แฟนปืนเศร้า !!! ปืนทรุดพังคาบ้านต่อคู่แข่งตลอดกาล 1-3
อาร์เซนอล 1 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3
ศึกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ คู่ระหว่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทีมอันดับ 3 ของตาราง มี 49 คะแนน เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 มีแต้มเหนือเจ้าถิ่นอยู่เพียงแค่ 1 แต้ม
อาร์เซนอล - แมนยู / Arsenal - Manchester United
เริ่มเกมมาถึงนาทีที่ 4 อาร์เซนอล เปิดเกมรุกเข้าทักทายก่อนทันที อังเดร อาร์ชาวิน ที่รับบทหอกเดี่ยวในเกมนี้ ลุยบอลขึ้นทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษ ก่อนยิงปั่นโค้งกะให้เข้าเสาสอง แต่หลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 9 ทางฝั่งทีมเยือน พยายามเปิดเกมแลกตอบโต้ขึ้นมาทันควัน นานี่ สลัดหนีการเข้าประกบของ กาแอล คลีชี่ ไปได้ถึงสุดเส้นด้านขวา จนได้ระยะเปิดพอเหมาะเข้ามากลางประตูมี พาร์ค ชี-ซอง รอเข้าชาร์จอยู่ แต่ยังดีที่ มานูเอล อัลมูเนีย โฉบเข้ามาปัดทิ้งออกไปได้ทัน
นาทีที่ 23 ทั้งสองทีมเริ่มมองเห็นแนวทางการเล่นของแต่ละฝั่งชัดเจนขึ้น เจ้าบ้านที่เจาะแนวรับผีแดงไม่เข้า หันมายิงไกลจากแดนกลาง วิลเลี่ยม กัลลาส ลุยขึ้นมาเอง ได้ระยะตั้งป้อมยิงกว่า 35 หลา แต่บอลก็โด่งข้ามคานไป
นาทีที่ 28 ทีมเยือน แมนฯ ยูฯ เกือบทำให้กองเชียร์ได้เฮเมื่อ เชส ฟาเบรกาส กัปตันทีมปืนโต สกัดบอลไม่ดีบอลตกอยู่บริเวณกรอบเขตโทษด้านขวา นานี่ เก็บตกจังหวะสอง ก่อนที่จะพลิกยิงด้วยซ้าย บอลกระทบข้างตาข่ายแบบได้เสียว
อาร์เซนอล - แมนยู / Arsenal - Manchester United
แต่พอมาถึงนาทีที่ 33 กองเชียร์เจ้าถิ่นถึงกับช็อคตาตั้งกันทั้งสนาม เมื่อทีมเยือนเจาะตาข่ายขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ จากผลงานของ นานี่ ที่พลิกหลบผู้เล่น อาร์เซน่อล ถึง 2 คนทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะเลี้ยงฝ่าแนวรับเข้ามา แล้วชิพจะให้ พาร์ค ชี ซอง ที่เสาสอง ซึ่งเป็นจังหวะที่ มานูเอล อัลมูเนีย ลอยตัวปัด แต่โดนไม่ดี บอลปลิ้นเข้าประตูตัวเอง
หลังจากที่เสียประตูไม่ทันไร ความหายนะก็เข้าครอบงำเป็นระรอกสอง แมนฯ ยูฯ ที่อาศัยจังหวะโต้กลับเร็ว จาก รูนี่ย์ ป้ายต่อให้ นานี่ ลุยข้นทางกราบขวา ก่อนที่หัวหอกทีมชาติอังกฤษ จะเติมขึ้นไปรับบอลที่ นานี่ จ่ายต่อให้อย่างแม่นยำ ได้ซัดโดยไม่ต้องจับตรงเส้นเขตโทษ หนีมือ มานูเอล อัลมูเนีย เสียบเสาสองเข้าไป ผีแดง หนีห่างเป็น 2-0
จากนั้น อาร์เซนอล มีโอกาสได้ลุ้นจากอังเดร อาร์ชาวิน แต่จังหวะจะยิงดันลื่นไปเสียก่อน ทำให้บอลปลิ้นออกหลังไปเอง ถัดมาช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก “ปืนใหญ่” ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกยิงของ อเล็กซ์ ซง บอลเฉี่ยวเสาออกหลังไป ทำให้จบครึ่งแรก แมนฯ ยูฯ บุกมานำ 2-0
อาร์เซนอล - แมนยู / Arsenal - Manchester United
