Dennis Bergkamp - Iceberg
ผมคนนึงแล้วล่ะที่สายเลือดอาร์เซน่อลเท่านั้น ไม่ว่าตั้งแต่หัวยันเท้า ไปที่ไหน แข่งเมื่อไหร่ ทีมที่เชียร์เสมอต้องเป็นปืนใหญ่ จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แห่ง พรีเมียร์ ลีก ชื่อดัง
เดนนิส เบิร์กแคมป์ หรือชื่อเล่นว่า Iceberg หรือ ภูเขาน้ำแข็งแล้วนั้น เป็นนักเตะทรงคุณค่าของอาร์เซนอล ถึงขนาดต้องมีเทสติโมเนียล แมตช์ เพื่อแสดงความขอบคุณที่รับใช้มาอย่างจงรักภักดี พร้อมด้วยฝีเท้าและเทคนิคอันยอดเยี่ยม ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน นั่นก็ยังต้องอยู่ในหัวใจแฟนปืนใหญ่ตลอดไป
Full name : Dennis Nicolaas Maria Bergkamp
Date of birth : May 10, 1969
Place of birth : Amsterdam, Netherlands
Nationality : Dutch
Height : 183 cm.
Weight : 77 kg.
Position : Supporting striker
Professional clubs : Ajax Amsterdam (Holland), Internazionale Milano (Italy), Arsenal (England)
Joined Arsenal : June 20, 1995 for £7.5 m
Achievements : Dutch Championship 1990, Dutch Cup 1987, 1993, European Cup Winners Cup 1987 (Ajax), UEFA Cup 1992 (Ajax), 1994 (Inter), English Championship 1998, 2002, 2004, English FA Cup 1998, 2002, 2003, 2005
Personal Honors : Dutch Topscorer 1991, 1992, 1993, Dutch Player of the Year 1992, 1993, European Footballer of the Year -3rd place 1993, English Player of the Year 1998, English Football Writers Player of the Year 1998, Goal of the Season Award 1998, 2002, Arsenal FC Player of the Year 1998, FIFA 3rd best Player of the Year 1993, 1997
10 พฤษภาคม 1969 ที่ อัมสเตอร์ดัม ฮอลแลนด์ ครอบครัว เบิร์กแค้มป์ อันแสนอบอุ่นและรักกีฬาลูกหนังเป็นชีวิตจิตใจ ได้ให้กำเนิดทารกน้อยเพศชายวัยน่ารัก ทีแรกคุณพ่อตั้งใจจะให้ชื่อ หนูน้อยเดนิส ตามนามของ เดนิส ลอว์ อดีตสุดยอดนักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ด ฮีโร่ของบิดาบังเกิดเกล้า ทว่าต้องเพิ่มอักษร N เข้าไปอีกหนึ่งตัว เพื่อให้เป็นไปตามชนชาติดัตช์ จึงได้มาเป็น เดนนิส นิโคลัส มาเรีย เบิร์กแค้มป์ ในบทสรุป
เด็กน้อย เดนนิส ฉายแววการเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังแบเบาะ ก่อนที่จะโชว์ฟอร์มได้เข้าตาแมวมองของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สโมสรยักษ์ใหญ่ของประเทศ จนถูกดึงตัวมาร่วมทีมชุด เยาวชนตั้งแต่ในวัย 12 ขวบ
ไม่กี่ปีให้หลัง โยฮัน ครัฟฟ์ ผู้รับหน้าที่กุนซือของทีมขณะนั้นได้ค้นพบแส่งสว่างในตัวหนุ่มน้อยก่อนเข้าไปถามว่า เอ็งพร้อมจะขึ้นมาเล่นชุดใหญ่กับพวกพี่ๆ หรือยัง
เขาแทบไม่น่าเชื่อและก็ยังตั้งตัวไม่ติด แต่ชีวิตก็มิอาจปฏิเสธโอกาสทอง...
