ไทยยันไม่พึ่งเจคนเดียว-เจ้าตัวรับอ่อนล้า

ภาพจากเฟซบุ๊ค บริษัท สปอร์ตฮีโร่ จำกัด ภาพจากเฟซบุ๊ค บริษัท สปอร์ตฮีโร่ จำกัด

"เมสซีเจ" ยอมรับร่างกายอ่อนล้า หลังกรำศึกหนักสมรภูมิแข้งต่อเนื่องทั้งทีมชาติและสโมสร ชี้ส่งผลถึงฟอร์มการเล่น แต่ยังพอใจช่วยทีมได้ ขณะที่ "โค้ชโชค" ระบุแม้ฟอร์มเด่น แต่ยังไม่ถึงจุดพีก เติมความคมพังประตูจะเป็นยอดนักเตะ พร้อมยืนยัน "ช้างศึก" ไม่ได้พึ่งเพียงคนเดียว แต่เล่นด้วยระบบทีม

"เมสซีเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะจาก "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งกำลังสำคัญทีมชาติไทย อย่างต่อเนื่อง


จนถึงล่าสุด ฟุตบอลปรี-โอลิมปิกเกมส์ หรือศึกอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก กลุ่ม G ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งหวดนัดสุดท้ายกับ เกาหลีเหนือ 31 มี.ค. กล่าวยอมรับว่า จากที่ตนกรำศึกติดต่อกัน ทำให้ร่างกายอ่อนล้าลงอย่างแน่นอน อย่างในฟุตบอลปรี-โอลิมปิก ความฟิตก็ไม่เต็มที่ เพียงแค่ 90 เปอร์เซ็นต์ และแน่นอนว่า เมื่อสภาพร่างกายไม่เต็มร้อย ย่อมส่งผลต่อฟอร์มการเล่นทั้งกับทีมชาติและสโมสร ที่ผ่านมาก็ยังโชคดีที่ยังรักษาผลงานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีได้ แม้จะทำประตูไม่บ่อยนัก แต่ยังสามารถสร้างสรรค์เกม จ่ายให้เพื่อนพังประตูได้ ก็ยังถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ เพื่อนๆก็ยังช่วยกันเล่นได้ดีด้วย ทำให้ภาระหนัก ไม่ได้อยู่ที่ตนเพียงคนเดียว

"ร่างกายคน ไม่ใช่หุ่นยนต์ ต้องมีบุบสลายบ้างเป็นธรรมดา ผมพยายามรักษาสภาพให้ดีที่สุด เมื่อว่างเว้นจากการซ้อม หรือภาระกิจสำคัญ จะพักผ่อนเยอะๆ ทานวิตามินซี หรืออาหารเสริม ให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว" เจ้าเจ กล่าว

ด้าน "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า แม้ ชนาธิป จะเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นของทีมชาติไทย

เป็นคนที่แฟนบอลอยากเห็นการเล่นที่ตื่นตาตื่นใจมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบการเล่นเกมรุกของทัพช้างศึก ไม่ได้หวังพึ่งนักเตะรายนี้เพียงคนเดียว เมสซีเจ คือสีสัน และเป็นกำลังส่วนหนึ่ง ทีมไทยมีระบบที่ชัดเจน คือเน้นการขึ้นเกมจากริมเส้น และจริงๆแล้วประตูที่ได้มาส่วนใหญ่มาจากการทำเกมริมเส้นด้วยซ้ำ

"ยอมรับว่า ชนาธิป เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีม และผมบอกได้เลยว่าแม้ตอนนี้จะเห็นโชว์ฟอร์มโดดเด่น ทว่าเขายังไม่ถึงจุดดีที่สุดของตัวเองด้วยซ้ำ ความสามารถการทำเกม การจ่ายให้เพื่อนดีอยู่แล้ว หากเติมความคมในการพังประตู เมสซีเจ จะเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น" โค้ชโชค แสดงความเห็น. 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์