แรบบิทดุสอย3-1,ราชนาวีเฮหวิว,ท่าเรือฯโนสกอร์,เมืองทองแซง3-1ขึ้นฝูง,พลังเอ็มบี้2-1ไทยลีก

เดอะ แรบบิท บางกอกกล๊าส คืนฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง เปิดบ้านทุบ มนุษย์ไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชักตาตั้ง 3-1 เก็บชัยนัดที่สองติดเพิ่มเป็น 39 คะแนนรั้งที่ 3 บี้จ่าฝูง เมืองทองฯ 2 แต้ม ฝั่ง ม้านิลมังกร ราชนาวี ระยอง สุดฮอตบด โลมามหาภัย พัทยาฯ 3-2 ซิวชัยสามนัดติด อีกคู่ การท่าเรือไทย ปืนฝืดได้แค่เจ๊า แบงค็อกฯ 0-0 ศึกไทยลีก 2009

การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เลกสอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา


บางกอกกล๊าส เอฟซี 3-1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 

ที่สนามเฉลิมพระเกียรติ คลอง 6 เดอะ แรบบิท บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับ 3 ของตาราง รับการมาเยือนของ มนุษย์ไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทีมอันดับ 8 เกมนี้เจ้าบ้านขาดกองกลาง พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ และกองหน้า อาจายี่ ซามูเอล โดยปรับมาใช้ ชาตรี ฉิมทะเล ลงเล่นคู่กับ โคเน่ คาสซิม ด้านไฟฟ้า มากันฟูลทีม นำทัพโดย ณรงค์ชัย วชิรบาล, ยุทธจักร ก้อนจันทร์ และ มีสุริยา ดอมไธสง เป็นหัวหอก คู่นี้เจอกันเลกแรก บางกอกกล๊าส บุกไปชนะมาได้ 2-1
 

เริ่มครึ่งแรก เกมทั้งสองทีมต่างเปิดเกมรุกเข้าไส่กันตั้งแต่ต้น โดยใช้การสาดบอลยาว ซึ่งยังไม่มีความแม่นยำ พอทำให้ช่วงแรกโอกาสสร้างความหวาดเสียวมีน้อยครั้ง น.11 บางกอกกล๊าส ได้เตะมุมทางขวา ศุภชัย คมศิลป์ เปิดยาวเสาสอง ชาตรี ฉิมทะเล ขึ้นโขกคนเดียวโล่งๆ อัมรินทร์ เยาว์ดำ ประตูไฟฟ้าปัดได้ปลายมือ
 

น.16 การไฟฟ้าฯ ทีมเยือนได้โอกาสจากฟรีคิกระยะ 25 หลาเยื้องไปทางซ้าย ณรงค์ชัย วชิรบาล บรรจงปั่นบอลเข้ากรอบ แต่เบาไป กฤษณะ กลั่นกลิ่น รับได้สบาย น.17 ยุทธจักร ก้อนจันทร์ ตัวตัดเกมของไฟฟ้าเข้าเสียบ ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ รับใบเหลืองคนแรกของเกม
 

น.20 เจ้าบ้าน บางกอกกล๊าส ได้ฟรีคิกบ้างหลังจากที่ อนาวิน จูจีน โดน ภานุพงศ์ วงศ์ษา เตะฟาวล์ แต่ ศุภศิลป์ คมศิลป์ ยิงลูกนี้ไปติดกำแพง น.24 การไฟฟ้าฯ เกือบได้ประตู จากการที่ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดบอลยาวจากกลางสนาม เฮนรี่ โจเอล กองหลังขึ้นมาโขกลงพื้นตั้งใจให้เสียบเสา แต่บอลออกข้างนิดเดียว
 

น.25 ภานุพงศ์ วงศ์ษา กองหลังจอมเตะของไฟฟ้าไปเสียบ อนาวิน จูจีน อย่างน่าเกลียด ไม่รอดใบเหลือง น.26 บางกอกกล๊าส เตะมุมทางซ้าย ธนัตถ์ เปิดได้สวย อำนาจ แก้วเขียว ขึ้นมาโขกบอลกดลงพื้นแล้ว ก็ยังไม่ผ่านมือ อัมรินทร์ เยาว์ดำ น.36 ทีมกระต่ายแก้ว ได้เตะมุมทางขวา ศุภชัย คมศิลป์ เปิดโด่ง โคเน่ คาสซิม ขึ้นโหม่งบอลแต่ไปชาร์จชน อัมรินทร์ เยาว์ดำ ทำให้โมโหจะลุกขึ้นมามีเรื่อง ต้องห้ามกันวุ่น ก่อนจะแยกย้ายกันออกไปได้
 

