล่ล่า 3 คะแนน ในการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ โบลตัน ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอังคารที่ 13 เมษายน 2553 เชลซี (อันดับ 1) - โบลตัน (อันดับ 15)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เกมตกค้างที่เลื่อนออกมาเนื่องจาก เชลซี มีคิวลงเตะเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการพบกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่ยังต้องดิ้นหนีตาย แต่ เดอะ ทร็อตเตอร์ส ไม่ชนะ เชลซี มาตั้งแต่ปี 2003 ที่ชนะ 2-1 โดย 13 เกมหลังจากนั้น เสมอ 3 และแพ้ถึง 10 เกม
คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเชลซี สบายใจได้ได้เปลาะหนึ่งเมื่อผู้ตามอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลุดเสมออีกแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ถ้าชนะ โบลตัน นัดนี้ จะฉีกหนีขึ้นไปเป็น 4 แต้ม ขณะเหลือ 4 เกม
อันเชล็อตติ ไม่มีปัญหาเพิ่มเติมจากเกมล่าสุดที่ถลุง แอสตัน วิลล่า 3-0 ในบอลถ้วย ซึ่งมีการสลับตำแหน่งบางจุด โดย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังสารพัดประโยชน์ ที่หายเจ็บเข่าฟิตพร้อมลงสนามแล้ว กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า ดาวยิงฝรั่งเศส เป็นสำรองเท่านั้น และจะกลับคืนตัวจริงนัดนี้
การที่ อิวาโนวิช กับ อเนลก้า จะกลับลงตัวจริง ทำให้ เปาโล แฟร์เรยร่า แบ็กโปรตุกีส กับ โจ โคล กองกลางอังกฤษ ต้องถอยไปนั่งสำรอง
แต่ อเล็กซ์ เซนเตอร์แบ็กแซมบ้า ยังต้องรอเช็กอาการว่า จะหายเจ็บพร้อมเล่นหรือไม่ หลังเจ็บข้อเท้าเล็กน้อย ซึ่งถ้าเล่นไม่ได้ อิวาโนวิช ก็จะขยับมาเล่นตรงกลาง แล้วให้ แฟร์เรยร่า เล่นแบ็กตามเดิม
สำหรับ โชเซ่ โบซิงวา (เข่า), ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ (ข้อเท้า), แอชลี่ย์ โคล (ข้อเท้า) และ มิชาเอล เอสเซียง (เข่า) ยังบาดเจ็บทั้งหมด
ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ดาวยิงไอวอรี่ โคสต์ ฟิตพร้อมลงล่าตาข่ายตามปกติ หลังยิง แอสตัน วิลล่า เมื่อวันเสาร์ ทำให้สะสมประตูรวมของตัวเองเป็น 32 เม็ด ในซีซั่นนี้แล้ว
ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, ยูริ ชีร์คอฟ แดนกลางมี จอห์น โอบี มิเกล, เดโก้, แฟร้งค์ แลมพาร์ด สามประสานหัวหอกใช้ ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
ด้าน โบลตัน ของ โอเว่น คอยล์ ไม่มีคิวเตะเมื่อสุดสัปดาห์ ล่าสุดคือแพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 เมื่อ 10 วันที่แล้ว กำลังมีแต้มเหนือโซนสีแดง 5 คะแนน ขณะเหลือเกม 5 นัดรวมนัดนี้
คอยล์ จะพร้อมใช้งาน โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้าสวีดิช ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไป แม้ว่าจะเย็บ 6 เข็มที่ศีรษะ จากเกมแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-4 แต่ก็เล่นตัวจริงต่อเนื่องกับ วิลล่า แม้จะถูกเปลี่ยนออกครึ่งหลังก็ตาม
การที่ เอลมานเดอร์ จะยึดตำแหน่งต่อ ทำให้ อีวาน คลาสนิช หัวหอกโครแอต ยังต้องรอโอกาสบนม้านั่งสำรองต่อไป เมื่อกองหน้าอีกตำแหน่งยังคงมีกัปตันทีม เควิน เดวี่ส์ จับจอง
แนวรับจะได้ พอล โรบินสัน แบ็กซ้าย ก็ฟิตสมบูรณ์แล้วอีกคน โดยลงเล่นตัวจริงไปกับวิลล่า และจะพร้อมเล่นเกมนี้ต่อ
มาร์ค เดวี่ส์ กับ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ สองกองกลาง พร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกสำหรับ คอยล์ อีกครั้งหลังเจ็บไปก่อนหน้านี้ แต่คาดว่าต้องนั่งสำรองไปก่อน
