"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี รั้งบัลลังก์จ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น หลังจากที่เปิดบ้านทุบ สโต๊ค กระจุย 4-2 พร้อมทำสถิติเก็บชัยชนะติดต่อกัน 13 นัดในพรีเมียร์ลีกเข้าไปแล้ว เกมนี้ เชส ฟาเบรกาส ทำสถิติแอสซิสเป็นลูกที่ 100 พาทีมรั้งจ่าฝูงต่อไปยาวๆ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดส่งท้ายปี วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2559
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2559
เชลซี 4 - สโต๊ค ซิตี้ 2
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซีของ อันโตนิโอ คอนเต้ ทุบสถิติสโมสรหลังชนะมา 12 นัดแล้ว เกมนี้ไม่มี เปโดร โรดริเกซ ติดโทษแบนแต่ได้สองตัวหลักอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พ้นโทษพักแข้งกลับมา
สโต๊ค ซิตี้ ของ มาร์ค ฮิวจ์ส ไม่ชนะมา 4 เกมติดแล้ว นัดนี้ไม่มี มาร์โค อาร์เนาโตวิช ชดใช้โทษแบนนัดสุดท้าย แนวรุกนำมาโดย เซอร์ดาน ชากิรี่ และ ปีเตอร์ เคร้าช์
ครึ่งแรกเริ่มมาเพียง 6 นาที เจ้าถิ่นทักทายก่อนเลย วิลเลี่ยน ไหลมาให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ดีดด้วยขวาจากนอกกรอบถากเสาไปนิดเดียว อีกสี่นาทีต่อมา สโต๊ค ได้ลุ้นบ้าง เซอร์ดาน ชากิรี่ ส่องไกลหลุดกรอบไป
ต่อมานาที 18 เชลซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เชส ฟาเบรกาส วางบอลให้ ดีเอโก้ คอสต้า พักอกก่อนหวดด้วยขวาเต็มข้อแต่ ลี แกรนท์ ใช้อกเซฟได้เหลือเชื่อบอลไปโดน จอห์นสัน ก่อนเข้ามืออีกครั้ง
ขยับมานาที 22 ''สิงห์บลูส์'' เกือบได้อีก เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมมาให้ แกรี่ เคฮิลล์ เติมมาโขกแต่ก็โดน ลี แกรนท์ พุ่งปัดทิ้งไปได้อีก
อีกสามนาทีต่อมา สโต๊ค ได้โอกาสบ้าง ชาร์ลี อดัม เล่นลูกสูตรจากฟรีคิกมาให้ เซอร์ดาน ชากิรี่ วิ่งมาตวัดยิงตามน้ำข้ามคานไปไกล จังหวะต่อมาจากลูกเตะมุม ชาร์ลี อดัม ได้โหม่งไม่ตรงกรอบ
มาถึงนาที 33 เจ้าถิ่น ลุยต่อ คอสต้า หลุดไปจังหวะแรกไม่มีโอกาสยิง อาซาร์ วิ่งมาหวดด้วยขวาติดเซฟ ลี แกรนท์ ออกหลังไป จากจังหวะลูกเตะมุม เชลซี ออกนำ 1-0 จนได้ เชส ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมมาให้ แกรี่ เคฮิลล์ เติมมาโหม่งคราวนี้เสียบตาข่ายไม่เหลือ
ท้ายครึ่งแรกนาที 40 "สิงห์บลูส์" ยังได้เสียวจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษและเป็น ดีเอโก้ คอสต้า วิ่งมาปั่นด้วยขวาเหินข้ามคานไป จบครึ่งแรก เชลซี นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังผ่านมาเดียว สโต๊ค ตีเสมอ 1-1 ชาร์ลี อดัม เปิดฟรีคิกไปให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ โหม่งตั้งมาให้ บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้ แปด้วยซ้ายเข้าไปต่อมานาที 51 เชลซี ได้โอกาส วิคเตอร์ โมเสส ไหลมาให้ วิลเลี่ยน วิ่งมาแปด้วยขวาเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว เกมยังแลกกันสนุก
ขยับมานาที 57 ''สิงห์บลูส์'' ออกนำอีกครั้ง 2-1 วิคเตอร์ โมเสส จ่ายเข้ากลางให้ อาซาร์ แตะสั้นๆ ให้ วิลเลี่ยน ตวัดยิงด้วยซ้ายเสียบมุมเข้าไป
มาถึงนาที 64 เชลซี ยังได้ลุ้น เอแด็น อาซาร์ ดีดมาให้ ดีเอโก้ คอสต้า วางเท้าอัดด้วยซ้ายเหินข้ามคานไปไกล ทีมเยือนยังไม่ยอมง่ายๆ
นาทีถัดมา ''ช่างปั่นหม้อ'' ตีเสมอเป็น 2-2 มาเม่ บิราม ดิยุฟ หลุดมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ ชาร์จจ่อๆ เข้าไปและเป็นลูกที่สองของเขาในเกมนี้
ต่อมนาที 65 เจ้าถิ่นขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 เชส ฟาเบรกาส จ่ายต่อให้ วิลเลี่ยน หลุดไปซัดด้วยขวาที่เสาแรกเข้าไปและลูกที่สองของเขาในเกมนี้เช่นกัน
ท้ายเกมนาที 85 ''สิงห์บลูส์'' ได้ประตูปิดกล่องจาก ดีเอโก้ คอสต้า หวดด้วยซ้ายเข้าไป หลังจากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เชลซี เปิดบ้านชนะ สโต๊ค สุดมัน 4-2 ทำให้ชนะในลีก 13 นัดรวดเหลือเพียงนัดเดียวจะเท่าสถิติของ อาร์เซน่อล พร้อมนำจ่าฝูงต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ติโบต์ กูร์กตัวส์ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ - วิคเตอร์ โมเสส, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เชส ฟาเบรกาส, มาร์กอส อลอนโซ่ - วิลเลี่ยน, ดีเอโก้ คอสต้า, เอแด็น อาซาร์
สำรอง : อัสเมียร์ เบโกวิช, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, คูร์ท ซูม่า, นาธาเนี่ยล ชาโลบาห์, เนมานย่า มาติช, รูเบน ลอฟตัส ชีค, มิชี่ บาตชูอายี่
สโต๊ค ซิตี้ : ลี แกรนท์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, เอริค ปีเตอร์ส - โจ อัลเลน, ชาร์ลี อดัม - มาเม่ บิราม ดิยุฟ, อิบราฮิม อเฟลลาย, เซอร์ดาน ชากิรี่ - ปีเตอร์ เคร้าช์
สำรอง : เชย์ กิฟเว่น, ฟิล บาร์สลี่ย์, เกล็น วีแลน, โรมาดาน ซ็อบบี้, จานเนลลี่ อิมบูล่า, วิลฟลีด โบนี่, โบยาน เกร์กิซ
ผู้ตัดสิน : โรเบิร์ต แม็ดลี่ย์
ขอขอบคุณ สยามสปอร์ต