'อาร์เซนอล' พร้อมจัดชุดใหญ่รอต้อนรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันพุธที่ 12 ก.พ.นี้ หวังแก้ตัวจากเกมล่าสุดที่พบกับความพ่ายแพ้แบบยับเยิน
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ คู่เอก "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมรองจ่าฝูง แข่ง 25 นัด มี 55 แต้ม เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 แข่ง 25 นัด มี 41 แต้ม ในเวลา 02.45 น. เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือเจ้าถิ่นที่ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกทีม และประกาศว่าต้องเอาคืน หลังจากนัดที่แล้วโดนลิเวอร์พูล ถล่ม 5-1 นัดนี้ยังไม่มี มาติเยอ ฟลามินี กองกลางตัวรับที่ติดแบน และอารอน แรมซีย์ กับ ธีโอ วัลคอตต์ ที่ยังบาดเจ็บ แต่มีลุ้นได้ โธมัส แฟร์มาเลน กองหลังกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง
คาดว่า "ปืนใหญ่" อาจมีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดย คีแรน กิบบ์ส อาจจะได้กลับมายืนเป็นแบ็กซ้าย
เพื่อประสานในแผงแนวรับร่วมกับ โลรองต์ คอสเซียลนี, แพร์ แมร์เตซักเกอร์ และ บาการี ซานญา ส่วนแดนกลาง โธมัส โรซิคกี มีสิทธิ์ได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงแทน อเลกซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน แต่ 4 ตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ อย่าง แจ็ค วิลเชียร์, มิเกล อาร์เตตา, ซานติ กาซอร์ลา และเมซุต โอซิล จะยังคงได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิม เช่นเดียวกับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ยังคงได้ยืนเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า
ด้านทีมเยือนของ เดวิด มอยส์ มีลุ้นได้ตัว ฟิล โจนส์ กลับมาช่วยแนวรับอีกครั้ง
แต่น่าจะมีการปรับทัพจากเกมล่าสุดที่ทำได้เพียงแค่เปิดบ้านเสมอ ฟูแลม 2-2 คาดว่า อัดนัน ยานูซาย และหลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย น่าจะได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง ส่วน 3 ประสานในแนวรุกอย่าง ฆวน มาตา, เวย์น รูนีย์ และ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยังคงพร้อมยืนล่าตาข่ายร่วมกันเหมือนเดิม
ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ทีมอันดับ 3 แข่ง 25 นัด มี 54 แต้ม เปิดรังอิติฮัด สเตเดี้ยม
รับการมาเยือนของ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 17 แข่ง 25 นัด มี 24 แต้ม ในเวลา 02.45 น. นัดนี้ มานูเอล เปเยกรินี กุนซือเจ้าบ้านยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน 4 ดาวดังอย่าง ฆาบี การ์เซีย, ซาเมียร์ นาสรี, แฟร์นันดินโญ และ เซอร์จิโอ อเกโร ที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน จึงเตรียมปรับทัพจากเกมล่าสุดที่ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ นอริช 0-0 คาดว่า เอดิน เซโก น่าจะได้กลับมายืนล่าตาข่ายคู่กับ อัลบาโร เนเกรโด ส่วน โจ ฮาร์ท, แวงซองต์ กอมปานี, เฆซุส นาบาส, ยายา ตูเร และ ดาวิด ซิลวา ยังคงพร้อมลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก ส่วนทีมเยือนของ กุสตาโว โปเยต์ ที่เพิ่งแพ้ ฮัลล์ 0-2 จะไม่มี เวส บราวน์ กองหลังที่ติดโทษแบน ทำให้ โมดิโบ ดิอาคิเต จะมายืนคู่กับ จอห์น โอเชีย ส่วนนักเตะคนอื่นอย่าง แจ็ค โคลแบ็ค, อดัม จอห์นสัน, ฟลาบิโอ บอร์รินี และ โจซี อัลติดอร์ ลงสนามพร้อมกัน
ด้าน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 4 แข่ง 25 นัด มี 50 แต้ม ยกพลบุกไปเยือน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม ที่คราเวน คอตเทจ ในเวลา 03.00 น.
คาดว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือทีมเยือนน่าจะยึดผู้เล่นจากเกมล่าสุดที่ชนะ อาร์เซนอล 5-1 เพราะยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน ดาเนียล แอ็กเกอร์, โฆเซ เรนา, เกลน จอห์นสัน และ ลูคัส เลวา ที่ยังบาดเจ็บ โดยคู่หัวหอกจะเป็นการจับคู่กันระหว่าง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ เช่นเดียวกับแผงแดนกลางที่ยังคงเป็น 4 ประสานอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิลิปป์ คูตินโญ และ "สตีวีจี" สตีเวน เจอร์ราร์ด ส่วนเจ้าถิ่นอาจปรับทัพเพื่อให้มีนักเตะมีความสด เบรเด ฮานเกลันด์, สกอตต์ ปาร์คเกอร์, เดเมียน ดัฟฟ์ อาจได้ลงเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับ คอสตาส มิโตรกลู กองหน้าตัวใหม่น่าจะได้เปิดตัว
ส่วนโปรแกรมคู่อื่นลงเตะเวลา 02.45 น. เอฟเวอร์ตัน (6) พบ คริสตัล พาเลซ (14), นิวคาสเซิล (8) พบ สเปอร์ส (5), สโตค (13) พบ สวอนซี (10)