อาถรรพ์กันเนอร์ส

 

       ก็เห็นจะจริงอย่างที่เขาว่าเพราะวัตถุผิวเกลี้ยงจะบ่ายหน้าไปทางไหนก็ได้ทั้ง 360 องศา
 

       เป็นอย่างนี้ จึงเสียเวลาเปล่าหากจะหวังเอาความแน่นอนจากเกมลูกหนัง
 

       ประเดี๋ยวมีพลิกล็อค ประเดี๋ยวมีผิดไปจากความคาดหมายไม่ว่าจะเป็นวานนี้ วันนี้ หรือต่อให้เป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้ก็อีหรอบเดียวกัน
 

       กล่าวได้เลยว่าแม้แต่ นอสตราดามุส ผู้หยั่งรู้ดินฟ้าก็ต้องสยบให้กับอาถรรพ์ของไอ้เจ้าลูกกลมๆนี้
 

       เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างถึงศึกพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เทียบกับซีซั่นก่อนเลยเป็นไง
 

       จากผลงานอันร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล ที่ผงาดขึ้นเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก กูรูและกูไม่รู้ทั่วโลกต่างแสดงทัศนะในทำนองและเนื้อร้องเดียวกันว่าหงส์แดงมาแน่
 

       แล้วเป็นไง ทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ กำลังจะตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกมิตกแหล่
 

       ส่วนแชมป์พรีเมียร์ลีก เผลอๆอีกไม่กี่นัดข้างหน้าอาจป่าวประกาศอย่างเป็นทางการเลยก็ได้ว่าเร้ด แมชีนหมดลุ้นไปอีกปี
 

       ในทางกลับกัน ปีก่อน อาร์เซน่อล ต้องเร่งเครื่องคว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีกชนิดน้ำลายเหนียวเอาการ
 

       ยิ่งในช่วงซัมเมอร์ เดอะ กันเนอร์ส เสียกำลังพลคนสำคัญไปสองหน่อ ก็ยิ่งทำให้หลายคนฟันธงว่าซีซั่นนี้ปืนใหญ่ล้มฟุบชัวร์
 

       และเกรงกริ่งกันว่า แมนฯ ซิตี้ ที่ใช้อำนาจเงินฉุด เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ กับ โคโล่ ตูเร่ ไปร่วมทัพน่าจะเสียบแทนอาร์เซน่อลในตำแหน่งบิ๊กโฟร์หน้าใหม่ได้ด้วยซ้ำ
 

       แต่เอาเข้าจริง ไปๆมาๆอาร์เซน่อลนี่แหละที่มีแววได้ลุ้นแย่งแชมป์กับเชลซี
 

       ผิดคาดมั้ยล่ะพี่น้อง?
 

       ยิ่งไปกว่านั้น เผลอๆสองพ่อค้าแข้งผิวสีที่ควงกันไปรับทรัพย์ก้อนใหญ่กับแมนฯ ซิตี้ (แต่อ้างว่าย้ายเพื่อความสำเร็จ) อาจล้มเหลวกับเรือใบอีกต่างหาก
 

       ล้มเหลวในที่นี้หมายถึงอดีตต้นสังกัดของทั้งคู่น่าจะไปได้ไกลกว่าเรือใบสีฟ้าประมาณนั้น
 

       อยู่ที่เก่าก็ดีอยู่แล้ว จะย้ายให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะสมน้ำหน้าทำไมก็ไม่รู้
 

       ทั้งๆที่ไม่มีนายบ้ายอ แต่อาร์เซน่อลกลับสร้างสถิติยิงกระจายได้อย่างน่าฮือฮาอยู่ในเวลานี้
 

       เลยอดคิดไม่ได้ว่าทำไมในทุกๆครั้งที่มีสมาชิกคนสำคัญตีจากเดอะ กันเนอร์สไปเมื่อไหร่ พวกเขาเหล่านั้นมักมีอันเป็นไปเสมอ
 

       แทนที่จะไปได้สวยกับแมนฯ ซิตี้ ปรากฏว่าทีมเงินถังเครื่องรวนเจ๊าได้เจ๊าดีตั้งห้านัดติดต่อกัน
 

       นี่ถ้าไม่ได้เล่นถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกปีหน้าก็ต้องบอกว่าทั้งบายอร์และตูเร่คิดสั้นเหมือนโรบินโญ่ไม่มีผิด
 

       แต่กระนั้น คู่นี้ก็ไม่ใช่นักเตะรายแรกๆที่ผละไปจากอ้อมอกของ อาร์แซน เวนเกอร์ แล้วมีชีวิตการค้าแข้งที่ตกต่ำ
 

       หากพลิกปูมกลับไปดูก็จะเห็นว่าแม้แต่ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ และ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ก็โดนอาถรรพ์ตรงนี้เล่นงานทั้งๆที่ช่วงย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่าคู่นี้ยังอยู่ในช่วงพีคสุดๆอยู่เลย
 

       อีกรายที่อับแสงไม่แพ้กันหลังโบกมือลาปืนโตก็หนีไม่พ้น ปาทริค วิเอร่า ยอดกองกลางแห่งยุคในขณะนั้น
 

       จึงให้น่าสงสัยว่าเวนเกอร์เป็นพ่อมดหมอผีปลอมตัวมาหรืออย่างไรถึงทำให้ลูกทีมที่ไม่รักดีมีอนาคตที่ตกต่ำแทบทุกราย
 

       หากจะมีใครที่อยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์นี้ก็ดูจะมี เธียร์รี่ อองรี แค่รายเดียวกระมัง
 

       แม้แต่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ก็ต้องย้ายทีมจ้าละหวั่นครั้งแล้วครั้งเล่ากว่าจะกลับมาแจ้งเกิดได้อีกรอบกับเชลซี
 

       ฉะนั้นแล้วคงไม่แคล้วหรอกที่บายอร์กับตูเร่จะเป็นเหมือนอดีตดาวเตะท๊อปกันรายอื่นๆก่อนหน้านี้
 

       หากเป็นเช่นนั้นจริง คราวต่อไปใครที่คิดปันใจเวนเกอร์ประเภทดังแล้วแยกวงเห็นทีคงต้องคิดหนักแล้วล่ะ!

 
ธีระ