[คอลัมน์] ช่วงเวลายากลำบากของเวนเกอร์

หลังแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ คาร์ลิ่ง คัพ, ตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ล่าสุด อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล โดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เตรียมลงโทษทางวินัย แถมเกมเอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันเสาร์นี้ ก็ไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่า

เป็นช่วง 2 สัปดาห์ซึ่งโค้ชคนเก่งชาวฝรั่งเศสต้องปวดใจมากเป็นพิเศษ ทั้งๆก่อนสิ้นเดือนที่แล้วทีมของเขามีลุ้นถึง 4 แชมป์ แต่กลายเป็นว่าพอเข้าสู่เดือนมีนาคม อาร์เซน่อลชนะเพียงแค่ครั้งเดียว ตอนเจอ เลย์ตัน โอเรี้ยนท์ คู่แข่งจากลีก วัน ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดรีเพลย์ การพ่ายทีมรองบ่อนอย่าง เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-2 ที่สนามเวมบลีย์ เพราะการเสียประตูในนาทีที่ 89 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ ทำให้โอกาสหยิบถ้วยรางวัลแรกในรอบ 6 ปี สลายลงไปกับตาอย่างน่าเจ็บใจ แถมยังถูก บาร์เซโลน่า แชมป์ลา ลีกา สเปน ถล่ม 1-3 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จนตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกรายการเรียบร้อยแล้ว ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-4 โดยแมตช์ล่าสุดนั้น ปืนใหญ่ ต้องเสียนายทวารโปแลนด์ วอจเซียค เซคเซสนี่ เพราะบาดเจ็บตั้งแต่ต้นเกม แถมมาเหลือแค่ 10 คนช่วง 34 นาทีสุดท้าย หลังจากนั้นก็เสีย 2 ประตู ซึ่งรวมถึงลูกจุดโทษ

หลังเกมดังกล่าวเวนเกอร์ยังถูกสั่งสอบพร้อม ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์ชาติเดียวกัน เพราะวิจารณ์ มัสซิโม่ บูซัคก้า ผู้ตัดสินอิตาเลียน ซึ่งอาจทำให้ทั้งคู่ถูกปรับ หรือแบนเช่นเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกดัตช์ ซี่งได้ใบแดงใแแมตช์เดียวกัน โดยมีกำหนดเข้าพบคณะกรรมการควบคุมวินัยของยูฟ่า วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม โดยเวนเกอร์เคยถูกสั่งแบน 1 นัด จากข้อหาแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในทำนองเดียวกันนี้มาแล้ว เมื่อปี 2007 แต่คราวนี้อาจโดนหนักกว่าเดิม เพราะดันไปพูดต่อว่า พวกเขาไม่ต้องขอโทษผม เพราะผมไม่ได้ลงโทษ แต่เป็นอาร์เซน่อลต่างหาก เมื่อมีเกมที่สำคัญ คุณจะไม่สามารถตัดสินตามใจ และแสดงความเย่อหยิ่งแบบนั้น ทุกคนสามารถเข้าใจว่าเราสามารถทำผิดกันได้ แต่การกระทำเช่นนี้เหมือนเป็นเผด็จการ ผมปฏิเสธการจ่ายค่าปรับใดๆ มันเป็นความอัปยศที่ผู้ตัดสินไล่ฟาน เพอร์ซี่ มันคือความผิดพลาด เกมแรก (กับบาร์ซ่า) เป็นเกมลูกหนังที่ยอดเยี่ยม แต่เกมที่สองกลับถูกทำลายเพราะการให้ใบแดงจังหวะนั้น ความอ่อนน้อมถ่อมตนเล็กน้อยคือเรื่องดีที่ยูฟ่าควรทำ ด้วยการขอโทษสำหรับเรื่องทั้งหมด ดีกว่าสั่งปรับคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด

เวนเกอร์ต้องออกมาปกป้องลูกทีม เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่เขามี และยังฝากความหวังได้ ทุกวันนี้อาร์เซน่อลมีลุ้นแขมป์หลายรายการก็เพราะความสามารถของโค้ช และนักเตะซึ่งจงรักภักดี ไม่อย่างนั้นตัวหลักอย่าง เชส ฟาเบรกาส คงไม่ยอมจมปลักอยู่กับสโมสรนานถึง 6 ปีโดยไม่ได้ถ้วยรางวัลติดมือ เพราะเงินทองก็ไม่มีให้มากมาย และมันคือสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้อาร์เซน่อลไม่สามารถลุ้นแชมป์เหมือนค่ายอื่น สิ่งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่พวกเขาย้ายสนามจาก ไฮบิวรี่ มาอยู่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จนเป็นหนี้ 400 ล้านปอนด์ (ราว 19,264 ล้านบาท) ตอนนั้นผู้บริหารอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงจะไม่ได้ทำให้แฟนบอลเห็นแค่สนามที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่รวมถึงทีมที่ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าการมีบ้านหลังใหญ่ ส่งผลดีต่อรายได้ของสโมสร ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกปี จนลดหนี้มาเหลือ 135 ล้านปอนด์ (ราว 6,501.6 ล้านบาท) แต่ก็ยังไม่เหลือมาให้เวนเกอร์จับจ่ายเพื่อเสริมทัพ

