ปืนเฉียบหักปีกหงส์ถึงรัง 3-1 เขี่ยแชมป์เก่าเอฟเอคัพร่วง

ปืนใหญ่ อาร์เซนอล อาศัยความเฉียบขาดบุกไปเล่นงาน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ถึงรังแอนฟิลด์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปพร้อมกับหยุด แชมป์เก่า ไว้เพียงแค่รอบที่ 3 ของศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ ประจำฤดูกาล 2006/07

ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบสาม
ลิเวอร์พูล 1-3 อาร์เซนอล

ศึกบิ๊กแมตช์ เอฟเอ คัพ ในรอบ 3 เป็นการดวลเกือกกันระหว่าง ลิเวอร์พูล ที่ได้เปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ อาร์เซนอล เพื่อนร่วมพรีเมียร์ชิป โดย ราฟาเอล เบนิเตซ มีการเปลี่ยนแปลงให้ ลิเวอร์พูล ตำแหน่งเดียวส่ง เจอร์ซี่ ดูเด็ค ยืนเฝ้าเสาแทน โฮเซ่ เรน่า ส่วนคู่หน้ายึด ปีเตอร์ เคร้าช์ และเดิร์ค เคาท์ ลงล่าตาข่ายแม้ว่า เคร็ก เบลลามี่ จะหายเจ็บกลับมาแล้ว

ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ มีปัญหาในการจัดทัพ อาร์เซนอล บ้างเมื่อ เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่องติดโทษแบนทำให้ต้องหยอด มาติเยอ ฟลามินี่ ลงมาช่วย จิลแบร์โต้ ซิลวา ไล่บอลในแดนกลาง ส่วนเกมรุก โทมัส โรซิคกี้ และอเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ คอยขึ้นเกมทางกราบเพื่อทำทางให้ เธียรี่ อองรี และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลุ้นสกอร์

แต่ทั้ง เดิร์ค เคาท์ และปีเตอร์ เคร้าช์ ยังไม่ได้จังหวะจบสกอร์ ส่วน อาร์เซนอล เน้นตั้งรับเป็นหลักในช่วง 20 นาทีแรก แต่ก็มีจังหวะโฉบเฉี่ยวอยู่บ้าง เธียรี่ อองรี แทงทะลุกะให้ โทมัส โรซิคกี้ หลุดเข้าไปยิงแต่ เจอร์ซี่ ดูเด็ค ยังไวออกมาตัดบอลไว้ได้

อีกสามนาทีถัดมา เดอะ ค็อป เกือบได้เฮเมื่อ ชาบี้ อลอนโซ่ โดน จิลแบร์โต้ ซิลวา เสียบล้มในกรอบเขตโทษแต่ สตีฟ เบนเน็ตต์ เห็นว่ามิดฟิลด์เจ้าถิ่นมีเจตนาพุ่งล้มจึงชักใบเหลืองสมนาคุณ ผ่านครึ่งชั่วโมงเกมยังเป็นไปแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่ลิเวอร์พูลมาได้เสียว อลอนโซ่ ได้จังหวะวอลเล่ย์ระยะไกลแต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ

ถึงนาทีที่ 37 แฟนๆ ทีมเยือนได้เฮกันลั่นเมื่อ โรซิคกี้ ทำชิ่งขึ้นมากับ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ ก่อนจะเป็นมิดฟิลด์ทีมชาติสาธารณรัฐเช็กตวัดยิงลูกไหลเข้ามาของ ฮเล็บ ส่งบอลลอยข้ามมือ ดูเด็ด มุดเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงามให้ อาร์เซนอล ขึ้นนำ 1-0 แถมในนาทีสุดท้าย โรซิคกี้ ความสามารถเฉพาะลากผ่านกองหลัง หงส์แดง 4-5 คนเข้าไปยิงบอลเสียบตาข่ายให้ ปืนใหญ่ นำห่าง 2-0 เมื่อจบครึ่งแรก

