บิ๊กแมตช์ผีบุกเชลซีจ้องล้มโต๊ะงานฉลองแชมป์

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2549 15:46 น.

เป็นอันว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนลูกหนังเมืองผู้ดีต่างได้ไชโยโห่ร้องกันสุดเสียง เมื่อสองทีมดังจากเกาะบริเทนอย่ง สิงห์แดง มิดเดิลสโบรช์ และ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ต่างหลุดทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยยุโรป โดยลูกทีมของ บิ๊กแม็ค สตีฟ แม็คคลาเรน ผ่านเข้าสู่รอบชิงถ้วยยูฟ่า คัพ ขณะที่ลูกทีมของ โปรเฟสเซอร์มาดนิ่ม อาร์แซน เวนเกอร์ พากันตีตั๋วไปฝรั่งเศสในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กันแล้ว

อย่างไรก็ตามในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงมีฟุตบอลคู่เดือดให้แฟนๆ ได้ลุ้นสุดเสียวกันอีกเช่นเคย โดย บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์นี้เป็นการโคจรมาเจอกันของ 2 สองยอดทีมแห่งยุค เมื่อ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ว่าที่แชมป์ที่ต้องการอีกเพียงคะแนนเดียวก็จะคว้าแชมป์แบบชัวร์ๆ ต้องเปิดรังต้อนรับการมาย่ำลอนดอนของ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 ที่มีลุ้นแชมป์แบบเลือนราง ในเวลา 18.30 น. ของวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2549 ตามเวลาสยามประเทศ

โดยฟอร์มการเล่นของทีมเจ้าถิ่นสีน้ำเงินนั้นแม้จะเพิ่งโดนเขี่ยตกรอบ เอฟ เอ คัพ ด้วยน้ำมือของคู่แค้นสีแดงในรอบรองชนะเลิศ แต่ยังจัดว่าคงเส้นคงวาใน 5 นัดหลังสุด เมื่อเก็บชัยชนะได้ถึง 4 นัด และเสมออีกเพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น คว้าไป 13 คะแนน จาก 15 คะแนนเต็ม

ด้านทีมเยือนก็อยู่ในฟอร์มที่ยอดและเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยฟอร์มการเล่นในลีก 5 นัดหลังสุด ที่คว้าชัยชนะไปแล้ว 4 นัด และเสมออีกเพียง 1 นัดเช่นกัน เก็บไป 13 คะแนน เท่ากับทีมจ่าฝูง เชลซี

ส่วนความพร้อมเรื่องตัวผู้เล่นนั้น เชลซี ไม่เคยมีปัญหาน่าปวดหัวกับเรื่องการขาดนักเตะตัวหลักอยู่แล้ว เมื่อทรัพยากรนักเตะในทีมล้วนมีมากมาย แถมดาราตัวหลักอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ จอห์น เทอร์รี่ ต่างก็อาสาลงเล่นกันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกันอยู่แล้ว รวมทั้งจะได้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารตัวหลักกลับมาทำหน้าที่แทน คาร์โล คูดิชินี่ ในเกมนี้อีกด้วย

ขณะที่ทีมเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็มีปัญหาเดิมๆ เมื่อไม่มีมิดฟิลด์ตัวหลักอย่าง พอล สโคลส์ ที่ยังต้องรักษาอาการบาดเจ็บในส่วนของการมองเห็นต่อไป อย่างไรก็ตามผู้เล่นรายอื่นๆ ล้วนพร้อมหน้าพร้อมตาในการยกทัพใหญ่บุกเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมนี้แน่นอน

สำหรับผลการฟาดแข้งของคู่นี้ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในฤดูกาลที่แล้ว ปรากฎว่าเป็นเหล่าพลพรรครักเสี่ยหมีที่ทำได้ดีกว่า โดยเชลซี เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 1-0 จากการยิงประตูชัยของ ไอเดอร์ กุ๊ดยอร์นเซ่น ดาวยิงภูผาน้ำแข็งในนาทีที่ 15

ขณะที่การเจอกันของทั้งสองทีมในฟุตบอลลีกเกมล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2548 ที่รังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของปีศาจแดง หลังจบการแข่งขัน 90 นาที เป็นสโมสร ยูไนเต็ด ที่เอาชนะ เชลซี ได้จากประตูชัยของ ดาร์เรน เฟลตเชอร์ กองกลางดาวรุ่งในนาทีที่ 31

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในทุกสนาม
ฟุตบอลลีก : เชลซี ชนะ 35 ครั้ง, แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 54 ครั้ง และ เสมอกัน 38 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ลีก : เชลซี ชนะ 8 ครั้ง, แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 8 ครั้ง และ เสมอกัน 11 ครั้ง

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมที่สนามของเชลซี
ฟุตบอลลีก : เชลซี ชนะ 18 ครั้ง, แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 29 ครั้ง และ เสมอกัน 16 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ลีก : เชลซี ชนะ 4 ครั้ง, แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 4 ครั้ง และ เสมอกัน 5 ครั้ง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนี้
เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก, เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป, วิลเลี่ยม กัลล่าส์, จอห์น เทอร์รี่, เปาโล แฟร์ไรร่า, โคล้ด มาเกเลเล่, มิกคาแอล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, โจ โคล และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, มิคาเอล ซิสแวสต์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, จอห์น โอเชีย, พาร์ค จี ซอง, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์ และ หลุยส์ ซาฮา

แม้ เชลซี จะมีคะแนนทิ้งห่าง ยูไนเต็ด ถึง 9 คะแนน แต่เกมนี้ก็ถือเป็นเกมที่มีความหมาย และมีความสำคัญมากสำหรับ โฮเซ่ มูรินโญ่ กุนซือปากกล้าของทีมดังจากลอนดอน เนื่องจากต้องการอีกเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้นก็จะการันตีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิพ แห่งเกาะอังกฤษได้ทันที ซึ่งคาดการณ์กันว่า เชลซี น่าจะกลับมาใช้แผนการเล่นในแบบ 4-3-3 เหมือนเดิม หลังจากกุนซือชาวโปรตุเกสเคยปรับทีมไปรับมือหงส์แดงในศึกเอฟเอ คัพ แล้วไม่เวิร์คจนส่งผลให้ทีมพลาดการลุ้นทำดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ไป

ขณะที่ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เองก็น่าจะทำใจกับการชวดแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 1 ฤดูกาลได้แล้ว แต่เกมนี้มีความหมายมากกว่าคะแนนแน่นอน เพราะการปล่อยคะแนนให้กับ เชลซี ในเกมนี้ก็เท่ากับ ยูไนเต็ด ถูกลบเหลี่ยมเฉือนคม อีกทั้งหากทีมดังจากเมืองเหนือคว้า 3 คะแนนเต็ม ย่อมเป็นการหักหน้าทีมเงินถุงเงินถังต้องเลื่อนการฉลองแชมป์อย่างเป็นทางการออกไปอีกด้วย...