อิวาน กาซิดิส ประธานกรรมการคนใหม่ของสโมสร เผยว่า เรามีนโยบายในการสร้าง ไม่ใช่การซื้อ มันเป็นเส้นทางที่ยากลำบากในบางครั้ง แต่มันก็ส่งผลให้เราเห็นผู้เล่นจำนวนมากมีการพัฒนา และความก้าวหน้า สิ่งนั้นจะช่วยสโมสรไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้เช่นกัน สิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง เพียงแต่มันยังไม่เห็นเป็นรูปร่างเสียที การขาดเงินเสริมทัพ ส่งผลเสียจนทำให้เมื่อมีนักเตะบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน เวนเกอร์จะขาดลูกทีมที่มีความสามารถดีใกล้เคียงกัน มาสลับสับเปลี่ยนเพื่อใช้งาน นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเขาจึงโกรธจัดเวลาต้องเสียผู้เล่นเพิ่มขึ้นเพราะเชิ้ตดำ

เวนเกอร์ทำอะไรไม่ได้เหมือนคู่แข่งอย่างแมนฯยูไนเต็ด หรือ บาร์เซโลน่า เพราะถึงแม้ทั้งสองค่ายจะมีปัญหาการเงินเหมือนกัน แต่เวลาโค้ชต้องการนักเตะเสริมทัพ ผู้บริหารก็จะพยายามเจียดเงินมาให้ได้เสมอ อาจเป็นเพราะเชื่อว่าจะมีถ้วยแชมป์ และรายได้ที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งตอบแทนกับการลงทุน กรณีของอาร์เซน่อลต่างออกไป เพราะที่ผ่านมาทุกคนยอมรับเรื่องฝีมือเวนเกอร์ และฝีเท้าลูกทีมของเขา แต่มันไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าหากเพิ่มการลงทุนเรื่องเสริมทัพ แล้วความสำเร็จจะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมา 6 ปีก็แค่เกือบ...เท่านั้น ซึ่งด้านธุรกิจแล้วถือว่าไม่คุ้ม

ข้ออ้างที่ผู้บริหารอ้างได้ด้วยคือขนาดไม่มีเงินให้ ก็ยังทำผลงานน่าพอใจ แล้วทำไมต้องให้ด้วย และเวนเกอร์สามารถใช้ของถูก หรือโนเนมอย่าง โคโล่ ตูเร่, มาติเยอ ฟลามินี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โยฮัน ฌูรู, อเล็กซ์ ซง, มานูเอล อัลมูเนีย, เดนิลสัน หรือ บาการี ซานญ่า ซึ่งแทบไม่มีใครทราบด้วยซ้ำว่าไปซื้อมาจากไหน ได้ดีมาตลอด แถมบางรายสามารถสร้างกำไรให้สโมสรเมื่อขายออกไปอีกต่างหาก การจำหน่ายนักเตะแบบนี้ยิ่งช่วยลดหนี้ลงมาค่อนข้างเยอะด้วยเช่นกัน ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใดดีอยู่แล้ว ก็ไม่ควรเปลี่ยนแปลง การปลดหนี้ให้เร็วที่สุดน่าจะเป็นสิ่งที่ควรททำมากกว่า

แต่คำถามคือจะเกิดขึ้นอะไรขึ้น ถ้าหากจากที่เคยมีลุ้น 4 แชมป์ อาร์เซน่อลกลับจบฤดูกาลนี้แบบมือเปล่า และหลังจากนั้นเวนเกอร์ก็ต้องเสียนักเตะหลักออกไปอีก เพียงเพราะในช่วงเวลาสำคัญไม่มีลูกทีมที่ดีพอให้หมุนเวียนลงสนาม วันหนึ่งพวกเขาอาจปลดหนี้หมด แต่ก็ไม่มีใครเหลือใครในสังกัด นอกจากดาวรุ่งที่ปั้นขึ้นมา รวมถึงพวกโนเนมทั้งหลาย

ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงไฮบิวรี่มากขึ้น เพราะถึงได้เงินน้อย แต่มีโอกาสคว้าแชมป์กว่าตอนนี้

...แม้แต่ตำแหน่งโค้ช วันนั้นก็อาจไม่ใช่เวนเกอร์แล้วเช่นกัน


คอลัมน์ : ตีท้ายข่าว โดย.. นาร์ซีส์ซัส
http://www.siamsport.co.th/Column/110311_197.html



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์