อี ชุง-ยอง กองกลางเกาหลีใต้ ก็จะลงตัวจริงอีกนัดเช่นกัน หลังกลายเป็นตัวหลักไปแล้วจากฟอร์มที่น่าประทับใจ และลงเล่น 33 นัด ยิง 5 ประตู ในซีซั่นนี้
ส่วนในราย กาวิน แม็คแคน (ข้อเท้า), ฌอน เดวิส (ข้อเท้า), คริส บาแชม (เข่า) และ โจอี้ โอไบรอัน (เข่า) ยังไม่พร้อมเล่นทั้งหมด
เช่นกันกับ สจ๊วร์ต โฮลเด้น กองกลางทีมชาติสหรัฐอเมริกา ยังไม่พร้อมมีส่วนร่วม หลังจากกระดูกแตก และตั้งเป้าหมายคืนสนามไว้ใน 2 เกมสุดท้ายของซีซั่นเท่านั้น
เดอะ ทร็อตเตอร์ส ใช้ระบบการเล่น 4-4-2 ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แซต ไนท์, พอล โรบินสัน แดนกลางมี อี ชุง-ยอง, ฟาบริซ มูอัมบ้า, ทาเมียร์ โคเฮน, แจ็ค วิลเชียร์ คู่หน้า เควิน เดวี่ส์ ยืนคู่ โยฮัน เอลมานเดอร์ ต่อ
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, ยูริ ชีร์คอฟ - จอห์น โอบี มิเกล, เดโก้, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
โบลตัน (4-4-2) : ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น - เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แซต ไนท์, พอล โรบินสัน, อี ชุง-ยอง, ฟาบริซ มูอัมบ้า, ทาเมียร์ โคเฮน, แจ็ค วิลเชียร์ - เควิน เดวี่ส์, โยฮัน เอลมานเดอร์
ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย
สิงห์ขี่ไม่แพ้ 12 นัดรวด, 3 เกมหลังซัดโหล
สำหรับสถิติการเจอกันระหว่างทั้งสองทีมทุกรายการก่อนหน้านี้ เชลซีชนะ 46, โบลตันชนะ 36 และเสมอ 28 โดย 12 เกมหลังสุดในลีก สิงห์บลูส์ ไม่แพ้เลย (ชนะ 9 เสมอ 3) ตั้งแต่เดอะ ทร็อตเตอร์ส บุกมาชนะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-1 ในเดือนธันวาคม 2003
ขณะเดียวกัน สิงห์บลูส์ยิงได้ 12 ประตูจาก 3 เกมหลังสุดที่เจอคู่แข่งรายนี้ทุกรายการ (ชนะ 4-0 ทั้งในลีก และคาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาลนี้ รวมถึง 4-3 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่แล้ว) ทั้งนี้ สิงโตน้ำเงินครามทำประตูโบลตันได้ 19 เกมติดต่อกันทุกรายการตั้งแต่บุกแพ้ 0-1 เมื่อ 26 ตุลาคม 1997
อันเช่ชี้พรีเมียร์สำคัญกว่าเอฟเอ
คาร์โล อันเชลอตติ ผู้จัดการทีมเชลซี ออกมาประกาศชัดเจนว่าต้องคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มาครองให้ได้ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ หลังจากถล่มแอสตัน วิลล่า 3-0 ในเกมรอบรองชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา
ขุนพล สิงโตน้ำเงินคราม เพิ่งลงเตะเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีกมีโอกาสกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง ในการลงเตะวันอาทิตย์ แต่กลับทำได้แค่ออกไปเสมอแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-0
อันเชลอตติยืนยันว่า เป้าหมายหลักคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และเมื่อถูกถามว่าจะพอใจหรือไม่ ถ้าเขาคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ได้เพียงใบเดียวคงไม่พอ โดยกล่าวถึงเกมวันอังคารนี้ว่า เราเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน ผมจึงขอบอกว่าผมยังไม่พอใจแค่นั้น ผมต้องการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ กุนซือชาวอิตาเลียนยังย้ำให้ลูกทีมมุ่งมั่นแบบเกมต่อเกม และอย่าเพิ่งพอใจแม้ทีมมีโอกาสคว้าดับเบิ้ลแชมป์ เรามีปัญหามากมาย แต่เราไม่เคยเสียความมั่นใจ หรือการมองโลกในแง่ดี เราเสียนักเตะไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ เมื่อเดือน ม.ค. แต่ผู้เล่นที่เข้ามาก็ทำได้ดี จนถึงตอนนี้ทีมทำได้ดี นี่อาจเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของเรา แต่เรายังไม่ได้คว้าแชมป์อะไรเลย
|
|