น.42 เจ้าบ้านมามีลุ้นในช่วงท้ายครึ่งแรกอีกครั้ง ศุภชัย คมศิลป์ เปิดฟรีคิกระยะ 30 หลา จะหยอดให้ อำนาจ แก้วเขียว ที่ขึ้นมาโขก แต่ไม่ถึง บอลหลุดไปเข้ามือ อัมรินทร์ เยาว์ดำ
 

น.44 โคเน่ คาสซิม ตัวปั้นเกมของทีม ได้บอลตรงสนาม ก่อนที่จะแทงไหลช่องให้กับ ชาตรี ฉิมทะเล ที่วิ่งอ้อมหลังไปทางขวา แล้วจัดการซัดเรียดแบบไม่มีจับ บอลพุ่งแรง โดยที่ อัมรินทร์ ล้มตัวจะคว้าแต่ไม่ทัน ลูกเข้าสู่ก้นตาข่ายให้ทีมบางกอกกล๊าส ออกนำ 1-0 หมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
 

ครึ่งหลัง เล่นยังไม่ถึง 30 วินาที ทีมเยือนการไฟฟ้าฯ ก็ตีเสมอได้แบบเหลือเชื่อ เมื่อ ศุภกิจ จินะใจ ได้บอลทางกราบซ้าย ตั้งใจจะเปิดบอลให้เพื่อน แต่บอลแรงหลุดเลยไปถึง กฤษณะ กลั่นกลิ่น ประตูของบางกอกกล๊าส ที่ตั้งใจจะคว้าบอล แต่กลับพลาดง่ายๆ บอลหลุดมือ เข้าประตูไปแบบไม่คาดคิด เกมมาเท่ากัน 1-1
 

น.48 รุ่งโรจน์ สว่างศรี ของบางกอกกล๊าส เข้าเสียบ ณรงค์ชัย วชิรบาล จากด้านหลังโดนเหลืองไปบ้าง น.51 เจ้าบ้านบุกได้ดี ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ ซัดตรงหัวกระโหลก ติดขากองหลังไปเข้าทาง โคเน่ ที่จ่ายออกขวาเร็วและ อนาวิน จูจีน เติมขึ้นมากดด้วยขวาบอลถากเสาสองออกหลังนิดเดียว
 

น.53 พลวัฒน์ วังฆะฮาด ของบางกอกกล๊าสไปใช้มือปัดโดนหน้าของ ธีราธร บุญมาทัน ไม่รอดใบเหลืองอีก น.59 เกมต่างเปิดแลกและเล่นเร็วทั้งคู่ จังหวะนี้ การไฟฟ้าฯ จะสวนเร็วที่ ศุภกิจ จินะใจ แต่โดน อนนท์ บุญสุโข เข้ากระแทกบอลผ่านไม่ให้คนผ่าน ทำให้โดนใบเหลืองอีกราย
 

น.68 ทีมเจ้าบ้าน น่าได้ประตูอย่างยิ่ง จากการที่ ศรันญ์ พรมแก้ว พักบอลให้กับ ธนัตถ์ วิ่งเข้าซัดระยะ 10 หลาเท่านั้น บอลติดตัว ภานุพงศ์ วงศ์ษา กระดอนมาเข้าทาง ชาตรี ฉิมทะเล ซัดด้วยซ้ายโล่งๆ กลับยิงออกข้าง ก่อนที่บางกอกกล๊าส จะเปลี่ยนตัวเอา นันทวัฒน์ แทนโสภา แทน ศรันย์ พรมแก้ว
 

น.70 เกมรุกของการไฟฟ้าฯ ก็ได้หวาดเสียวบ้าง เมนซ่า ที่ลงไปใหม่ ตักบอลจากขวา สุริยา ดอมไธสง โฉบเข้าโขกเช็ดที่เสาแรก บอลเปลี่ยนทางเฉี่ยวออกเสาสองไม่ถึงคืบ น.76 สุริยา ดอมไธสง กองหน้าของการไฟฟ้าฯ ลองส่องไกลดูบ้างไม่ตรงกรอบ
 