14 ธันวาคม 1986 เดนนิส เบิร์กแค้มป์ วัย 16 ปีลงประเดิมสนามในเกมลีกส์นัดแรกกับชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์ พบกับ โรด้า เจซี ที่ เดอ เมียร์ สเตเดี้ยม ก่อนที่สัมผัสแรกในถ้วย ยุโรปจะตามมาอีกไม่กี่เดือนให้หลัง ในศึก คัพ วินเนอร์ส คัพ นัดปะทะ มัลโม่ เอฟเอฟ ซึ่งในถ้วยนี้ หนุ่มเดนนิส ซัดได้ 4 ประตู และลงมาเป็นตัวสำรองในนัดชิงชนะเลิศพร้อมกับคว้าแชมป์ร่วมกับ อาแจ็กซ์ ประเดิมซีซั่นแรกในบทบาทนักฟุตบอลอาชีพชนิดเหนือ ความคาดฝัน
ปี 1990 เขาชนะเลิศแชมป์ลีกดัตช์เป็นหนแรกและคว้าแชมป์ดัตช์ คัพ ในปี 1993 ซึ่งจากฤดูกาล 1991-93 เบิร์กแค้มป์ ครองตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของประเทศ และได้รับโหวตให้ เป็นนักเตะยอดเยี่ยมสองปีซ้อน ในปี 1992 และ 1993
ในสีเสื้อทีมชาติ เบิร์กแค้มป์ ถูกเรียกตัวเข้าร่วมทัพ อัศวินสีส้ม ตั้งแต่ปี 1990 ก่อนประเดิมนัดแรกในเกมปะทะอิตาลี และพังประตูแรกในทีมชาติได้สำเร็จในเกมพบกับ กรีซ ต่อ หน้ากองเชียร์หลายหมื่นคนในบ้านตัวเอง
ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 1992 ที่สวีเดน นับเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่รายการแรกของ ไอซ์เบิร์ก ฮอลแลนด์ ในฐานะแชมป์เก่าที่เต็มไปด้วยสุดยอดนักเตะชั้นนำของโลกอย่าง รุด กุลลิต, มาร์โค แวน บาสเท่น, แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด และโรนันด์ คูมัน แม้ทีมกังหันสีส้มจะพลิกล็อก พ่ายจุดโทษ ม้ามืด อย่าง เดนมาร์ก อย่างช็อกโลกในรอบรองชนะเลิศ แต่ เดนนิส โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมคว้าตำแหน่งดาวซัลโวมาครองอย่างยอดเยี่ยม
ที่ อาแจ็กซ์ เบิร์กแค้มป์ เล่นทั้งปีกขวาและกองหน้า ด้วยฝีเท้าและชั้นเชิงเกินตัวแค่ระยะเวลาไม่กี่ปีเขาพังตาข่ายคู่ต่อสู้ได้ถึง 122 ประตู ใน 239 เกม ส่งผลให้ชื่อ ฟลายอิ้ง ดัตช์ แมน โด่งดังไปทั่วยุโรป ทีมชั้นนำต่างแย่งกันเพื่อคว้าตัวเพชฌฆาตเลือดเยือนมาร่วมทัพ ก่อนที่สุดท้ายหวยจะไปออกที่ อินเตอร์ มิลาน ทีมในศึกกัลโช่เซเรีย อา อิตาลี ด้วยค่าตัว 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวังของสาวก เนรัซซูรี่ ว่าด้วยการมาของ เบิร์กแค้มป์ จะช่วยกู้ชื่อให้ ไอ้งูใหญ่ จะผงาดครองความยิ่งใหญ่บนถิ่นมะกะโรนีได้อีกครั้ง ทว่าด้วยด้วยสไตล์การเล่นที่แต่ละทีมเน้นแต่การตั้งรับเป็นหลัก ทำให้ชีวิตการค้าแข้งในถิ่น จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า ไม่สวยหรูดังที่คาดหวัง เขาโชว์ฟอร์มไม่ออกยิงได้แค่ 11 ประตูจาก การลงสนาม 50 นัด รางวัลสิ่งเดียวที่ อิตาลี คือช่วยให้ อินเตอร์ คว้าแชมป์ยูฟ่าคัพในปี 1994 แต่มันก็น้อยเกินไปสำหรับชาว เนรัซซูรี่ และเขาเองเริ่มไม่มีความสุขในการที่ต้องตกเป็นตัวสำรองบ่อย ครั้ง
ถนนลูกหนังของ เบิร์กแค้มป์ เปลี่ยนเส้นทางอีกครั้ง หนนี้มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ อาร์เซน่อล ลอนดอน ในประเทศอังกฤษ นับเป็นสโมสรที่ 3 บนสังเวียนการค้าแข้ง ค่าตัว 7.5 ล้านปอนด์ คือจำนวนเงินที่ เดอะ กันเนอร์ส ต้องจ่ายให้กับ อินเตอร์ มิลาน ทุกอย่างจบลงด้วยความเรียบร้อย ในเดือนมิถุนายนปี 1995 โดย บรูซ ริอ็อค กุนซือของ ทีมขณะนั้นดึงตังดาวยิงวัย 26 ปีสู่สังเวียนไฮบิวรี่ ซึ่งก่อนจากมา มัสซิโม่ โมรัตติ ประธานสโมสรของ ไอ้งูใหญ่ ได้ให้คำอวยพรว่า อาร์เซน่อล จะโชคดีมากหาก เบิร์กแค้มป์ ยิงได้ถึง 10 ลูกในซีซั่นนี้
