ศึกล้มยักษ์ใน วิลล่าพาร์ค ที่ไม่ต้องโทษใครนอกจากตัวเอง !!!

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจลงอ่างฟาดแข้งเพื่อชิงตั๋ว เวิร์ลคัพ 2010 ไปเมื่อกลางสัปดาห์.. ความคุ้นเคยที่เหมือนเดิมกลับมาอีกครั้งในฟุตบอลลีก.. อารมณ์ของเกมทีมชาติและสโมสรต่างกันโดยสิ้นเชิงเพราะเรามีวินิจฉัยการเชียร์ที่ไม่เหมือนกัน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้กระแส ไทยลีก ฟีเวอร์ มาแรงแบบฉุดไม่อยู่.. ใครจะบ้าบอลนอกมากเท่าไหร่ก็ตาม.. เชื่อได้ว่าคงอดใจไม่ไหวที่จะสละเวลามานั่งเชียร์เกมลูกหนังชาติเกิดของตนเอง

ล่าสุดที่จบไปเมื่อไม่นาน.. พัทยา ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ต้อน จุฬา ไปแบบสุดมันส์ 2-1 ทำให้ถึงตอนนี้ จุฬา ตกชั้นไปเรียบร้อยแล้วท่ามกลางความเสียใจของเหล่าแฟนบอลที่หลั่งไหลเข้ามาเชียร์..

เหมือนที่บอกไว้ละครับ.. อารมณ์มันต่างกันแบบคนละขั้ว.. ดูเกมทีมชาติฟัดเหวี่ยงคัดเลือกบอลโลกคงจะเชียร์ได้ไม่เต็มสตรีมเพราะไม่ใช่ประเทศของเรา.. ดูบอลลีกได้ความรู้สึกสนุกสุดเหวี่ยงและสะใจเมื่อเห็น เวนย์ รูนี่ หรือ เฟอร์นานโด ตอเรส ลงไปโชว์ฝีเท้าในสนาม..

แต่พอมาดูบอลไทยแล้วดันขนลุกอย่างบอกไม่ถูก.. คำว่า บอลนอกแค่สะใจ บอลไทยอยู่ในสายเลือด มันมีมนต์ขลังที่ทำให้เราต้องติดตามเพราะ ภูมิใจ ที่ทำได้และเราก็ยังตระหนักเข้าไปข้างในอีกว่า ดีใจ ที่ได้ทำ..

เมื่อคืนวันเสาร์ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก เกมระหว่าง แอสตัน วิลล่า กับ เชลซี ถือได้ว่า พลิกล็อค ในเรื่องของชื่อชั้น.. แต่ถ้าหากใครได้ชมเต็มๆ คงรู้ดีว่าฝีมือของ มาร์ติน โอนีล ร้ายกาจขนาดไหน

คู่เซนเตอร์ฮาร์ฟฟอร์มดีทั้ง รุก และ รับ จากหลักฐานที่ฟ้องใน 2 ประตูของ ริชาร์ด ดัน และ จอห์น คอลลิน กอปรกับการที่เกมคอนโทรลของ เชลซี พอจะเจาะแนวรับได้บ้างแต่ก็มิอาจเปลี่ยนเป็นประตู..

แน่นอนว่า แอสตัน วิลล่า เล่นได้อย่างนี้ย่อมไม่ธรรมดา.. ตารางคะแนนไม่เคยโกหกใครแต่เกมนี้เกมเดียวสามารถตีโจทย์ได้ว่าผลงานของ มาร์ติน โอนีล ที่ฟอร์มดี 2 ฤดูกาลติดมันไม่ใช่เรื่องฟลุ๊กๆ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ 2 ประตูที่ทำได้มาจาก เซตเพลย์ ที่แก้ไม่ตกของ เชลซี ตั้งแต่ยุค สโคลารี่..

ประตูขึ้นนำของ เชลซี มาจากความเฮงที่ ดิดิเยร์ ดร๊อกบา ตะบัดเต็มข้อบอลลอยโด่งและเดาทิศทางยาก.. ในขณะเดียวกัน แบรด ฟรีเดล ล้มตัวเตรียมรับบอลทันทีแต่มันดันเด้งพื้นซะก่อนเลยอ่านจังพลาดไปและพลั้งเป็นสกอร์..

ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดเกมแลกเข้าใส่กันโดยเป็นทาง เชลซี ที่คุมเกมอยู่แต่จังหวะได้เสียวส่วนใหญ่มักไปตกทางฝั่งเจ้าบ้าน.. ลูกเตะมุมบ่อยครั้งของ วิลล่า ไม่สามารถเล่นงานทัพสิงโตน้ำเงินครามได้ในช่วงแรก..

