แฟร้งค์ แลมพาร์ด สุดยอดมิดฟิลด์กระดูกเหล็กแห่งยุค

160 นัดติดต่อกัน ทำลายสถิติพรีเมียร์ชิพ




ชัยชนะ 2-0 ที่แฟร็ตตัน ปาร์ก ไม่เพียงแต่ช่วยให้ เชลซี ฉีกหนีทีมรองจ่าฝูงออกไปถึง 10 แต้มแล้วเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงเล่นในลีก 160 นัดติดต่อกันของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด อันเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ชิพ อีกด้วย

ก่อนเกมนี้ แลมพาร์ด ลงสนามในลีกให้กับต้นสังกัดทั้งไปแล้ว 159 นัดติดต่อกัน เท่ากับสถิติเดิมที่ เดวิด เจมส์ นายทวาร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำเอาไว้ ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด สำหรับผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู


11 ประตูขึ้นนำในอันดับดาวซัลโวพรีเมียร์ชิพ เหนือกว่ากองหน้าหลายราย

ทว่าสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์อย่าง แลมพาร์ด แล้ว ต้องบอกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อทีเดียวที่เขาไม่ถูกดร็อป ไม่ถูกแบน และไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนเลยตั้งแต่ช่วงปี 2001 เป็นต้นมา แถมยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแทบทุกนัดที่ลงสนามอีกด้วย

รวมถึงเกมล่าสุดที่ดาวเตะวัย 27 ปี เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง รวมทั้งยังมีชื่อเป็นผู้ยิงประตูในแมตช์นี้ด้วย จากการสังหารลูกจุดโทษในนาทีที่ 67 ส่งให้เขาขึ้นนำในอันดับดาวซัลโวพรีเมียร์ชิพ ด้วยจำนวน 11 ประตูเหนือกว่ากองหน้าอีกหลายราย


เคล็ดลับฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมและความอึดชนิดเกินมนุษย์ แค่นอนให้พอ กินให้อิ่ม ฟิตร่างกาย

ผมค้นพบเคล็ดลับ นั่นคือการฝึกซ้อมอย่างหนักและพักผ่อนให้เพียงพอ ผมมีวิธีของตัวเองในการฝึกซ้อม การกิน และการใช้ชีวิต ผมทำเพื่อความมั่นใจว่าผมจะไม่ใช้แรงมากเกินไปในระหว่างเกม

ในเวลาว่าง ผมกลับบ้านและพักผ่อนให้มากที่สุด สิ่งที่ผมทำคือฝึกซ้อมอย่างหนักในวันทำงานและพักผ่อนในวันอื่นๆ นั่นคือเหตุผลที่มันไม่มีสิ่งพิเศษที่ช่วยให้ผมเล่นได้อย่างต่อเนื่อง การผสมผสานสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกันทำให้มันเป็นไปได้ อาหารก็สำคัญ แต่มันจะไม่มีความหมายเลย ถ้าผมนอนพักไม่เพียงพอ

ผมมีประสบการณ์มากมายในตอนนี้ และผมรู้ว่าวิถีชีวิตของผมเป็นสิ่งสำคัญ แน่นอน ผมโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บและเล่นได้อย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อผมมีเวลาว่าง ผมก็จะทำให้แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์ ดาวเตะเจ้าของเสื้อหมายเลข 8 แห่งสแตมฟอร์ด บริดจ์ กล่าว

ในตอนนี้ดูเหมือนว่าชีวิตของ แลมพาร์ด จะสมบูรณ์พร้อมไปเสียหมด ทั้งการคว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ กับ สิงโตน้ำเงินคราม เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และมีแววว่าจะป้องกันแชมป์ได้สำเร็จในซีซั่นนี้ รวมทั้งยังนำทีมชาติอังกฤษ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายศึก ฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน และล่าสุดก็ได้ลูกสาวตัวน้อย ซึ่งตอนนี้อายุครบ 4 เดือนแล้ว และก็ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของคุณพ่อแต่อย่างใด