น.78 การไฟฟ้าฯ เริ่มกดดันเข้าไส่อย่างหนัก รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค เปิดจากซ้าย ภานุพงศ์ โขกเช็ดบอลผ่านประตู ไปถึง สุริยา ที่รออยู่เสาสองซัดซ้ำก็ติดขา ศุภชัย คมศิลป์ ออกหลัง น.86 การไฟฟ้าฯ ที่ครองเกมได้มากกว่าในช่วงหลังเปลี่ยนหน้าใหม่ส่งแข้งบราซิล โรดิเกวช ดาซิล ลงเล่นแทน ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์
 

น.87 เจ้าบ้านก็กลับมาเฮกันลั่นอีกครั้ง หลังเป็นฝ่ายตั้งรับมานาน เมื่อเปิดเกมสวนกลับทางซ้าย ศุถชัย คมศิลป์ ได้บอลแล้วเปิดเร็ว ชาตรี ฉิมทะเล จอมโขกของทีมขึ้นเบียดโหม่งบอลกับ ภานุพงศ์ บอลเช็ดโคนเสาเหลี่ยมในเข้าประตูไปอย่างสวยงามเป็น 2-1
 

น.89 บางกอกกล๊าส ได้ใจบุกต่อเนื่อง อนาวิน เปิดบอลจาขวา โคเน่ คาสซิม พุ่งโขก อัมรินทร์ ปัดปลายมือ นาทีต่อมา โคเน่ อีกครั้ง ที่ซัดลูกชุลมุนหน้าประตูเข้าไป แต่ผู้ตัดสิน อรรถกร เวชการ ไม่ให้เป็นสกอร์โดนมองว่าฟาวล์ก่อน น.92 ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น เมื่อ โคเน่ คาสซิม จะเล่นเกมช้าครองบอลตรงมุมธงด้านซ้าย โดน อภิเชษฐ์ พุฒตาล เข้าเสียบจากด้านหลัง อรรถกร เวชการ ควักใบแดงไล่ออกทันที
 

น.93 จากจังหวะฟาวล์ โคเน่ เล่นบอลเร็วให้ นันทวัฒน์ แทนโสภา หลุดเข้าไปซัดง่ายๆ เพราะกองหลังการไฟฟ้าฯ ไม่ตามประกบแล้ว เป็นประตูให้ทีมบางกอกกล๊าสนำ 3-1 และชนะไปด้วยสกอร์นี้
 

หลังเกมกองเชียร์ของการไฟฟ้าฯ กลับโห่ผู้ตัดสิน และด่าว่าโกงตัดสินไม่เป็นธรรม รวมกลุ่มรอประท้วงอยู่บ้านบน โดยบางส่วนขว้างปาขวดน้ำ และถุงพาสติกลลมาด้วย ทำให้ต้องเสียเวลาในการเคลียร์นับชั่วโมง โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและบรรดาแกนนำของกองเชียร์มาขอร้องให้แยกย้ายกันกลับ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น

 

วาทะโค้ช 

สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ กุนซือบางกอกกล๊าส - เป็นเกมที่เครียดมาก เพราะครึ่งหลังเราเสียประตูง่ายๆ แต่ก็ยังมั่นใจว่าไม่น่าจะเสียอีกเพราะ กฤษณะ ก็ไม่ได้หลุดสามารถควบคุมอารมณ์กลับมาได้ ตอนนั้นคิดว่า 1 แต้มก็พอใจแล้ว อย่าให้เสียอีก แต่มาได้ประตูนำ 2-1 ตอนนั้นมั่นใจว่าชนะแน่นอน 

ทองสุข สัมปหังสิต โค้ชใหญ่การไฟฟ้าฯ - ช่วงที่ตีเสมอ 1-1 ตอนนั้น เรากล้าที่จะเปิดเกมรุก เพราะโอกาสเรามีเยอะมาก แต่ทำไม่ได้เอง โดยผู้ตัดสินเขาไม่ผิดไม่อะไร เพียงแต่ช่วงท้ายเกมน่าทีจะพิจารณาให้ดี อารมณ์นักเตะมันก็ขึ้น ก็ไม่เป็นไร เรายังมีโอกาสอยู่เพราะเกมนี้เราเล่นดีมาก แต่โชคไม่มี

 

