ปกติเล่นฟุตบอลก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้ว
แต่คงจะเหนื่อยหนักมากขึ้น เมื่อต้องลงเตะติดๆกันหลายนัด
และนี่คือสถานการณ์ที่เด็กปืนของ อาร์เซน เวนเกอร์ จะต้องเจอ กับการที่พวกเขาได้คั่วหลายแชมป์เหลือเกินในเวลานี้
ถ้าลองกางโปรแกรมลงเตะของอาร์เซน่อลออกมาดู โดยเฉพาะกับในช่วงสองสัปดาห์ถัดจากนี้ไป ก็จะเห็นได้อย่างชุดเจนว่าทีมของเวนเกอร์งานชุกเสียเหลือเกิน
โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอนัดรีเพลย์ของเอฟเอคัพเพิ่มเข้ามาอีก หลังจากที่พวกเขาไปปล่อยให้ เลย์ตัน โอเรี้ยนท์ ตามมาตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม
และนับตั้งแต่นี้ต่อไป พวกเขาจะต้องเจอกับสัปดาห์หฤโหด เริ่มด้วยเกมพรีเมียร์กับ สโต็ค ในวันพุธนี้, เกมนัดชิงฯคาร์ลิ่ง คัพกับ เบอร์มิ่งแฮม ในวันอาทิตย์ และตามมาด้วยเกมพรีเมียร์ลีกกับ ซันเดอร์แลนด์ ในวันเสาร์หน้าโน้น
และตบท้ายด้วยเกมที่พวกเขาดูจะให้ความสำคัญมากที่สุด คือการไปเยือนถิ่นคัมป์ นูของ บาร์เซโลน่า ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก วันอังคารที่ 8 มีนาคม
จะว่าไปทุกเกมที่ว่ามาในช่วงสองสัปดาห์นี้ ก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับทีมปืนใหญ่ด้วยกันทั้งหมด เพราะอย่างที่บอกว่าพวกเขาต้องการที่จะลุ้นแชมป์ในทุกรายการ
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า เด็กของเวนเกอร์จะรับภาระหนักอันหนักอึ้งนี้ได้ไหวหรือเปล่า?
ที่ผ่านมาอาร์เซน่อลเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อยู่บ่อยๆ คือพวกเขาจะได้เข้ารอบลึกๆในบอลถ้วยมาแทบทุกปี รวมถึงการได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกจนถึงโค้งสุดท้ายด้วย
แต่ว่าสุดท้ายพวกเขาก็จบฤดูกาลด้วยมือเปล่า มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องวางแผนให้ดีๆครับ ว่าจะตั้งรับกับสถานการณ์เดิมๆ ที่พวกเขาเคยเจอะเจอมาแล้วอย่างไรดีในคราวนี้
ผมว่าที่พวกเขาควรจะให้ความสำคัญไว้เป็นอันดับหนึ่ง ก็คือการลุ้นแชมป์คาร์ลิ่ง คัพกับเบอร์มิ่งแฮมในวันอาทิตย์หน้า เพราะทีมชุดนี้สมควรที่จะมีแชมป์ประดับบารมีกันเสียที
เวนเกอร์ใช้เวลาฟูมฟักเด็กชุดนี้ของเขามานาน และก็ได้รับคำชมอย่างมากมายว่าเล่นบอลกันได้สวยและดูสนุก
แต่ขาดอยู่แค่อย่างเดียวคือ ความสำเร็จ ซึ่งตอนนี้โอกาสของเขามาแล้ว
เพราะฉะนั้นเกมนัดชิงฯคาร์ลิ่ง คัพ จึงน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับความสำเร็จของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้
แม้ว่าถ้วยมิกกี้เมาส์ใบนี้ อาจจะมีค่าไม่มากนัก
แต่ว่าอาจจะเปลี่ยนอนาคตของพวกเขาได้เลยทีเดียว!
No.10