เห็นได้ชัดคือเมื่อซีซั่นก่อน เชลซี ของ กุส ฮิดดิ้ง ก็เจอ แอสตัน วิลล่า จู่โจมด้วยลุกครอสจากด้านข้างเพื่อหวังประโยชน์จากความสูงใหญ่ของกองหน้า.. แต่ทว่าบอลที่ลอยอยู่บนกลางอากาศนานเกินไปทำให้ผู้รักษาประตูรูปร่างสูงใหญ่อย่าง เพตเตอร์ เช็ก ออกมาคว้าไว้ได้หมด..

เช่นกันว่าแมทนี้ก็เป็นเช่นนั้น.. ความพยายามของ เจมส์ มิลเนอร์ กับ แอชลีย์ ยัง ที่มีโฟกัสไปที่ ยอห์น คาริว ไม่อาจผ่านแนวรับอันแข่งแกร่งของ เชลซี และ เพตเตอร์ เช็ก เช่นเดิม..

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากชม มาร์ติน โอนีล จากใจจริงก็คือแก้ทางตันด้วยการปีนข้ามกำแพงไปในลูกเตะมุมเพราะมันมีมิติมากกว่า..

ประตูตีเสมอมาจากการผิดพลาดของ แลมพาร์ด ที่โหม่งบอลวืดและ ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ หลุดตำแหน่งพอดีเลยเจอ ริชาร์ด ดัน โขกโล่งๆ เหมือนมีคนชงมาให้อย่างพอดิบพอดี..

ร้ายไปกว่านั้นตอนต้นครึ่งหลัง เชลซี ดันมาเสียไปอีก 1 ประตูและแน่นอนว่ามันคือประตูชัย.. รูปแบบเหมือนเดิมคือเตะมุม(อีกแล้ว) แต่มันต่างไปจากเก่าซึ่งดูเหมือนธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา..

ก่อนที่จะมีคนวิ่งเข้ามาอัด คอนเนอร์ คิ๊ก ลูกนี้เราจะเห็นได้ว่า ยอห์น คาริว ยืนอยู่ห่าง เพตเตอร์ เช็ก เกือบๆ เมตรได้.. แต่พอผู้เล่นของ วิลล่า กำลัง จะวิ่งเข้ามาเตะนั้น ยอห์น คาริว ได้วิ่งเข้ามาบัง เช็ก ทันทีเพื่อไม่ให้ออกไปตัดบอล..

ในเวลาเดียวกันเพื่อนร่วมทีมเห็น เพตเตอร์ เช็ก กำลังจะออกมาเลยยั้งๆ บ้างเหมือนเกรงใจอะไรประมาณนั้น.. ในเมื่อ เช็ก ออกมาไม่ได้บอลก็เลยไปถึงเสาสองทำให้ จอห์น คอลลิน โขกเข้าไปเป็นประตู

ถ้าเป็นแทคติคการ ชาเลนจ์ คีปเปอร์ ทั่วไปก็คงยืนบังตั้งแต่แรกและเพื่อนร่วมทีมคงมีเวลาพอมาจัดการปัญหานี้.. แต่การกระทำของ วิลล่า นั้นเรียกได้ว่า อินเตอร์เฟียร์ แบบขัดขวางไม่ได้..

เกมจบก็ต้องตั้งสติให้ดีว่า แพ้คือแพ้.. เชลซี เล่นกันดีใช้ได้เพราะเซตบอลจากแดนกลางไปถึง ดร๊อกบา กับ อเนลก้า ได้บ่อยครั้งแต่จังหวะสุดท้ายไม่ดีพอและต้องยกเครดิตให้ แบรด ฟรีเดล ที่แก้ตัวสำเร็จไปเต็มๆ..

แลมพาร์ด.. เพตเตอร์ เช็ก.. พวกเขาอาจจะทำผิดพลาดในเกมนี้แต่ก็ยังไม่มีเครื่องหมายยืนยันได้ว่า อันเชล็อตติ จะเดินทับร้อย บิ๊กฟิล ทุกระเบียบนิ้ว..

ดูกันต่อไปเพราะฤดูกาลยังไม่จบ.. ถึงตอนนี้ไม่ต้องโทษใครนอกจากโทษตัวของเราเอง..

by.Petrboat

www.teenee.com