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม 

บางกอกกกล๊าส เอฟซี : กฤษณะ กลั่นกลิ่น 5.5, พลวัฒน์ วังฆะฮาด 6.5, อำนาจ แก้วเขียว 6, อนนท์ บุญสุโข 7, รุ่งโรจน์ สว่างศรี 6 (ทนงศักดิ์ ประจักกะตา5), ศรันย์ พรมแก้ว 6 (นันทวัฒน์ แทนโสภา5), อนาวิน จูจีน 7, ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ 7, ศุภชัย คมศิลป์ 7, ชาตรี ฉิมทะเล 8 (สุรเชษฐ์ งามทิพย์-),โคเน่ คาสซิม 7 

การไฟฟ้าฯ : อัมรินทร์ เยาว์ดำ 7.5, ธีราธร บุญมาทัน 6, ภานุพงศ์ วงศ์ษา 6.5, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค 7, สุริยา ดอมไธสง 6.5, ณรงค์ชัย วชิรบาล 6 (วิคเตอร์ เมนซ่าห์ 5), อภิเชษฐ์ พุฒตาล 5.5, เฮนรี่ โจเอล 6.5, ยุทธจักร ก้อนจันทร์ 6, ศุภกิจ จินะใจ 6 (อภิภู สุนทรพนาเวศ 5), ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ 6 (โรดิเกวช ดาซิลวา-)

 

แมนออฟเดอะแมตช์ : ชาตรี ฉิมทะเล ผู้ทำ 2 ประตูของบางกอกกล๊าส

ราชนาวีระยอง 3-2 พัทยา ยูไนเต็ด 

ที่สนามฟุตบอลกีฬากลาง จ.ระยอง เป็นเกมดาบี้แมตช์ภาคตะวันออก ม้านิลมังกร ราชนาวีระยอง เปิดรังต้อนรับการมาเยือน โลมาสีน้ำเงิน พัทยา ยูไนเต็ด นัดนี้เจ้าบ้านมี สุทธินันท์ นนที, สมเจตร สัตบุศ และ เจษฎา งามเมือง เป็นตัวหลัก ส่วนผู้มาเยือน พัทยา ยูไนเต็ด มี สันติ ไชยเผือก, อิทธิพล พูลทรัพย์ และ ทศพล การปลูก นำทัพ
 

เริ่มครึ่งแรก แค่สองนาที เจษฎา งามเมือง ก็มีโอกาสเติมขึ้นไปยิง แต่ยังโด่งหลุดกรอบออกไป จากนั้นทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันทันที แต่ก็ยังหาโอกาสเข้าทำไม่ได้ น.11 อิทธิพล ของทีมเยือนได้บอลหน้ากรอบ ก่อนตะบันเต็มข้อ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่เหินโด่งออกหลังไปแบบมีลุ้น น.16 อิทธิพล จ่ายทะลุไลน์ให้กับ แอนเดอสัน หลุดเข้าไปในกรอบ แต่จับบอลไม่ดี โดน ใหญ่ ตามมาจิ้มคืนให้ สิทธิพงษ์ เคลียร์ออกไปได้
 

ถัดมานาทีเดียวเยือนได้ลูกเตะมุม สันติ เปิดมากลางประตู ไพศาล ทะยานขึ้นโขกเต็มกบาล เป็นประตูขึ้นนำให้ พัทยา ยูไนเต็ด 1-0 เจ้าถิ่นโดนนำชักเป๋ ปล่อยให้พัทยา เซตบอลเข้าใส่ น.19 อมร เติมขึ้นไปฝั่งขวาก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่าน หลุดหน้ากรอบออกไปนิดเดียว
 

ราชนาวีโหมบุกหนักมากขึ้น น.25 มาได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะยิงไกลของ สุทธนันท์ แต่ยังเข้าซอง นริศ ทวีกุล แต่ น.30 แฟนบอลเจ้าบ้านก็มาเฮลั่นจนได้ เมื่อ ใหญ่ นิลวงศ์ ได้บอลจาก สุทธินันท์ ริมเส้นขวา ก่อนเปิดเข้ากลางประตู สมเจตร อยู่ถูกที่ถูกเวลา ล้มตัววอลเลย์เสียบตาข่ายสุดสวยเป็นสกอร์ 1-1
 