มาต่อครึ่งหลัง เกมผ่านไปไม่ทันไรนาทีที่ 52 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แสดงให้เห็นถึงความเฉียบขาด เมื่อสามารถบวกประตูเพิ่มฉีกหนีเป็น 3-0 จากจังหวะเบิ้ลบอลของ ไมเคิล คาร์ริค ให้ พาร์ค ชี-ซอง ควบบอลหลุดเข้าไปแปลอดแขน อัลมูเนีย เสียบเสาแรกเข้าไปอย่างเยือกเย็น
เจ้าถิ่นยังไม่ลดละความพยายามหวังที่จะทวงประตูแรกคืนมาให้เร็วที่สุด จังหวะที่กองหลัง แมนยู เคลียร์บอลไม่ขาด อังเดร อาร์ชาวิน กระดกบอลกลับคืนให้ อเล็กซ์ ซง พักอกแล้วล้มตัวตวัดยิงด้วยขวา บอลเฉี่ยวเสาออกนิดเดียว
นาทีที่ 72 เจ้าถิ่น เปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คนรวด ส่ง เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ กับ นิคลาส เบนท์เนอร์ ลงไปแทน บาการี่ ซานญ่า และ โทมัส โรซิชกี้ ลงไปแทน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ส่งจรวดทางเรียบ ธีโอ วัลค็อตต์ แทน เดนิลสัน
นาทีที่ 75 เวย์น รูนี่ย์ ยังสร้างความหวาดผวาให้กับแผงหลัง เดอะ กันเนอร์ส ได้ไม่ลดละ จากจังหวะที่ได้บอลตรงกลางสนาม กระชากหนี เอบูเอ้ เข้าไปยิงด้วยขวา บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
จนมาถึงนาทีที่ 80 เจ้าถิ่นเริ่มมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ประตูตีไข่แตกตามมาเป็น 1-3 จากจังหวะที่แนวรับ แมนฯ ยูฯ เคลียร์บอลไม่ขาดบอลมาตกอยู่หน้าเขตโทษ โธมัส แฟร์มาเล่น ยิงสวนเข้าไป บอลแฉลบ จอนนี่ อีแวนส์ เข้าไป
ท้ายเกม อาร์เซนอล รุกหนักเข้าใส่ทีมเยือนที่ตั้งรับอาศัยจังหวะสวนกลับ โดย แฟร์มาเล่น ได้โขกจังๆหนึ่งครั้ง แต่โดน เอวร่า เคลียร์ทิ้งจากบนเส้น ถัดมาในช่วงนาทีสุดท้าย วิลเลี่ยม กัลลาส ที่ได้โหม่งจากกรอบ 6 หลา แต่บอลหลังไปแบบน่าเขกกะโหลก
ขณะเดียวกัน ช่วงทดเจ็บ แมนยู ก็เกือบได้ประตูหนีไปอีกจากเวย์น รูนี่ย์ แต่จังหวะยิง บอลผ่านเสาสองออกไปนิดเดียว ทำให้จบเกม 90 นาที “ปืนใหญ่” พ่ายคารังให้กับ แมนยู 1-3 รั้งอันดับ 3 ตามเดิม มี 49 คะแนน ส่วน “ผีแดง” รั้งที่ 2 มี 53 คะแนน ตามหลัง เชลชี ทีมนำที่แข่งน้อยกว่า 1 นัดอยู่ 1 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซานญ่า (เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 72), วิลเลี่ยม กัลลาส, โธมัส แฟร์มาเล่น, กาเอล คลีชี่, เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซ์ ซง, เดนิลสัน (ธีโอ วัลค็อตต์ 61), ซาเมียร์ นาสรี่, โทมัส โรซิชกี้ (นิคลาส เบนท์เนอร์ 75), อังเดร อาร์ชาวิน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ราฟาเอล ดา ซิลวา, จอนนี่ อีแวนส์, เวส บราวน์, ปาทริซ เอวร่า, พอล สโคลส์ (ไรอัน กิ๊กส์ 71), ไมเคิล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, นานี่ (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 89), พาร์ค ชี-ซอง (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 87), เวย์น รูนี่ย์