โชคดีที่ส่วนใหญ่แล้วยายหนูนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน แต่เวลาที่เธองอแงผมก็จะต้องย้ายไปนอนห้องอื่นแทน แล้วปล่อยให้แม่เค้าเป็นคนจัดการ ผมรู้ว่าการนอนสำคัญมากแค่ไหนสำหรับผม และบางครั้งผมก็จำเป็นจะต้องนอนกลางวันด้วย

มันสำคัญทั้งนั้น แต่ผมก็ภูมิใจกับสถิติการลงเล่นของตัวเอง มันเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ตอนนี้ผมต้องการที่จะยืดมันออกไปให้นานที่สุด ถึงอย่างนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการลงเล่นและช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ สถิติเป็นเพียงสิ่งพิเศษที่ตามมา กองกลาง สิงโตคำราม กล่าว

ด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมและความอึดชนิดเกินมนุษย์ทำให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี ออกมากล่าวยกย่อง แลมพาร์ด ว่าเป็นนักเตะพิเศษที่เหนือกว่าบรรดาซูเปอร์สตาร์รายอื่นๆ และสมควรได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปี

อย่างไรก็ตาม ดาวเตะ สิงโตน้ำเงินคราม ได้ออกมากล่าวอย่างถ่อมตัวว่า ผมมีความสุขแล้วที่ได้มีชื่อติดอยู่ในกลุ่มนักฟุตบอลฝีเท้าเยี่ยม ผมไม่เคยคิดถึงการคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปีเลย ผมแค่ดีใจที่ตัวเองอยู่ในกลุ่มนั้น ผมทำงานอย่างหนักเพื่อไปอยู่ที่นั่นและผมก็ต้องการอยู่ที่นั่นต่อไปด้วย

แลมพาร์ดตั้งความหวังนำ เชลซี คว้าแชมป์ยูฟ่า



แลมพาร์ด ตั้งความหวังที่จะนำ เชลซี คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ถูก ลิเวอร์พูล เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศอย่างน่าเจ็บใจเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซึ่งล่าสุดในปีนี้ทั้ง 2 สโมสรอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และต่างผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่ายังเหลือเกมนัดสุดท้ายของกลุ่ม จี ที่ต้องเจอกันในสแตมฟอร์ด บริดจ์ อยู่อีก 1 นัดก็ตาม

มันสำคัญสำหรับเรา เป้าหมายของเราเมื่อช่วงเริ่มต้นฤดูกาลคือตำแหน่งแชมป์กลุ่ม และเราก็ยังต้องการอยู่ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ดี เราต้องพบงานหนักเสมอเวลาที่เจอพวกเขา และก็สนุกกับมันทุกครั้ง เรารู้ว่าพวกเขาตั้งใจจะมาเอาผลการแข่งขันในครั้งนี้ เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราต้องการมากกว่านั้น

คุณต้องคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก เพื่อการเป็นยอดทีมตัวจริง เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะทำอย่างนั้น เราต้องการชนะ เพราะเราเข้าใกล้มากแล้วก่อนหน้านี้ โดยแพ้ในรอบรองชนะเลิศ 2 ครั้ง ผมให้ความเคารพ อาร์เซน่อล แต่การที่ยังไม่ได้คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นเรื่องน่ากังขาสำหรับพวกเขา คุณไม่อาจพูดอย่างนั้นได้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ลิเวอร์พูล และนั่นคือเหตุผลที่เราต้องการคว้าแชมป์โดยเร็วที่สุด แลมพาร์ด กล่าว

ถึงตอนนี้ แลมพาร์ด ลงสนามให้กับ เชลซี ไปแล้ว 238 นัด ยิงได้ 61 ประตู นับตั้งแต่ย้ายจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ (825 ล้านบาท) ในปี 2001 และต้องถือว่าเป็นการคว้าตัวที่คุ้มค่าที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเลยทีเดียว

นับจากนี้ไปเราคงต้องจับตาดูว่าสถิติการลงสนามในลีกติดต่อกันของ แลมพาร์ด จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เชื่อว่าคงอีกนานกว่าจะหาใครมาทำสถิติเทียบเคียงกับเขาได้...

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์