Guus
......... หลังจากอาณาจักรที่ โซเซ่ มูริญโญ่สร้างไว้เริ่มล้มสลายโดยฝีมือคนนอกอย่าง หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ แน่นอนว่า เสี่ยหมี โรมัน อบราโนวิช และผู้ที่เกี่ยวข้องกับสโมสร เชลซี ฟุตบอลคลับ ทุกคนไม่อาจทนดูโดยไม่คิดทำอะไรไม่ได้ ด้วยการเดิมพันครั้งใหญ่กับชายชื่อ กุส ฮิดดิ้งค์
คงไม่มีโค้ชคนไหนในโลกลูกหนังที่จะผจญภัยไปร้อยเอ็ด เจ็ดย่านน้ำ ได้เท่า ฮิดดิ้งค์ แม้สมัยค้าแข้ง เขาจะมีประสบการณ์เพียงบอลลีคในบ้านเกิดและที่อเมริกาเหนือ เวทียอดฮิตสำหรับยุคก่อนอำลาสนามก็ตาม แต่เมื่อเค้าตัดสินใจจะเล่นศาสตร์ลูกหนังแล้ว ฮิดดิ้งค์ กลับใช้เวลาเพียง 5 ปี ในการพา พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น
คว้าแชมป์ลีคดัตช์ 3 สมัยติด และที่เหนือกว่านั้น ประสบการณ์กับการเป็นนายคนแค่ 6 ซีซั่น แปรเปลี่ยนเป็นการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งนั้นเป็นครั้งแรก และครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ 75 ปีของพีเอสวี
แม้จะล้มเหลวกับเฟเนร์บาห์เช่ และบาเลนเซียแต่ชื่อของฮิดดิ้งค์ยังคงขลังเสมอ
ก่อนพาทีมชาติ ฮอลแลนด์ คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศสตามด้วยโอกาสคุมทีมยักษ์ใหญ่ในโลกอย่าง เรอัล มาดริด น่าเสียดายที่บอร์ดบริหารของทีมราชันชุดขาว ประเมิณความสามารถของชายคนนี้เร็วเกินไปก่อนที่ เรอัล เบติส
จะเป็นทาผ่านให้ ฮิดดิ้งค์ หากมองในมุมกลับกัน ความล้มเหลวที่สเปนมันเป็นแรงกระตุ้นชั้นดี !กุส ฮิดดิ้งค์เค้าใช้สมองในการเป็น โค้ช เขาพยายามเข้าใจลูกทีม ซึ่งเน้นความแตกต่างกัน เขาเน้นจิตวิทยา คือ ใช้สมองบวกกับการเข้าใจจิตวิทยาความต้องการของลูกทีมเพื่อไปสู่ความสำเร็จ
ภายในไม่ถึง 3 เดือนเขาก็สามารถนำทีม เชลซีให้กลับมายิ่งใหญ่ได้ เชลซีเข้ารอบก่อนสุดท้ายของแชมเปี้ยนส์ ลีกซึ่งตามปกติเวลาเจอคู่แค้นแสนรักอย่างทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูลในอดีตมักจะแพ้ แต่ปีนี้ชนะแบบสวยหรู และเข้าไปชิง FA Cup กับเอฟเวอร์ตัน ได้อย่างมั่นใจ ทว่า..เค้าแค่ปรากฏกายที่ข้างสนาม
แม้ฮิดดิ้งค์ยังจะรักษาคำมั่นสัญญาด้วยการยืนกรานคุมทีมรัสเซียต่อไป เชลซีที่โงนเงนมาตลอดในยุคของบิ๊กฟิล ดีขึ้นทันตาเห็น เพราะเชลซีของฮิดดิ้งค์กลับเข้าสู่เส้นทางในการไล่ล่าแชมป์อีกครั้ง !!!