ก็ขอต้อนรับเทศกาลฟุตบอลโลกด้วยบทความบทนี้ ซึ่งก็ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับการ์ตูนเกี่ยวกับฟุตบอลครับ หากจะพูดถึงการ์ตูนแนวกีฬาแล้วละก็ ฟุตบอลนั้นก็จัดว่าเป็นกีฬาที่ถูกนำไปแต่งเป็นการ์ตูนมากที่สุดอีกชนิ
หมายเหตุ วงเล็บข้างหลัง คือ ชื่อผู้แต่งเรื่องนั้นๆ
1.กัปตันซึบาสะ (โยอิจิ ทาคาฮาชิ)
หากจะพูดถึงการ์ตูนฟุตบอลที่ยอดฮิตตลอดกาลในบ้านเรา และ หลายคนมักนึกถึงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย นั่นก็คือ กัปตันซึบาสะ ครับ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นการ์ตูนฟุตบอลที่คลาสสิค และ เป็นการ์ตูนที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆหรือใครหลายคนนั้น อยากจะเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจแบบ โอโซระ ซึบาสะ ให้ได้ โดยตามเนื้อเรื่องนั้น ซึบาสะ จะใช้ชีวิตอยู่กับกีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด เพราะ ฟุตบอลนั้น คือ เพื่อนของเขา จุดที่สร้างตำนานความยิ่งใหญ่ของซึบาสะ นั่นก็คือ เขาพาทีม นันคัทสึ ซึ่งเป็นทีมโรงเรียนของเขา ชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลทั่วประเทศ โดยล้มทีม รร.เมวะ ที่มี เฮียวงะ โคจิโร่ลงได้ หลังจากประสบความสำเร็จกับนันคัทสึแล้ว ซึบาสะก็จากญี่ปุ่น เพื่อไปฝึกฟุตบอลกับทีม เซาเปาโล ในบราซิล ตามคำชักชวนของ โรแบร์โต้ ฮอนโง ผู้ที่ทำให้ซึบาสะรู้จักกับความสนุกในกีฬาฟุตบอลนั่นเอง หลังจากที่ซึบาสะกลับจากบราซิล เขาก็ติดทีมเยาวชนทีมชาติญี่ปุ่น และได้ไปแข่งขันในระดับโลก ซึบาสะนั้นก็ได้ฝ่าฝันกับอุปสรรค์นานับประการ และได้ประลองกับักฟุตบอลฝีเท้าดีอย่าง นาตูเลซา(บราซิล) คาร์ลไฮน์ ชไนเดอร์(เยอร์มัน) นายทวารมุลเลอร์(เยอร์มัน) จนกระทั่งได้แชมป์โลก และ ท้ายที่สุดเขาก็ได้ไปค้าแข้งที่ยุโรป กับทีม บาร์เซโลน่า ในที่สุด
ในการ์ตูนเรื่องนี้นั้น ไม่เพียงแค่ ซึบาสะ จะมีบทเด่นเท่านั้น ยังมีคาแร็คเตอร์ตัวอื่นๆที่ผู้อ่านมักจำกันได้อย่าง ซานาเอะ เพื่อนสาวผู้ที่คอยเชียร์ซึบาสะตลอดเวลา วากาบายาชิ โกล์ฝีมือดีจากทีมฮัมบูร์ก วากาชิมัตซึ โกล์จอมลีลาทีมชาติญี่ปุ่น สองพี่น้องฝาแฝดทาจิบานะ กับ ท่าเหินอากาศอันมหัศจรรย์ อิชิซากิ กองหลังจอมทุ่มเทที่เป็นเพื่อนคนสนิทของซึบาสะ และ มิซากิ คู่หูของซึบาสะ ในแดนหน้า และ เฮียวงะ กองหน้าเลือดร้อนประจำทีมชาติญี่ปุ่น เป็นต้น
และด้วยความคลาสสิคของซึบาสะนั้น โดยเฉพาะเนื้อเรื่องนั้น ก็เลยถูกการ์ตูนเรื่องหลังๆบางเรื่องนำมุขจากการ์ตูนเรื่องนี้มาใช้ โดยเฉพาะ ท่าไม้ตาย ซึ่งสึบาสะนั้น ก็มี ไดรฟ์ ชู้ต เป็นท่าประจำ ส่วน เฮียวงะ ก็มี ไทเกอร์ช็อต ชไนเดอร์จากเยอร์มัน ก็มี ไฟเออร์ ช็อต เป็นท่าไม้ตายเป็นต้น แถม เรื่องนี้นั้น ก็มีมุขที่คนอ่านหลายคนจดจำนั่นก็คือ ขณะที่พวกเขาเล่นฟุตบอลอยู่ ก็มักจะนึกถึงอดีตในเรื่องต่างๆไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝนมาอย่างหนักเกินมนุษย์ มิตรภาพระหว่างเพื่อน แถมคิดแต่ละทีก็ยาวนานเหลือเกิน ก็เลยสงสัยว่า ผ่านไปตั้งครึ่งชั่วโมงแล้วยังส่งบอลไม่ถึงฝั่งตรงข้ามเลย!!!!