เบิร์กแค้มป์ ประเดิมนัดแรกให้ ไอ้ปืนใหญ่ นัดเจอกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ในเดือนสิงหาคม ทว่าสไตล์การเล่นในลีกอังกฤษ ไม่หมูเหมือนที่คาดและต้องใช้เวลาถึง 8 เกมกว่าจะ สามารถตะบันประตูแรกได้สำเร็จ ในเกมปะทะ เซาแธมป์ตัน
Slowly but surely ช้าแต่ชัวร์ คือสิ่งที่ เบิร์กแค้มป์ ได้ค้นพบและสร้างสรรค์มันขึ้นได้อย่างงอกงามเหลือเชื่อในเวลาต่อมา โดยมี เอียน ไรท์ อดีตสุดยอดตำนานดาวยิงของ อา ร์เซน่อล เป็นพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจมากที่สุด สำหรับการมาร่ำเรียนวิชา พรีเมียร์ชิพ ปีแรก
กันยายนปี 1996 ไฮบิวรี่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือชาวฝรั่งเศสเข้ามารับหน้าที่แทน ริอ็อค ที่ถูกปลด โดยมีเป้าหมายคือโค่นล้มบัลลังก์แชมป์ แมนฯ ยู ไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังของเมืองผู้ดีในขณะนั้น หลังโชว์ฟอร์มได้ประทับใจปี 1997 เบิร์กแค้มป์ ต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร พร้อมกับคว้าอันดับที่ 3 นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า นอกจากนี้ในเดือนกันยายน ดิ ไอ ซ์แมน ยังกลายเป็นนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายนทั้งอันดับ 1, 2 และ 3 ของบีบีซี
ฤดูกาล 1997-98 นับเป็นปีทองของ เบิร์กแค้มป์ เมื่อเขาและเพื่อนร่วมทีมจัดการเขย่าบัลลังก์แชมป์ ปีศาจแดง ให้สั่นสะเทือนด้วยการกระชากดับเบิ้ลแชมป์ทั้งถ้วย พรีเมียร์ชิพ และเอฟเอ คัพ จากอ้อมอกของ ยูไนต็ดมาตั้งโชว์ยังถิ่น ไฮบิวรี่ อย่างยอดเยี่ยม
ปี 1998 ร่วมทีมชาติเข้าแข่งศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายที่ฝรั่งเศส และกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของประเทศที่จำนวน 37 ประตู
ปี 2000 อำลาการเล่นกับทีมชาติ ฮอลแลนด์ หลังรับใช้บ้านเกิดจำนวน 79 นัด
ปี 2003 ยิงประตูที่ 100 ในสีเสื้อ อาร์เซน่อล ในเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดเจอกับ อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด
ปี 2004 ไอซ์เบิร์ก และเพื่อนร่วมทีมสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ด้วยการไม่แพ้ใครจำนวน 38 นัด และสร้างสถิติไร้พ่ายได้ถึง 49 เกม ระหว่างเดือน พฤษภาคม 2003 ถึงเดือนตุลาคม 2004 ก่อนถูกทำลายด้วยน้ำมือคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนฯ เชสเตอร์ยูไนเน็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ปี 2005 ต่อสัญญากับสโมสรออกไปอีกหนึ่งปี หลังจากมีส่วนช่วยให้ทีมดวลจุดโทษชนะ ปีศาจแดง คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นหนที่ 4 มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวออกมาเผย ว่าฤดูกาลต่อไปจะเป็นปีสุดท้ายในอาชีพนักเตะ
14 เมษายน 2006 อาร์เซน่อล ประกาศจัดเกม เทสติโมเนียล แมตช์ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ เป็นนัดเปิดสังเวียน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม สนามเหย้าอันหรูหราอลังการแห่งใหม่ซึ่งมีความจุ 60,000 ที่นั่งที่ใช้ทุนสร้างกว่า 390 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นเกียรติแด่ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ ที่อยู่รับใช้สโมสรมานานถึง 11 ปี ด้วยการเชิญสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้นสังกัดแรกมาทำการแข่ง ขันในวันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม
15 เมษยน 2006 สาวก เดอะ กันเนอร์ส ได้ทำพิธีอันเป็นเกียรติแด่ เบิร์กแค้มป์ เมื่อพร้อมใจกันสวมเสื้อสีส้มเข้ามาชมเกมนัดพบกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เพื่อให้เป็นวันของ เดนนิส เบิร์กแค้มป์ เดย์ ก่อนที่ ไอซ์เบิร์ก จะจัดการซัลโว 1 เม็ดเป็นการตอบแทนแฟนบอลให้ทีมเอาถล่ม เดอะ แบ๊กกี้ส์ 3-1 เป็นประตูสุดท้ายและสกอร์ที่ 121 ในยูนิฟอร์ม ไอ้ปืนโต ของดาวยิงดัตช์
7 พฤษภาคม 2006 ลงสนามนัดสุดท้ายในเกมลีกฤดูกาล 2005-06 นัดเปิดบ้านถล่ม วีแกน แอธเลติก 4-2 ในเกมประวัติศาสตร์นัดปิดตำนาน 93 ปี ไฮบิวรี่ พร้อมกับยุติเส้นทาง อาชีพนักเตะด้วยวัย 37 ปี
ตำนานหมายเลข 10 ของ อาร์เซน่อล ที่มีแฟนๆ จำนวนไม่น้อยเรียกร้องให้สโมสรยกเลิกการใช้เบอร์นี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ ไอซ์เบิร์ก ตั๋วจำนวน 54,000 ที่นั่งถูกขาย หมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ไม่ใช่แค่การมาร่วมฉลองขึ้นบ้านใหม่ แท้จริงแล้วเหล่าสาวก กันเนอร์ส ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการเลี้ยงอำลาเอกบุรุษผู้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ตลอดกาลนามว่า เดนนิส เบิร์กแค้มป์ คลาสสิคฟุตบอลเลอร์ต่างหาก...
ข้อมูลนักเตะ
ชื่อ : เดนนิส เบิร์กแค้มป์
เกิด : 10 พฤษภาคม 1969
สัญชาติ : ฮอลแลนด์
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสร :
1986-1993 อาแจ็กซ์ 185 นัด 122 ประตู
1993-1995 อินเตอร์ มิลาน 52 นัด 11 ประตู
1995-2006 อาร์เซน่อล 423 นัด 121 ประตู
เกียรติยศ :
- แชมป์พรีเมียร์ดัตช์ 1990
- แชมป์ดัตช์ คัพ 1987, 1993
- แชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ 1987 (อาแจ็กซ์)
- แชมป์ยูฟ่า คัพ 1992 (อาแจ็กซ์), 1994 (อินเตอร์ มิลาน)
- แชมป์พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ 1998, 2002, 2004
- แชมป์เอฟเอ คัพ อังกฤษ 1998, 2002, 2003, 2005
รางวัลส่วนบุคคล :
ดาวซัลโวพรีเมียร์ดัตช์ : 1991, 1992, 1993
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฮอลแลนด์ : 1992, 1993
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรป : อันดับ 3 1993
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษ : 1998
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของผู้สื่อข่าวอังกฤษ : 1998
ประตูแห่งฤดูกาล : 1998, 2002
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เซน่อล : 1998
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า : อันดับ 3 1993, 1997
His family were Manchester United fans, but Dennis admired Glenn Hoddle of Spurs the most.
