ยี่ยมบ้านกุนซือเชลซี คาร์โล อันเชล็อันเชล็อตติ
ยี่ยมบ้านกุนซือเชลซี คาร์โล อันเชล็อันเชล็อตติ
หนังสือ พิมพ์ “เดอะ ซัน” บุกบ้าน คาร์โลอันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมใหม่ป้ายแดงเชลซีพบกับบิดาของเขา...ในฐานะโค้ชและนักเตะแล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าอันเชล็อตติประสบความสำเร็จอย่างงดงามกวาดโทรฟี่มาครอง มากมายผลงานการคุมมิลานซิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้ 2 สมัย ทำให้เชลซีที่มุ่งหวังจะเป็นเจ้ายุโรปดึงเขามาร่วมทีมอย่างไรก็ตาม น้อยนักที่จะทราบที่มาที่ไปที่ทำให้อันเชล็อตติยิ่งใหญ่ในวันนี้วันนี้เรา ลองไปทำความรู้จักคาร์โลตั้งแต่สมัยยงั เปน็ “คาร์เล็ต โต” (คาร์โลน้อย) ผ่านปากบิดาของเขาที่พำนักอยู่ในเรจโจโล่ที่แสนจะเงียบสงบกันแม้จะโด่งดังใน ฐานะนักเตะระดับโลกในอดีตและยอดกุนซือปัจจุบัน แต่อันเชล็อตติคงจะไม่ใช่อันเชล็อตติอย่างทุกวันนี้ หากถูกแมวมองดึงเขาไปเป็นนักปั่นจักรยาน กีฬาที่อันเชล็อตติน้อยเล่นสมัยเด็กสังเวียนแข่งขันแรกของอันเชล็อตติ หาใช่สนามฟุตบอลสีเขียว แต่เป็นถนนแถวบ้านเกิดของเขาในเมืองเรจโจโล่ ที่คาร์เล็ตโต้ ได้แชมป์ปั่นจักรยานประเภทนักเรียนเรื่องนี้คุณพ่อจูเซ็ปเป้วัย 87 ปี เล่าให้ฟังถึงความเก่งและพลังล้นเหลือของลูกชาย แถมยังบอกด้วยว่า หากแมวมองจักรยานชนะใจลูกชายคาร์โลคงจะน่องโป่งเป็นนักกีฬาจักรยานร่วมศึกตู ร์เดอ ฟรองซ์ไปแล้ว หาใช่ตระเวนเตะฟุตบอลทั่วยุโรปขณะนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านของเขาเองที่ ตกแต่งอย่างทันสมัย ที่ผนังด้านหนึ่งมีรูปลูกชายอุ้มโทรฟี่แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่คว้ามาได้ปี 2003จูเซ็ปเป้กล่าวว่า “สมัยเด็กคาร์โลปั่นจักรยานเก่งมากพอๆ กับฟุตบอล หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ”“เขาเร็วหาตัวจับยาก และก็ได้แชมป์จักรยานหลายรายการ”
“พวกโค้ชจักรยานหลายคนอยากได้เขาไปเป็นนักปั่นอาชีพ แต่คาร์โลไม่ไป”“เขาสนใจแต่เพียงการเป็นนักฟุตบอลเท่านั้นเขาน่ะคลั่งฟุตบอล มาก”“พอปั่นจักรยานไปสักพักเขาก็หันมาเน้นฟุตบอลเต็มที่”ที่เรจโจโล่ ซึ่งชาวเมืองส่วนใหญ่ทำฟาร์มเล็กๆที่มีประชากรเพียง 8,000 หลังคาเรือนอันเชล็อตติมุ่งมั่นที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นเดียวกับเด็กใน วันเดียวกัน อันเชล็อตติเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนวันอาทิตย์ ก่อนจะขึ้นชั้นเล่นให้ทีมฟุตบอลของเมืองที่สนามบอลใกล้ๆ กับฟาร์มเฮาส์ ที่ที่เขาเกิดเมื่อเดือนมิถุนายน 1959เวลาต่อมาคุณพ่อจูเซ็ปเป้ถึงได้ทราบว่า ลูกชายไม่มีทางสานต่อธุรกิจทำฟาร์ม เก็บเนยปาร์เมซานและฟักทองแสนอร่อยของเขาอันเชล็อตติซีเนียร์สกล่าวว่า “คาร์โลไม่เคยเกเรเลยสมัยเด็ก เขาช่วยผมทำฟาร์ม แต่ถึงจะรู้ดีว่าเขาอยากเป็นนักฟุตบอล ผมไม่เคยทราบเลยว่า เขาเป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจแค่ไหน กระทั่งพ่อของเด็กคนอื่นๆ ในทีมเริ่มคุยกับผม”“พวกเขาพูดประมาณว่า “เฮ้ จูเซ็ปเป้ ลูกคุณจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ”“ผมไม่เคยเชื่อพวกเขาเลย เพราะเห็นลูกชายตัวค่อนข้างเล็ก”“ครั้งแรกผมเชื่อนะว่า เขาจะเป็นนักเตะอาชีพได้ตอนเขาไปทดสอบฝีเท้าที่ปาร์ม่า แต่หลังจากนั้นผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่”“พ่อของเด็กคนอื่นๆ เคยบอกว่า คาร์โลวันหนึ่ง
จะเป็นผู้จัดการทีม เพราะเขาเป็นคนที่เอาจริงเอาจังแต่ผมว่านะ คงไม่มีใครคิดว่าเขาจะเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้”อันเช ล็อตติจูเนียร์เซ็นสัญญา 3 ปีกับ โรมันอบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซีต้นสัปดาห์ก่อนนับเป็นการสิ้นสุดระยะเวลา 8 ปีของการคุมเอซี มิลานด้วยเรื่องนี้จูเซ็ปเป้กล่าวว่า “เขาโทรศัพท์หาผมสัปดาห์ละครั้งอย่างต่ำ และผมดีใจมากตอนที่เขาบอกว่าจะไปเชลซี”“การนำทีมประสบความสำเร็จที่นั่นจะ เป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับเขา อย่างไรก็ตาม ลูกผมทำมาแล้วกับมิลาน ทำไมเขาจะทำแบบเดียวกันที่เชลซีไม่ได้” “ ที่ลอนดอนอาจจะต่างกับเรจโจโล่มากแต่คาร์โลจะปรับตัวได้แน่”“เขาบอกว่าจะพัก ในบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นสมบัติของคุณอบราโมวิชในลอนดอน และภาษาจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา”“คาร์โลเรียนภาษาอังกฤษมา 6 เดือนแล้วและพูดได้ค่อนข้างดี”“อย่างไรก็ตาม เขากำลังจะไปโรงเรียนที่ฮอลแลนด์ซัมเมอร์นี้เพื่อเอาให้กระจ่างแจ้ง เคเทียลูกสาวเขาก็พูดภาษาอังกฤษเก่ง และเธอช่วยเขาได้เยอะเลย”ทั้งนี้ คาร์โลอาจจะไม่ได้พาคุณพ่อมาทัวร์ที่ลอนดอน เนื่องจากว่าจูเซ็ปเป้ไม่สนุกกับการนั่งเครื่องบินนักอย่างไรก็ตาม จูเซ็ปเป้ยอมรับว่า “ผมอาจจะนั่งรถไฟไปดูว่าเชลซีเป็นยังไง”นอกจากนั้น ยังเสริมว่า “หนึ่งในช่วงที่ผมภาคภูมิใจที่สุดก็คือตอนได้เห็นคาร์โลคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับมิลาน”“ผมเชื่อว่าที่เชลซีเขาจะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้น” ■