ถึงแม้ในปัจจุบันนั้น เรื่องนี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนแต่ก่อน อันเนื่องมาจากพล็อตเรื่องที่ยังไม่พัฒนาไปพร้อมๆกับการเติบโตของตัวละคร แถมมุขที่ใช้ก็ซ้ำซาก แต่ก็เพราะมุขที่ซ้ำซากเนี่ยแหละที่ทำให้ผู้อ่านไม่มีวันลืมการ์ตูนฟุตบอล เรื่องนี้ ถึงแม้ว่า เนื้อเรื่องของซึบาสะอาจดูเพ้อฝันหรือเพ้อเจ้อสำหรับใครบางคน แต่เรื่องนี้นี่แหละ ก็ทำให้เป็นการสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนญี่ปุ่น ทำให้พวกเขาฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อจะเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง และ ในที่สุด ทีมชาติญี่ปุ่นก็กลายเป็นทีมชั้นนำระดับโลก มีนักเตะฝีเท้าดีไปค้าแข้งในลีกดังๆในยุโรป ชนิดที่บางชาติที่เคยข่มว่าเมื่อก่อนเคยชนะญี่ปุ่นขาดลอยนั้นแทบอายม้วนเลย (แถมจนบัดนี้รอบสุดท้ายก็ยังไม่เคยไปกับเขาเลย.......)
2.อิตโต้ นักเตะเลือดกังฟู (โมโตคิ มอนมะ)
การ์ตูนฟุตบอลอีกเรื่องหนึ่ง ที่แฟนๆฟุตบอลที่เป็นคอการ์ตูนหลายคนต่างก็จดจำกันได้ กับ นักฟุตบอลหนุ่มร่างเล็กที่แฝงกับความกวนที่ชวนให้คนอื่นๆปวดหัวกันบ่อยๆ เขาก็คือ อิตโต้ ครับ ในปัจจุบัน เรื่องนี้มีทั้งหมด 2 ภาค ซึ่งภาคแรกจบชุดไปแล้ว ส่วนภาคสองเนื้อเรื่องยังคงดำเนินต่อไป จุดเด่นๆของอิตโต้นั้น จะไม่เน้นดราม่า แต่จะเน้นไปที่มุขตลกในสนามแข่งขันมากกว่า แถมมุขแต่ละมุขของอิตโต้นั้น ถ้าใครได้อ่านรับรองว่า หัวเราะงอหายแน่ๆ ยิ่งภาคสองยิ่งทวีความฮาเป็นเท่าตัว เพราะ บ้ากันทั้งทีม(ฮา) คาโทริ อิตโต้นั้น ก็เป็นที่รู้จักกันนอกจากจะเป็นกองหน้าร่างเล็กแล้ว แถมฝีมือทางด้านกังฟูก็อยู่ในระดับสูงถึงขนาดฆ่าคนได้ แถมก็เป็นคนที่มักสร้างความวุ่นวายทั้งในและนอกสนาม(และต้องมีเรื่องกับผู้ เล่นฝ่ายตรงข้ามตอนก่อนแข่งทกที ไม่รู้เป็นอะไร) ถึงแม้เขาจะเป็นตัวสร้างความวุ่นวาย และ ความฮาประจำทีม แต่ในสนาม อิตโต้กลายเป็นกำลังสำคัญ เพราะเขามักยิงประตูสำคัญๆ(ด้วยท่ายิงแปลกๆ)ที่ทำให้ทีมประสบกับชัยชนะได้ เสมอ โดยจุดเริ่มตำนานของอิตโต้นั้น ก็เริ่มต้นด้วยการที่ อิตโต้ และ เพื่อนร่วมทีมอย่าง คาซึมะ กับ มาโคโตะ ก็สร้างความยิ่งใหญ่กับทีมโรงเรียนเซงะ ในการชิงแชมป์ระดับประเทศในระดับม.ต้น พออยู่ม.