เจอร์เมน เพนแนนท์ ได้เปิดจากฝั่งขวาให้ เคาท์ พุ่งโหม่งแต่บอลพุ่งออกเสาไกลไป เกมเริ่มจะตีบตันสำหรับเจ้าถิ่นเมื่อ อาร์เซนอล ลงไปตั้งรับเป็นส่วนใหญ่แถมยังได้ลุ้นจากจังหวะสวนกลับของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่คราวนี้ ดูเด็ค เซฟไว้ได้ที่เสาแรก หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมไม่ดีขึ้น ราฟาเอล เบนิเตซ ขยับส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลงมาเล่นแทน ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่

หลังพยายามอยู่นาน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูไล่มาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 71
เมื่อ เพนแนนท์ เปิดลูกเตะมุมให้ เคร้าช์ โหม่งเสยต่อให้ เคาท์ โหม่งผ่าน มานูเอล อัลมูเนีย เข้าไปตุงตาข่าย และอาร์แซน เวนเกอร์ แก้เกมให้ทีมเยือนทันทีส่ง ฮูลิโอ บัปติสต้า ลงมาแทน ฟาน เพอร์ซี่ อีกสองนาทีถัดมาเจ้าถิ่นเกือบตีเสมอเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดบอลจากขวาลอยไปเสาสองให้ ออเรลิโอ วิ่งเข้ามายิงด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกไป

ควบเข้าไปชิงบอลจาก เจมี่ คาร์ราเกอร์ ก่อนลากเข้าเขตโทษทางซ้ายก่อนตัดเข้ากลางยิงด้วยขวาส่งบอลลอดตัว ดูเด็ค เข้าไปในนาทีที่ 84 ช่วยให้ อาร์เซนอล บุกมาโค่น หงส์แดง 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบที่ 4 ต่อไป ส่วน แชมป์เก่า ต้องถือว่าต้องรอบตั้งแต่หัววัน

ลิเวอร์พูล : เจอร์ซี่ ดูเด็ค , สตีฟ ฟินแนน , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ดาเนียล แอ๊กเกอร์ , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , เจอร์เมน เพนแนนท์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ชาบี้ อลอนโซ่ , หลุยส์ การ์เซีย , เดิร์ค เคาท์ , ปีเตอร์ เคร้าช์

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ , โคโล ตูเร่ , ฟิลิป เซนเดอรอส , กาแอล กลิชี่ , อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ , จิลแบร์โต้ ซิลวา , มาติเยอ ฟลามินี่ , โทมัส โรซิคกี้ , เธียรี่ อองรี , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

แทมเวิร์ธ แพ้ นอริช 1-4
เบอร์มิงแฮม เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2
แบล็คพูล ชนะ อัลเดอร์ชอต 4-2
บริสตอล ซิตี้ เสมอ โคเวนทรี 3-3
เชลซี ชนะ แม็คเคิลฟิลด์ 6-1
เชสเตอร์ เสมอ อิปสวิช 0-0
คริสตัล พาเลซ ชนะ สวินดอน 2-1
ดาร์บี้ ชนะ เร็กซ์แฮม 3-1
ดอนคาสเตอร์ แพ้ โบลตัน 0-4
ฮัลล์ เสมอ มิดเดิลสโบรช์ 1-1
เลสเตอร์ เสมอ ฟูแล่ม 2-2
ฟอเรสต์ ชนะ ชาร์ลตัน 2-0
ปีเตอร์โบโร่ เสมอ พลีมัธ 1-1
ปอร์ทสมัธ ชนะ วีแกน 2-1
เปรสตัน ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0
ควีนปาร์ค เสมอ ลูตัน 2-2
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แพ้ สวอนซี 0-3
เซาธ์เอนด์ เสมอ บาร์นสลี่ย์ 1-1
ทอร์คีย์ แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-2
วัตฟอร์ด ชนะ สต็อคปอร์ท 4-1
เวสต์บรอมวิช ชนะ ลีดส์ 3-1
เวสต์แฮม ชนะ ไบรท์ตัน 3-0
วูล์ฟส เสมอ โอลด์แฮม 2-2
ลิเวอร์พูล แพ้ อาร์เซนอล 1-3