เทพแห่งปืน อองรี ฝังผีช่วงทดเวลา 2-1

เธียรี่ อองรี กองหน้ากัปตันทีมสวมบทฮีโร่โขกประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล พลิกสถานการณ์กลับมาเปิดบ้านเฉือนชนะ ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ คู่สุดมันประจำคืนวันอาทิตย์

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เมื่อ จิลแบร์โต้ ซิลวา มิดฟิลด์ตัวหลักติดโทษแบนต้องส่ง มาติเยอ ฟลามินี่ ลงมาช่วย เชส ฟาเบรกาส ส่วนแนวรุกต้องส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลงยืนคู่หน้ากับ เธียรี่ อองรี เนื่องจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ฟิตเต็มร้อยแต่ก็มีชื่ออยู่ที่ม้านั่งสำรอง

ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถจัดทีม ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ในการมาเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดยเกมรับ ปาทริซ เอวร่า ได้รับความไว้วางใจให้ช่วยเกมรับฝั่งซ้าย ส่วนแดนกลาง ไรอัน กิ๊กส์ ลงมาช่วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลากเลื้อยทางกราบ โดยมี เวย์น รูนี่ย์ เล่นเป็นหน้าต่ำสนับสนุนเกมรุกอยู่หลัง เฮนริค ลาร์สสัน หัวหอกตัวเก๋าชาวสวีดิช




เริ่มเกมการแข่งขันในช่วงต้น แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายครองเกมบุกได้ดีกว่าแม้ยังเจาะไม่เข้าแต่ก็ได้โอกาสลองยิงไกลสองหนจาก ไรอัน กิ๊กส์ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ ผ่าน 15 นาทีแรก อาร์เซนอล เริ่มที่จะตั้งเกมได้บ้าง เธียรี่ อองรี หยอดฟรีคิกให้ ฟิลิป เซนเดอรอส เติมขึ้นมาโขกแต่บอลค่อนข้างเบาไม่สร้างปัญหาให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่อย่างใด

ทีมเยือนได้โอกาสอีกครั้ง กิ๊กส์ เปิดลูกเตะมุมให้ เนมันย่า วิดิช ลอยตัวโหม่งแต่บอลเหินข้ามคานออกไป เจ้าถิ่นตอบโต้กลับมา เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เปิดบอลเข้ากลางให้ โทมัส โรซิคกี้ วิ่งเข้ามายิงแต่ก็กดไม่ลง ครึ่งชั่วโมงผ่านไปเป็น อาร์เซนอล ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เชส ฟาเบรกาส ได้ยิงไกลแฉลบหัว วิดิช ออกไปเสียก่อนไม่อย่างนั้นมีลุ้นเหมือนกัน

นาทีที่ 33 โอกาสดีที่สุดของเกมเป็นของเจ้าบ้านเมื่อ อเดบายอร์ ถ่างไปเล่นทางขวาก่อนเปิดบอลไปเสาไกลให้ อองรี ตั้งหัวโหม่งบอลแต่เป็น ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่พุ่งไปดักไว้ได้ทัน อีกสี่นาทีถัดมาแฟนๆ ปืนใหญ่ เรียกร้องจะเอาจุดโทษเพราะ อองรี โดน แกรี่ เนวิลล์ ที่เตะบอลวืดใช้ขาขวางการวิ่งของหัวหอกเจ้าถิ่นจนล้มลงแต่ สตีฟ เบนเน็ตต์ ผู้ตัดสินในเกมนี้เมินจะชี้เป็นลูกโทษ

ช่วงท้ายครึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้ขึ้นไปบ้างแต่จังหวะจบเริ่มที่จะไม่มีให้เห็น อาร์เซนอล ทำเกมรุกขึ้นมาจน เวย์น รูนี่ย์ ที่ลงไปช่วยเกมรับต้องตัดฟาล์ว อองรี ได้ลองยิงฟรีคิกไปติดกำแพงยิงซ้ำอีกทีไปตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ช่วงทดเจ็บทีมเยือนเกือบนำถึงสองหน รูนี่ย์ ได้สะบัดเท้ายิงครั้งแรกร้อนถึง เยนส์ เลห์มันน์ บินปัดพ้นคาน จากลูกเตะมุม เฮนริค ลาร์สสัน ซึ่งค่อนข้างเงียบโผล่มาโหม่งบอลกำลังจะเสียบเสาแต่เป็น เลห์มันน์ พุ่งปัดทิ้งไปได้อีกครั้ง จบ 45 นาทีแรก ทั้งสองฝ่ายยังเจาะกันไม่เข้าเสมอกันอยู่ที่ 0-0

