ปืน พ่าย 3 นัดรวด โดน เชลซี บุกขย้ำ 0-2

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 ธันวาคม 2548 01:01 น.

ปืนโต อาร์เซนอล สิ้นลายพ่ายคารัง ไฮบิวรี่ แก่คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี 0-2 โดยถือเป็นความพ่ายแพ้ 3 นัดติดในลีกและแทบจะหมดลุ้นแชมป์แล้วก็ว่าได้เนื่องจากตามหลังถึง 20 คะแนน

ศึก พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
อาร์เซนอล 0 - 2 เชลซี

ปืนโต อาร์เซนอล ทีมอันดับ 8 ที่แพ้มา 2 เกมติดต่อกัน เปิดรัง ไฮบิวรี่ ต้อนรับจ่าฝูง สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เจ้าถิ่นไม่มี กิลแบร์โต้ ซิลวา กองกลางตัวความหวังที่เจ็บ ต่างกับทีมเยือนที่มาแบบเต็มสูบในทุกตำแหน่ง

เชลซี เปิดฉากอย่างน่ากลัวโดยเฉพาะแผงกองกลางที่ดูดีกว่า อาร์เซนอล ทำให้ครองบอลเอาไว้ได้หมดโดยมีลุ้นในนาทีที่ 3 เมื่อ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา โหม่งชงให้ โจ โคล ได้ยิงเดี่ยวๆ แต่รีบร้อนไปบอลเหินข้ามคาน ถัดมานาทีเดียว แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยิงฟรีคิกริมเส้นด้านซ้ายบอลจะเสียบใต้คานเสาสองแต่ เยนส์ เลห์มันน์ ปัดออกไปได้

อาร์เซนอล เหมือนยังตั้งตัวไม่ติดนาทีที่ 11 น่าจะเสียจุดโทษเมื่อ ดร็อกบา หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่ถูก เลห์มันน์ ใช้มือเหนี่ยวและ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส มากระแทกข้างหลังจนล้มลงไปแต่ว่ากรรมการไม่ให้เป็นลูกจุดโทษแบบค้านสายตาแฟน เชลซี ทั้งสนาม

อย่างไรก็ตามโอกาสบุกครั้งแรกของ อาร์เซนอล ในนาทีที่ 20 ก็เกือบขึ้นนำเมื่อ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ จ่ายให้ เธียร์รี่ อองรี หลุดเข้าไปโดยถูกทำลายจังหวะนิดนึงแต่ไม่ล้มยังเอี่ยวตัวแปไปเสาสองได้บอลผ่านมือ เช็ก ไปแล้วแต่ว่าชนโคนเสาเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

อีก 1 นาทีถัดมา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดขึ้นไปทางด้านซ้ายก่อนแปผ่านตัว เช็ก เข้าประตูไปแต่ว่ากรรมการไม่ให้เป็นประตูโดยมองว่าล้ำหน้าแต่เมื่อดูจากภาพช้าแล้วไม่ล้ำ อาร์เซนอล ชวดประตูขึ้นนำ

ผ่านไป 30 นาทีเกมค่อนข้างเดือดมีผู้เล่นโดนใบเหลืองทั้ง ฟาน เพอร์ซี่ ที่ไม่ยอมรับคำตัดสินกรรมการและ อาร์เยน ร็อบเบน ที่ไปเตะข้างหลัง ฮเล็บ รวมถึงจังหวะที่ มิคาเอล เอสเซียง ไปฟาดศอกใส่อก โลร็องต์ เอตาเม่ อย่างน่าเกลียดจนผู้เล่นทั้งสองทีมเกือบมีเรื่องกัน

แต่ว่านาทีที่ 39 เชลซี ทุ่มเร็วที่ริมเส้นด้านซ้ายให้ ดร็อกบา ที่จ่ายเร็วให้ ร็อบเบน หลุดขึ้นไปทางด้านซ้ายก่อนกระชากจี้ไปแปหนีมือ เลห์มันน์ ชนโคนเสาสองเด้งเข้าประตูไป เชลซี บุกมานำ อาร์เซนอล 1-0 ในช่วง 45 นาทีแรก

ช่วง 5 นาทีแรกของครึ่งหลังมีผู้เล่น อาร์เซนอล โดนใบเหลืองถึงสองคนทั้ง เซนเดอรอส ที่ไปสอย ร็อบเบน และ อองรี ที่จงใจเตะขาหลัง ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ จากนั้นนาทีที่ 55 โลร็องต์ เอตาเม่ เติมขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนเลี้ยงหลอกล่อและยิงมุมแคบแสกหน้าแต่ว่า เช็ก ไม่พลาดทุบไว้ได้

อาร์เซนอล ต้องบุกมากขึ้นเพื่อเอาประตูคืนทำให้แผงรับมีพื้นที่เหลือเยอะในนาทีที่ 66 ร็อบเบน หลุดขึ้นไปทางด้านขวาก่อนเลี้ยงตัดไปซ้ายให้เข้าเท้าซ้ายข้างถนัดก่อนยิงเรียดหักข้อแต่ว่าหักไม่พอ เลห์มันน์ ล้มตัวรับเอาไว้ได้ นาทีที่ 70 อาร์เซนอล เปลี่ยนตัวส่งจอมเก๋า เดนนิส เบิร์กแค้มป์ และ โรแบร์ ปิแรส มาแทน เฟรดริก ลุงเบิร์ก และ ฮเล็บ

แลมพาร์ด ตัดสินใจวางบอลยาวไปทางตำแหน่งแบ๊กซ้ายของ อาร์เซนอล คือ เอเตเม่ ซึ่งพลาดถูก โจ โคล ฉกบอลไปได้ก่อนเลี้ยงจี้ โซล แคมป์เบลล์ และยิงเรียดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเรียดไซด์โป้งเบียดโคนเสาขวามือ เลห์มันน์ เข้าไปอย่างสุดคม เชลซี หนีไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 73

โคล ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจในนาทีที่ 76 ตัดสินใจยิงไกลนอกกรอบเขตโทษโดยเล็งไปที่มุมเดียวกับที่ได้ประตูแต่ว่าคราวนี้ เลห์มันน์ ไม่พลาดปัดบอลไปชนเสาออกหลังไป จากนั้น เชลซี เปลี่ยนตัวส่ง เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป ลงมาแทน ร็อบเบน

เกมดูเนือยลงไปนาทีที่ 84 เบิร์กแค้มป์ ลักไก่ยิงไกลด้วยการปั่นจะให้เข้าเสาแรกด้วยเท้าขวาแต่ว่า เช็ก ไม่ยอมพุ่งปัดออกไปได้อีก หมดเวลาการแข่งขัน อาร์เซนอล พ่าย เชลซี 0-2 เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 46 คะแนนจาก 17 นัดนำจ่าฝูงต่อไปส่วน อาร์เซนอล ลงเล่น 16 นัดแต่ตามหลังถึง 20 คะแนนแล้วเวลานี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซนอล - เยนส์ เลห์มันน์, โลร็องต์ เอตาเม่, โคโล่ ตูเร่, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, โซล แคมป์เบลล์, มาติเยอ ฟลามินี่, อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ, เชส ฟาเบรกัส, เฟรดริก ลุงเบิร์ก, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เธียร์รี่ อองรี
เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, วิลเลี่ยม กัลล่าส์, เปาโล แฟร์ไรร่า, ริคาร์โด้ คาวัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โคล้ด มาเกเลเล่, มิคาเอล เอสเซียง, อาร์เยน ร็อบเบน, โจ โคล, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา