เป็นสัญญาณที่บอกว่า ทีมปืนใหญ่ยังไม่ตาย สามารถลุ้นแชมป์กับบิ๊กๆ ที่เหลือได้ต่อไป ขณะเดียวกันก็ย้ำความเปราะบางในแดนกลางปีศาจแดงให้เห็นอีกครั้ง
เกมนี้เทียบกันตัวๆ อาร์เซน่อลเป็นรองบานเบอะ กองหน้าไม่มีทั้ง ฟาน เพอร์ซี่, อเดบายอร์, ธีโอ วัลค็อตต์ ก็ไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเก็บได้ซัก 1 คะแนน แฟนๆ ก็ไม่น่าจะบ่นอะไร
แต่ด้วยทีมสปิริตอันยิ่งใหญ่ บวกทีมเวิร์กที่เข้าฝักถูกจังหวะ ถูกเวลา รวมทั้งฟอร์มสุดยอดของ ซาเมียร์ นาสซี่, เดนิลสัน, กาแอล คลิซี่ ทำให้เกมพลิกไปอีกแบบอย่างที่เห็น
อาร์เซน่อลทำได้เพราะระบบมันอยู่ตัว ถึงจะขาดดารา แต่ถ้าพวกที่เหลือเล่นได้เต็มฝีเท้าที่มี เกมก็ไม่เสียศูนย์ แม้ว่าความเฉียบขาดจะหายไปบ้างก็ไม่เสียหาย
อีกอย่างคือ
อาร์แซน เวนเกอร์ วางแทคติคมาอุดรูรั่วดีด้วย แนวรุกให้เล่น 4-3-3 นิคลาส เบนท์เนอร์ ใช้ความใหญ่ค้ำ มีนาสรี่ กับ วัลค็อต ประคองอยู่ข้างๆ ตรงนี้ความจริงไม่ใช่ว่าเป็นทีเด็ด แค่เกลี่ยให้เนียนที่สุด ไม่ให้เกมตกฮวบจากการขาดอเดบายอร์กับฟาน เพอร์ซี่เท่านั้น
ผลที่ออกมาต้องบอกว่าใช้ได้ เบนท์เนอร์พลาดโอกาสไป 2 หน นอกนั้นก็อาศัยความขยันป่วนกองหลังแมนฯยูไปเรื่อย ผลงานถือว่ากลางๆ ไม่ดี ไม่แย่
แต่ที่ช่วยอาร์เซน่อลไว้คือ ความคมของซาเมียร์ นาสซี่ ซึ่งทำสองประตูอย่างเฉียบขาด โดยเฉพาะลูกสองที่ได้มาในต้นครึ่งหลังนับเป็นจุดสำคัญของเกมอย่างแท้จริง
ทีมปืนใหญ่เอาตัวรอดผ่านด่านชี้เป็นชี้ตาย แต่ที่เหลือยังต้องพิสูจน์ความสม่ำเสมอกันอยู่ ไม่ใช่ว่าเยี่ยมเฉพาะบิ๊กแมตช์ นัดเจอทีมเล็กก็ต้องฟัน 3 แต้มเป็นกอบเป็นกำด้วย
ส่วนแมนฯยูแพ้นัดนี้ไม่เสียหายเท่าโดนย้ำจุดเปราะตรงแผงกองกลาง มิดฟิลด์ปีศาจแดงโดนบีบพื้นที่เร็วๆ ด้วยลูกหนักและทีมเวิร์กดีๆ เป็นต้องคายบอลทิ้งสะเปะสะปะ จ่ายกันเสียเปล่าง่ายๆ จน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน น่าจะหนักใจอยู่ลึกๆ
เพราะถ้ายังแก้ไม่ตก ต่อให้กองหน้ามหากาฬแค่ไหนก็อันตรายน้อยลงครึ่งต่อครึ่ง