ถัดมาไม่ถึงนาที วิลเลี่ยม ไปหวด ใหญ่ รับใบเหลือเป็นใบแรกของเกม น.38 มงคล นามนวด ไปบล๊อกลูกยิงของ ติณภพ บริเวณหน้ากรอบ ทำให้เจ็บทั้งคู่ เกมต้องหยุดชั่วคราว ถัดมาเจ้าบ้านได้ลูกเตะมุม สุทธินันท์ เปิดให้ สมเจตร โหม่งหน้าประตู แต่ยังโด่งข้ามคานแบบมีลุ้น ก่อนที่ ราชนาวี จะถอด ติณภพ ที่เจ็บออกให้ วุฒิชัย อะสุชีวะ ลงแทน
 

น.43 พัทยา น่าขึ้นนำอีกหนเมื่อ อมร ธรรมนาม กระชากขึ้นทางฝั่งขวาก่อนเปิดไปหน้าประตู มาชาโด้ วิ่งซัดเล่นทางบอลหลุดเสาออกหลังแค่คืบ แต่นาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน ราชนาวี มาได้ฟรีคิกระยะ 20 หลา สุทธินันท์ ยิงเต็มข้อบนไปติดกำแพง แต่ยังปลิ้นมาเข้าทางปืน วุฒิชัย ที่ยืนโล่งๆ หน้าประตู ซัดเข้าไปไม่เหลือ ราชนาวีระ ขึ้นนำ 2-1
 

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อกองเชียร์ พัทยา ยูไนเต็ด ที่กำลังอารมณ์ร้อน พยายามตะโกนด่าทอผู้ตัดสิน ทำให้ สห. ที่ดูแลความปลอดภัย ต้องขึ้นมาห้าม ก่อนจะเกิดการปะทะกันระหว่างกองเชียร์ พัทยา กับ สห. ทำให้กองเชียร์ทั้งสอง ขว้างขวดใส่กันอุตลุต หวิดจะตะลุมบอนกัน แต่โชคยังดี ที่เจ้าหน้าที่ห้ามทัพไว้ได้ ทำให้เกมต้องหยุดไปกว่า 15 นาที ก่อนจะกลับมาเล่นใหม่ ทำให้ครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำ 2-1
 

ครึ่งหลังพัทยา เปลี่ยนเอา ประวิทย์ ประรัวันตา ลงแทน มงคล นามนวด และ พิชิต เกสโร แทน สันติ ไชยเผือก เริ่มเล่นได้แค่สองนาที ทศพล การปลูก กองหลังพัทยาไปปะทะกับ บรรลือศักดิ์ ยอดยิ่งยงค์ ลูกนี้ผู้ตัดสิน มงคลชัย เพชรศรี ควักใบแดงไล่ ทศพล ออกจากสนามทันที ทำให้นักเตะพัทยากรูเข้าไปถามด้วยความงงว่า แค่ปะทะกันธรรมดาทำไมถึงโดนแดง รวมทั้งสต๊าฟโค้ชของพัทยาลงไปเรียกนักบอลออกมาข้างสนาม ทำให้เกมหยุดไปอีก 10 นาทีเต็มๆ
 

น.51 กองเชียร์เจ้าบ้านก็มาเฮลั่นอีกครั้งเมื่อ เจษฎา ตั้งบอลไปหน้าประตู นริศ พยายามออกมาตัดแต่ไม่ดีบอลหลุดมือเข้าทาง วุฒิชัย ซ้ำเหน่งๆ ไม่เหลือสกอร์ขยับนำ 3-1 เมื่อเสียประตูพัทยาโหมหนักมากขึ้น น.54 แอนเดอสัน ได้บอลริมเส้นก่อนเปิดเข้ากลางให้ รังสันต์ รูปเหมาะ ยิงเข้าไปไล่มาเป็น 2-3
 

เกมยังสนุก แม้ว่าจะเหลือ 10 คน แต่พัทยาก็พยามเปิดเกมเข้าสู่ และก็ทำได้ดี แต่ก็ยังหาโอกาสที่จะทำประตูไม่ได้ เจ้าบ้านมาเน้นโต้เร็ว น.64 ใหญ่ เปิดจากซ้ายริมเส้นให้กับ วุฒิชัย ได้โหม่งโล่งๆ หน้าประตู แต่ยังไม่ผ่านมือ นริศ ที่พุ่งคว้าไว้ได้ทัน
 

