สิงห์บลูส์ระบายยำวีคอมบ์ 4-0

เชลซี ระบายความอัดอั้น เปิดบ้าน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่ม วีคอมบ์ ทีมจากลีก ทู แบบไม่ยั้ง 4-0 จากผลงานของ อังเดร เชฟเชนโก้ และ แฟรงก์ แลมพาร์ด ซึ่งรับหน้าที่ซัดคนละ 2 ประตู ในศึก ฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รองรองชนะเลิศ นัดที่ 2 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดทีมจากเกาะอังกฤษผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ด้วยผลประตูรวม 2 นัด ชนะขาดลอย 5-1

รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ประจำวันอังคารที่ 23 มกราคม 2550
เชลซี 4-0 วีคอมบ์
(นักแรกเสมอ 1-1, เชลซีชนะประตูรวม 5-1)

โฮเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ทีมดังจากพรีเมียร์ชิป อังกฤษ จัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม หวังล้างตาจากความพ่ายแพ้ต่อ หงส์แดง ลิเวอร์พูล 0-2 ในเกมลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเกมนี้ได้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารที่หายจากอาการบาดเจ็บลงเล่นเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน

ส่วน ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กองหลังชาวโปรตุเกสซึ่งชวดลงเล่นนัดที่แล้ว เนื่องจากไม่สบาย ได้รับโอกาสเป็นตัวจริง ขณะที่ คู่กองหน้าเป็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ อังเดร เชฟเชนโก้ ทางด้าน พอล แลมเบิร์ต ผู้จัดการทีมวีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ของลีก ทู ไม่เจอปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน สามารถจัดผู้เล่นได้อย่างสบายซึ่งเป็นชุดเดิมจากนัดแรก อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าชาวยูเครนของเชลซี ทุ่มเทตลอดเกม

เริ่มต้นเพียงไม่ถึง 1 นาที เชลซี ก็บอมใส่ วีคอมบ์ ทันที เมื่อ มิชาเอล บัลลัค เปิดโด่งมาหน้าประตู ทว่า อังเดร เชฟเชนโก้ วิ่งโฉบมาโหม่งไม่ทัน ผ่านไป 14 นาทีเกมรุกของเชลซีดูน่ากลัวขึ้น จนแนวรับของทีมเยือนเกือบเอาไม่อยู่

อย่างไรก็ตาม เจ้าบ้านมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาที 22 จากความผิดพลาดของ ทอมมี่ โดเฮอร์ตี้ มิดฟิลด์ของวีคอมบ์ที่ต้องการจ่ายบอลคืนเพื่อน แต่ไปเข้าทาง เชฟเชนโก้ ที่วิ่งสอดขึ้นฉกแล้วจัดการหลุดเดี่ยว ก่อนยิงเรียดด้วยขวาผ่านมือของบาติสต้าชนโคนเสาด้านในเข้าตาข่ายอย่างสวยงาม

วีคอมบ์ ก็หาทางทำเกมรุกขึ้นมากดดันเจ้าบ้านได้บ้าง โดยในนาที 25 ทอมมี่ มูนี่ย์ วอลเลย์ด้วยซ้ายจากกรอบซ้ายในเขตโทษระยะ 12 หลา แต่ไม่ตรงตาข่าย ถัดมาในนาที 32 สเตฟาน โอ๊คส์ ลองเสี่ยงซัดไกลระยะ หลา ตรงกลางปากประตูแต่บอลลอยโด่งข้ามคาน

นาที 34 เชลซีมาได้ฟรีคิกจากการทำฟาวล์ บัลลัค รับหน้าที่ตะบันแต่ไปติดกำแพงซึ่งโดนมือของเบตซี่ กระดอนออกมา ผู้เล่นของเจ้าบ้านเข้าไปประท้วงจะเอาแฮนด์บอล ทว่าผู้ตัดสินไม่เห็นจังหวะดังกล่าว จึงปล่อยให้เล่นต่อไป