ปลาย อิตโต้ ก็ต้องแยกจากเพื่อนๆที่เคยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ม.ต้นไป และเขาก็ได้ร่วมทีม เมอิโฮ และได้เพื่อนร่วมทีมใหม่อย่าง เนสึ กับ ฮานิว รวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆที่จะสร้างความบ้าและความฮามากกว่าภาคแรก และ ในตอนนี้ อิตโต้จะต้องพาเมอิโฮได้รับชัยชนะในระดับประเทศ และ จะต้องชิงชัยกับ เซงะ ของ คาซึมะ อดีตเพื่อนร่วมทีมในสมัยม.ต้นของอิตโต้ ไม่ก็วันใดก็วันหนึ่งล่ะ //แต่ในภาคสองยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต่างจากภาคแรก นั่นก็คือ เรื่องนี้ไม่มีตัวละครหญิงเป็นตัวเด่นเลย (ว่าแต่เรื่องนี้มีนางเอกจริงๆเรอะ)
3.Whistle! ไอ้หนูแข้งทอง(ไดสุเกะ ฮิงูจิ) และ
4. ยิงประตูสู่ฝัน(มุราเอดะ เคนอิจิ)
สำหรับการ์ตูนสองเรื่องนี้ ถึงความดังอาจสู้สองเรื่องบนนั้นไม่ได้ แต่ทั้งสองเรื่องนั้นก็มีก็จัดว่าเป็นการ์ตูนฟุตบอลที่มีเสน่ห์ตรงไม่ขาย ความเว่อร์ แต่เน้นดราม่าและความสมจริงของเนื้อเรื่องมากกว่า
โดยWhistle! นั้น เป็นเรื่องราวของ คาซามัตซึริ โช นักฟุตบอลจากรร.มุซาชิโนะโมริ ที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอล แต่ด้วยความที่เขาไม่ได้รับโอกาสให้ได้เป็นนักกีฬาตัวจริง เขาจึงย้ายไปเรียนที่ รร.ซากุระโจซุย แทน เพื่อโอกาสเป็นนักฟุตบอลตัวจริง ถึงเขาจะรูปร่างเล็ก แต่เขาก็มีความพยายามตั้งใจสูง ด้วยความพยายามของเขา ทำให้เขายกระดับไปเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้าของทีมโรงเรียนได้สำเร็จ เช่นเดียวกับเรื่อง ยิงประตูสู่ฝัน ก็เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงความพยายามของนักฟุตบอล ที่พวกเขาจะต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคนานับประการเพื่อที่จะทำให้ความฝันของพวก เขานั้นเป็นจริงให้ได้ แถมอ่านแล้วก็ซึ้งมากซะด้วยสิ ก็จัดว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนฟุตบอลที่ไม่ควรพลาด เหมาะกับคอการ์ตูนที่ชอบอ่านการ์ตูนที่อิงกับโลกแห่งความเป็นจริง
5.ชู้ต (สึคาสะ โอชิม่า)