น.67 พัทยา ถอนเอา อมร จันทร์นาม ออกให้ เปรมวุฒิ วงษ์ดี ลงแทน ขณะที่ ราชนาวีให้ ดนุสรณ์ แสงพันธ์ ลงแทน ภานุวัฒน์ กองจันทร์ เกมยังสนุก โดยพัทยายังโหมใส่ต่อเนื่อง แม้ว่าคนจะน้อยกว่าก็ตาม ส่วนราชนาวี ก็เน้นรับแน่นแล้วโต้เร็วก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็น
 

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กองเชียร์พัทยาต้องเฮเก้อเมื่อ เปรมวุฒิ เปิดจากด้านข้างให้ รังสรรค์ โหม่งเข้าประตู แต่ลูกนี้ผู้ตัดสินยกเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน จากนั้นพัทยายังบุกหนัก น.93 แอนเดอสัน ได้ยิงในเขต แต่ก็ยังติดกองหลังเจ้าบ้าน ถัดมาพัทยา ได้ฟรีคิกระยะ 40 หลา วิลเลี่ยม โยนเข้ามาหน้าประตู แต่ก็ยังโดนกองหลังเจ้าบ้านเคลียร์ได้ ทำให้จบเกม ราชนาวีระยอง เอาชนะไปได้อย่างสนุก 3-2 คว้าสามแต้มทองสำเร็จ
 

นอกจากนั้น ดนัย มงคลศิริ ผู้ควบคุมการแข่งขันได้กล่าวว่า สำหรับเกมนี้ ผมจะเขียนรายงานไปยังบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการปะทะ ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเกิดจากการยั่วยุ จนทำให้เกิดการปะทะ ระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกองเชียร์พัทยา อย่างไรเรื่องนี้คงจะพิจารณาลงโทษทั้งสองฝ่ายด้วย โดยเฉพาะการขว้างขวดที่เกิดขึ้นในเกมนี้
 

อนึ่ง บิ๊กเปี๊ยก องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯ สมาคมฟุตบอลไทย ได้กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาอีกครั้งว่า ใครผิด ซึ่งหากกองเชียร์พัทยาผิด ก็อาจจะห้ามเข้าไปเชียร์ในสนาม แต่ก็ต้องดูกันอีกที

 

วาทะโค้ช 

เอกรัตน์ ทรัพย์สิน ของราชนาวี - เป็นเกมที่สนุกสูสีกันมากวันนี้ แต่นักเตะเราวันนี้เล่นได้ตามเกมที่วางไว้ ทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ส่วนเรื่องของกองเชียร์ไม่มีผลอะไร เพราะฟุตบอลเล่นในสนามกับกองเชียร์คนละส่วน แต่ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะทุกคนก็คนไทยด้วยกัน 

จเด็ด มีลาภ ของพัทยา ยูไนเต็ด - ไม่เป็นไรครับเกมนี้ เราพยายามเต็มที่แล้ว นักเตะสู้จนสุดความสามารถ ตนไม่คิดว่าจะมาโดนทำร้ายจากปัจจัยอื่นๆ แบบนี้ผู้ตัดสินพลาดมากในวันนี้ ไม่ได้มาตรฐานทำให้เกมที่สวนงามของฟุตบอลหายไป อยากฝากถึงบริษัทไทยพรีเมียร์ ช่วยพัฒนาตรงนี้ด้วยครับ

 

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม 

ราชนาวีระยอง : สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน 7, ศรายุทธ เขียวแพร 6, สุระเดช เสาไธสง 7, ใหญ่ นิลวงษ์ 7 (ก้องศักดิ์ แสนทวีสุข-), สมเจตร สัตบุศ 7.5, สุทธินันท์ นนที 7, ภานุวัฒน์ กองจันทร์ 7, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 7, ติณภพ ศรีสถิตย์ 6 (วุฒิชัย อะสุชีวะ 7),เจษฎา งามเมือง 7, บรรลือศักดิ์ ยอดยิ่งยงค์ 7 

พัทยา ยูไนเต็ด : นริศ ทวีกุล 6, สมภพ นิลวงษ์ 6, อิทธิพล พูลทรัพย์ 6.5, สันติ ไชยเผือก 6 (พิชิต เกสโร6),ไพศาล โพธิ์นา 6.5, แอนเดอสัน มาชาโด้ 6.5, รังสรรค์ รูปเหมาะ 6.5, มงคล นามนวด 6 (ประวิทย์ ประริวันตา 5.5), ทศพล การปลูก 6, อมร ธรรมนาม 6 (เปรมวุฒิ วงษ์ดี5.5), วิลเลี่ยม เมนโดซ่า 6