ช่วงท้ายเกมของการแข่งขัน วีคอมบ์ซึ่งจวนจะตีเสมอหลายครั้ง แต่กลับเป็นเจ้าบ้านมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 ในนาที 43 เมื่อ ดร็อกบา ชิบให้ เชฟเชนโก้ ควบบอลหนีกองหลังทีมเยือนก่อนดีดด้วยขวาสวนตัวผู้รักษาประตู ตุงตาข่าย ถัดมา 2 นาที ทีมเยือน เกือบตีไข่แตกจากจังหวะที่ เควิน เบตซี่ เลี้ยงตัดเข้ามาหน้าประตู แต่ทาง ปีเตอร์ เช็ก ออกมาตัดไว้ได้อย่างหวุดหวิด ทำให้จบ 45 นาทีแรก เชลซี นำ 2-0

ครึ่งหลังเริ่มขึ้นมา เชลซี ยังคงเป็ยฝ่ายครองเกมบุกได้มากกว่า โดยในนาที 53 เจ้าบ้านมาพลาดโอกาสหนีห่าง จากจังหวะการลากบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายของ เชว่า แล้วเลี้ยงเข้าในกรอบเขตโทษหลา ทว่าไม่เข้าประตู ถัดมาอีก 3 นาที เอสเซียง เปิดยาวข้ามแนวรับของวีคอมบ์ ดร็อกบา วิ่งรับบอล แต่ซัดฉากเสาสองออกไปอย่างหวุดหวิด

นาที 59 วีคอมบ์มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อปรับเกมรุกให้ดีขึ้น โดยส่ง แซม สต็อควี่ย์ ลงมาแทน วิลล์ แอนต์วี เกมผ่านไป 1 ชั่วโมง สิงโตน้ำเงินคราม ยังเล่นได้อย่างเหนือชั้นกว่ามากและมาได้ประตูฉีกออกไปเป็น 3-0 ในนาที 69 จากจังหวะที่ เชว่า โยนบอลโด่งให้ แลมพาร์ด วิ่งแซงกองหลังออกไปรับโดยมีทางผู้รักษาประตูของทีมเยือนออกมาสกัดแต่ดันพลาดไม่ได้บอล ทำให้ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ กระดกหลอกแนวรับของคู่ต่อสู้ก่อนจิ้มด้วยขวาเข้าประตูไป

และมาพลาดโอกาสทองอีกครั้ง ในนาที 74 เมื่อ ดร็อกบา ใจกว้างถวายพานให้ มิเกล ที่ยืนจากหน้าปากประตูแต่กลับยิงไม่เข้า เข้าสู่นาที 83 เจ้าบ้านมาเปลี่ยนตัวผู้เล่น 3 คนรวด ได้แก่ ชอน ไรท์ ฟิลลิปส์, นูโน่ โมเรส และซาโลมอน คาลู ลงมาเล่นแทน มิชาเอล บัลลัค , แอชลี่ย์ โคล และ อังเดร เชฟเชนโก้ ตามลำดับ

ท้ายเกมของการแข่งขัน สิงโตน้ำเงินคราม เดินหน้าบดอย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูปิดกล่อง 4-0 จาก แลมพาร์ด นาที 90 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หลังจากนั้น ทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้ หมดเวลา 90 นาที เชลซี ถล่ม วีคอมบ์ แบบเละเทะ 4-0 รวมผลทั้ง 2 นัด ชนะ 5-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลคาร์ลิง คัพ เป็นสมัยที่ 2 ของการคุมทีมของ มูรินโญ่ โดยจะไปรอพบผู้ชนะ ระหว่าง สเปอร์ส กับ อาร์เซนอล ซึ่งจะทำการแข่งขันในวันพุธที่ 24 มกราคม 2550

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, มิคาเอล เอสเซียง, แอชลี่ย์ โคล, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, โคล้ด มาเกเลเล่, มิชาเอล บัลลัค ,แฟรงก์ แลมพาร์ด ,จอห์น โอบี มิเกล, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, อังเดร เชฟเชนโก้

วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส : ริคาร์โด้ บาติสต้า, วิลล์ แอนต์วี, สกอตต์ กอลเบิร์น, ไมค์ วิลเลียมสัน, เควิน เบตซี่, แมตต์ บลูมฟิลด์, ทอมมี่ โดเฮอร์ตี้, รัสเซลล์ มาร์ติน, สเตฟาน โอ๊คส์, เจอร์แมน อีสเตอร์, ทอมมี่ มูนี่ย์

ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