Maybe I was...maybe I am, a little different from other players. They will tell you that Pele, Maradona, Cruyff are their idols and I will say Glenn Hoddle. Main thing was that I was a big fan of Glenn Hoddle. When you wanted to see Hoddle play you watched Tottenham. People often assume I'm a Spurs fan but it's not true. I was a fan of Glenn Hoddle, not of Spurs.
Bergkamp is another product of the Ajax youth system. He joined the Ajax youth team when he was 12.
The normal things for professional players now, I already did when I was 12 years old. I didn't have time to go out. If we had game on Saturday, I would stay in on Friday night. I didn't smoke, I didn't drink. I stayed in on Saturday nights and Sunday to do my homework so I could train two or three times a week.
5 ปีต่อมา เดนนิสก็พุ่งขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ
ครัฟฟ์บอกกับผมก่อนลงสนามว่าไม่ต้องตื่นเต้นแค่เล่นให้สนุกเท่านั้นก็พอ จากนั้นก็มองมาที่ผม วินาทีนั้นมันทำให้ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าคนอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ คิดว่าคุณดีพอแล้ว คุณก็ไม่ต้องฟังใครแล้ว
ล้มเหลวที่อิตาลี? หรือได้แรงกระตุ้น?
ผมขอยืนยันว่าการอยู่กับอินเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ผมก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับการมองหาความสำเร็จอีกครั้ง
คำพูดที่ออกมาจากปาก เดวิด ดีน และ เคน แฟร์
ตอนนี้อินเตอร์กำลังจะขาย เดนนิส เบิร์กแคมป์ คุณสนใจไหมล่ะ?
On the 20th of June 1995, Dennis became Arsenal's record purchase for £7.5m.
Arsenal will be lucky if Bergkamp scores 10 goals this season.
การได้เจอคู่หูคนใหม่อย่าง เอียน ไรท์
เราเป็นคู่หูที่เหลือเชื่อมาก เพราะไรท์ตี้ทำให้ทุกอย่างง่ายสำหรับผม สไตล์การเล่นระหว่างเขากับผมเข้ากันได้ดี บางครั้งเวลาที่คุณไปเล่นยังทีมใหม่ คุณต้องอาศัยเวลาปรับตัว แต่ที่นี่กลับแตกต่างออกไป เพราะผมรู้สึกได้ทันทีว่าไปกับไรท์ตี้ได้
จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร
ผมเป็นส่วนหนึ่งในการออกสตาร์ตและจากนั้นเจ้านาย(เวนเกอร์)ก็เข้ามา ตามมาด้วย ปาทริค วิเอร่า, เอ็มมานูแอล เปอตีต์, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส และหลังจากนั้นทีมนี้ได้กลายเป็นทีมที่มีนักเตะระดับโลกขึ้นมาทันที
เดนนิส เบิร์กแคมป์ เทสติโมเนียล แมตช์...22 ก.ค. 2006 เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ถ้ามีเกมเทสติโมเนียล แมตช์ มันจะต้องเป็นเกมที่เล่นกับอาแจ็กซ์ แม่และพ่อมักติดตามเกมที่ผมเล่นเสมอ แมตช์นี้ก็เช่นกัน
ผมอยากจะขอบคุณเฮนริต้าภรรยาของผมที่คอยให้กำลังใจผมมาโดยตลอด คุณจะไม่สามารถประสบความสำเร็จในอาชีพได้เพียงตัวคนเดียว ถ้าไม่มีเธอ ผมคงไม่มีวันนี้
มันยากที่ผมจะกล่าวคำอำลาในวันนี้ เพราะผมมีความรู้สึกที่สุดวิเศษตลอดเวลา 11 ปีที่อยู่กับทีม โดยเฉพาะกับแฟนบอลของเรา พวกเขาเป็นกองเชียร์ที่สุดยอดอย่างแท้จริง
สำหรับผมมีอยู่สองสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืมนั่นก็คือ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และอาร์เซน่อล
Tribute to Dennis Bergkamp
If Ryan Giggs is worth £20 million, Dennis Bergkamp is worth £100 million. - Masco Van Basten
Bergkamp. He had the finest technique of all Dutch players - Guus Hiddink
He is a dream for a striker. - Thierry Henry
Intelligence and Class. - Arsene Wenger
God. - Arsenal Fans