 

แมนออฟเดอะแมตช์ : สมเจตร์ สัตบุศ ผู้เล่นของราชนาวีระยอง

การท่าเรือไทย เอฟซี 0-0 แบงค็อก ยูไนเต็ด 

ที่สนามแพท สเตเดี้ยม สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือไทย ทีมอันดับ 5 เปิดรังพบกับ แข้งเทพ แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 9 คู่นี้เลกแรก เสมอกันมา 2-2 โดยการท่าเรือฯ ให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา ยืนหัวหอกกับ ปิติพงษ์ กุลดิลก ขณะที่ แบงค็อก มี ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ กับวีระ เกิดพุดซา เป็นตัวหลัก
 

เริ่มครึ่งแรกแค่ 3 นาที แบงค็อก ได้ลุ้นก่อน เมื่อ นพพล ผลอุดม ไหลจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ กิตติศักดิ์ ศิริวแว่น กดด้วยซ้ายตรงกลางประตูกรอบเขตโทษ ยังดีที่ มูเซ่ อูริช ปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด ทำให้เจ้าบ้านรอดการเสียประตูได้หวุดหวิด
 

จากนั้นยังเป็น แบงค็อกฯ ที่ทำเกมได้ดีกว่านิดๆ น.11 นพพล ผลอุดม ทำชิ่งกับไกรสร ปั้นเจริญ ก่อนนพพล รอบอลตกพื้นหนึ่งจังหวะแล้ววอลเล่ย์ ด้วยซ้ายตรงกรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนเสาสองแบบมีลุ้นเลยทีเดียว น.23 เป็นจังหวะของท่าเรือฯ บ้าง เมื่อ เคย์ ลังกาวงศ์ ขยับเติมมาทางด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ามาให้ ปิติพงษ์ กุลดิลก โหม่งแต่ยังดีที่ วีระ เกิดพุดซา ทุบเคลียร์ออกมาจากกรอบได้
 

เกมทั้งคู่ค่อนข้างจะเสียบอลกันง่ายตรงกลางสนาม น.33 แบงค็อก ขยับเปลี่ยนตัวคนแรกหลังจากที่ ประเสริฐ หาดเจียง หัวหอกได้รับบาดเจ็บ แล้วส่ง ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ลงสนามแทน ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกทั้งคู่ทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0
 

ครึ่งหลัง น.51 ท่าเรือไทย เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษกลางประตู จีระวัฒน์ มัครมย์ ซัดแต่วีระ เกิดพุดซา พุ่งปัดออกหลังไปได้ จากนั้นอีก 2 นาที เป็น แบงค็อกฯ ที่ได้ลุ้นสุดๆ เมื่อ นพพล ผลอุดม กระชากบอลหนีกองหลังการท่าเรือฯ ถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนหักมาให้ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว แปรแค่ 6 หลาบอลชนคานอย่างน่าเสียดาย
 

น.62 แบงค็อก ยูไนเต็ด ลุ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อ กิตติศักดิ์ ศิริแว่น แทงบอลให้ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ดีดบอลข้ามหัว อูริช แต่บอลตกหลังตาข่าย พลาดโอกาสได้ประตู น.66 เคย์ ลังกาวงศ์ เปิดบอลจากด้านซ้าย ไปที่เสาสองให้ เอกชัย สำเร โหม่งเต็มหัวบอลออกเสาแรกแบบมีลุ้น
 

น.70 แบงค็อกฯ น่าได้ประตูอีกจากจังหวะที่ นพผล ผลอุดม ทำชิ่งกับ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ก่อนเป็นนพผล กดด้วยขวา ยังดีที่ อูริช ผุ้รักษาประตูท่าเรือฯ พุ่งปัดออกหลังไปได้ น.83 มาริโอ ดาซิลวา เปิดบอลยาวให้ ปิติพงษ์ กุลดิลก หลุดเดียว แต่เจ้าตัวดันพลาดง่ายๆ ดีดบอลหวังให้ข้ามหัว วีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตู แบงค็อก แต่เบาทำให้เข้ามือ วีระ สบาย
 