สำหรับ ชู้ต นั้นก็เป็นการ์ตูนที่เด่นในแง่ของความพยายามในการสร้างตำนาน(อันยืดยาด (ฮา) ) ของทีมโรงเรียนสองโรงเรียน โดยภาคแรกนั้นก็เป็นเรื่องราวของการสร้างตำนานของทีม คาเคงาวะ หลังจากการตายของนักฟุตบอลเสาหลักของทีมอย่าง คุโบ ก็ทำให้นักฟุตบอลรุ่นน้องในทีม รวมถึงคนอื่นๆต่างก็ทุ่มเทเต็มทีในการแข่งขัน จนประสบความสำเร็จในระดับประเทศทำให้หลายต่อหลายคนต่างพากันพูดถึง และก็นำไปสู่ในการสร้างตำนานบทที่สอง ของทีมโรงเรียนที่ไม่เด่นเรื่องฟุตบอลอย่าง คุริฮามะ ซึ่งนักฟุตบอลของทีมนี้ต่างก็ฝึกฝนพยายามอย่างหนักในการพาทีมให้ได้รับชัย ชนะในการลงแข่งขันในระดับประเทศ และพวกเขาก็สามารถผ่านทีมแกร่งๆทีมแล้วทีมเล่า จนในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอกับทีมตำนานในบทแรก อย่าง คาเคงาวะ ถึงแม้ว่า คาเคงาวะ จะได้รับชัยชนะ แต่ คุริฮามะก็สามารถเอาชนะใจคนดูได้เหมือนกัน จุดเด่นๆของการ์ตูนเรื่องนี้ก็คงจะเป็นการนำเอาความโม้ไปปนกับความดราม่าของ เนื้อเรื่องได้อย่างลงตัวซะทีเดียว
6.Viva Calcio(สึคาสะ ไอฮาระ)
มาเปลี่ยนบรรยากาศจากฟุตบอลโรงเรียน มาเป็นฟุตบอลอาชีพระดับโลกกันบ้าง ฟีฟ่า กัลโช่ นั้นก็จัดเป็นเรื่องหนึ่งที่น่าจะสร้างความฝันและแรงบันดาลใจของเยาวชน ญี่ปุ่นที่ฝันว่าอยากจะค้าแข้งในลีกดังๆในยุโรป และ คาดว่าผู้แต่งคงจะได้แรงบันดาลใจมาจากการที่ คาซูโยชิ มิอุระ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น ได้ไปค้าแข้งกับทีม เจนัว ในลีกกัลโช่ เซเรีย อา ของอิตาลี่ ซึ่งตามเนื้อเรื่องนั้น ก็เป็นเรื่องราวของ โย ชิอินะ หรือ ชีน่า หนุ่มชาวญี่ปุ่นก็ได้รับโอกาสสูงสุดในชีวิต ด้วยการไปค้าแข้งกับ ทีมฟิออเรนติน่า ในลีกกัลโช่ เซเรีย อา และ เขาก็ได้เพื่อนร่วมทีมซึ่งเป็นนักฟุตบอลดังในสมัยนั้นอย่าง กาเบรียล บาติสตูต้า และ รุย คอสต้า ชีน่าก็กลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมม่วงมหากาฬ ให้กลายเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์กับ เอซี มิลาน ได้อย่างสูสี ซึ่งในสนามนั้น ชีน่านั้นจะต้องต่อสู้กับสตาร์ดังระดับโลกแทบทั้งสิ้น เช่น อเล็กซานโดร เดลปิเอโร่,จูเซปเป้ ซินญอรี่,ฟรังโก้ บาเรซี่,มาร์แซล เดไซญี่,จอร์จ เวอาห์,โรแบร์โต้ บักโจ้ เป็นต้น โดยรวมนั้นก็เป็นการ์ตูนฟุตบอลที่อ่านได้เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าความสามารถของหนุ่มชีน่านั้นจะเก่งเหนือโลก เหนือกว่า สตาร์ระดับโลกที่มีตัวตนจริงๆแทบทั้งสิ้นก็ตามที