เปิดฉากในครึ่งหลัง อาร์เซนอล ลงมาทักทายแรงๆ ทันที อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ ไหลบอลเข้ากลางให้ ฟาเบรกาส ส่องด้วยขวาทันทีแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ จึงรับเข้าซองไม่มีปัญหา แต่ถึงนาทีที่ 53 กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ขึ้นนำ 1-0 เมื่อ โรนัลโด้ แทงทะลุให้ ปาทริซ เอวร่า เปิดบอลพุ่งแฉลบหัว โคโล ตูเร่ ไปเสาสองให้ รูนี่ย์ ตั้งหัวโขกบอลผ่านมือ เลห์มันน์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย และก็เป็นการกลับมาทำประตูได้อีกครั้งของ รูน หลังยิงประตูสุดท้ายต้องย้อนกลับไปเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปีก่อน

ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ปืนใหญ่ เดินเกมบุกใส่ ผีแดง อย่างหนักทีเดียว แต่เมื่อยังไม่สามารถเจาะได้ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องขยับเปลี่ยนตัวส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มาเสริมเกมรุกแทน ฮเล็บ ซึ่งวันนี้ไม่สามารถฝ่าด่าน เอวร่า ไปได้เลย นาทีที่ 68 เจ้าบ้านได้โอกาสจากการลากตะลุยไปสุดเส้นหลังฝั่งขวา อเดบายอร์ ไหลเข้ากลางให้ มาติเยอ ฟลามินี่ ไหลออกขวาให้ โรซิคกี้ ปั่นด้วยซ้ายแต่บอลหลุดเสาออกไป

อีกสี่นาทีถัดมาการสกัดบอลไม่ขาดของ วิดิช ทำให้ อองรี ได้หยอดบอลไปหน้าประตูให้ อเดบายอร์ เล่นลูกขลุกขลิกกับ ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำเอา พอล สโคลส์ ซึ่งลงมาไปช่วยเกมรับต้องตามเคลียร์ก่อนจะเป็น เอวร่า ตีลังกาเตะสกัดบอลทิ้งไป เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เวนเกอร์ ทิ้งไพ่อีกใบส่ง ฮูลิโอ บัปติสต้า มาเสริมเกมรุกแทน ฟลามินี่ ซึ่งเป็นตัวรับ แต่ทีมเยือนได้จังหวะสวนกลับ กิ๊กส์ หลุดขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ ลาร์สสัน ชาร์จแต่ กาแอล กลิชี่ บล็อกเอาไว้ทัน

และจากลูกเตะมุม ไมเคิล คาร์ริค เปิดเข้ามาให้ วิดิช สอดมาโหม่งที่เสาแรกส่งบอลพุ่งเฉียดเสาไกลออกไปไม่ห่าง แต่ถึงนาทีที่ 83 ความพยายามของ อาร์เซนอล มาสัมฤทธิ์ผลเมื่อ สโคลส์ และเอวร่า สกัดบอลไม่ขาด โรซิคกี้ ฉกไปทางขวาก่อนเปิดบอลเข้ากลาง อองรี แปไม่โดนบอลหลุดไปเสาสองให้ ฟาน เพอร์ซี่ย์ ยิงเสยตาข่ายทำให้สกอร์มาเสมอกันที่ 1-1

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 ซึ่งเป็นนาทีสุดท้าย อาร์เซนอล มาโชว์ทีเด็ด เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ เติมเกมขึ้นมาทางขวาก่อนโยนบอลอย่างแม่นยำให้ อองรี โหม่งประตูชัยให้ ปืนใหญ่ เบียดชนะ ผีแดง 2-1 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีอยู่ 57 คะแนนเท่าเดิมจากการลงสนาม 24 นัด ยังนำเป็นจ่าฝูงและก็ทิ้งช่วงห่างจาก แชมป์เก่า เชลซี 6 แต้ม ส่วน อาร์เซนอล มีเพิ่มเป็น 45 คะแนน รั้งอันดับ 4 ไล่หลัง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 3 เหลือแต้มเดียว

อาร์เซนอล :

เยนส์ เลห์มันน์ , เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , โคโล ตูเร่ , ฟิลิป เซนเดอรอส , กาแอล กลิชี่ , อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ , เชส ฟาเบรกาส , มาติเยอ ฟลามินี่ , โทมัส โรซิคกี้ , เธียรี่ อองรี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

แมนฯ ยูไนเต็ด :

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , แกรี่ เนวิลล์ , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมันย่า วิดิช , ปาทริซ เอวร่า , คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , ไมเคิล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , ไรอัน กิ๊กส์ , เวย์น รูนี่ย์ , เฮนริค ลาร์สสัน

วีแกน แอธเลติก 0-2 เอฟเวอร์ตัน
[0-1 : มิเกล อาร์เตต้า (จุดโทษ น.65) , 0-2 : มิเกล อาร์เตต้า (น.90)]

อาร์เซนอล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
[0-1 : เวย์น รูนี่ย์ (น.53) , 1-1 : โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (น.83) , 2-1 : เธียรี่ อองรี (น.90)]