น.89 ไกรสร ปั้นเจริญ เลี้ยงบอลตัดจากริมเส้นด้านขวาแล้ว แทงบอลทะลุช่องให้ นพผล ผลอุดม หลุดกับดักล้ำหน้า เจ้าตัวควบไปดวลกับ อูริช แต่กลับแปรติดตัว ก่อนอูริช จะตามมาตะครุบไว้ได้ หมดเวลา แบงค็อก ยูไนเต็ด บุกมาเสมอกับการท่าเรือฯ 0-0

 

วาทะโค้ช 

สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่การท่าเรือฯ - เกมเราบุกเยอะ แต่ไม่สามารถยิงได้กันเอง อีกอย่างบางจังหวะเด็กก็เสียสมาธิในบางจังหวะด้วย แต่ไม่เป็นไรเกมฟุตบอลก็เป็นแบบนี้แหละ 

สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ผู้ฝึกสอน แบงค็อก ยูไนเต็ด - โอกาสเราเยอะมาก แต่ว่ายิงกันไม่ได้เอง อีกอย่างเกมนี้นักเตะเจ็บด้วยแบนด้วย จนต้องเอากองหน้ามาเล่นกองหลัง เกมที่เหลือคงต้องเน้นทำผลงานให้ดีที่สุด

 

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม 

การท่าเรือไทย เอฟซี : มูเซ่ อูริช 7.5, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 6.5, เคย์ ลังกาวงษ์ 6.5 (เจษฎา ภู่เล็ก 5.5), ปิติพงษ์ กุลดิลก 5.5, พิพัฒน์ ต้นกันยา 7, จีระวัฒน์ มัครมย์ 6.5, มาริโอ ดาซิลวา 7, กิตติศักดิ์  ธนสุวรรณ 5.5 (ธีระวุฒิ สัมพันธ์ 5.5 ), อารีฟ เปาะจิ 6, เอกชัย สำเร 6, สวา มอยซี่ 7 

แบงค็อก ยูไนเต็ด : วีระ เกิดพุดซา 7, ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ 7, วิทยา หมัดหลำ 5.5, ปรีชา ชาวกล้า 6.5 (คมกริช คำโสกเชือก 6), กิตติศักดิ์ ศิริแว่น 7, ไกรสร ปั้นเจริญ 6.5, ทรงศักดิ์ เฮมเขียว 6.5, นพพล ผลอุดม 6.5, พลวัฒน์ ปิ่นกอง 6.5, โฟฟานา อาบิบ 7, ประเสริฐ หาดเจียง 5 (ศุภเสกข์ ไก่แก้ว7)

 

แมนออฟเดอะแมตช์ : กิตติศักดิ์ ศิริแว่น ของแบงค็อก ยูไนเต็ด

กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ผงาดยึดบัลลังก์จ่าฝูงเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ศึกไทยลีก 2009 หลังเปิดบ้านยิงแซง นักสู้เจดีย์ใหญ่ นครปฐม เอฟซี ทีมหนีตกชั้นสนุก 3-1 สองสตาร์ผิวสีฟอร์มฮอต ซูมาโฮโร ยาย่า ซัดเบิ้ล, ดันโก้ ไซก้า บวกอีกเม็ด

การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เลกสอง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา
  

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 3-1 นครปฐม เอฟซี 

ที่สนามธันเดอร์โดม ทีมรองจ่าฝูง กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของพลพรรค หมูป่าเขี้ยวตัน นครปฐม เอฟซี ทีมอันดับ 14 ของตาราง โดยการพบกันเลกแรกในบ้านของ นครปฐม ทั้งคู่เสมอกัน 1-1
 

เกมนี้เจ้าถิ่นหวังสามแต้มเพื่อแซง ชลบุรี เอฟซี นำจ่าฝูง จัดทัพใหญ่นำโดย กวิน ธรรมสัจานันท์ นายทวาร, เจษฎา จิตสวัสดิ์, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ ดานโก้ เซียก้า โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา กับ เซาเมาโฮโร่  ยาย่า ยืนคู่หัวหอกทะลวงเป้า
 

ด้าน หมูป่าเขี้ยวตัน นครปฐม เอฟซี มี ประหยัด บุญญา เป็นกัปตันทีม ลงคุมเกมพร้อมกับ ภาณุพงศ์ อารัมภ์วิโรจน์, อภิศักดิ์ คงอ่อน และกองหน้า วิมล จันทร์คำ ยังคงได้รับความไว้วางใจ ให้ลงคู่กับสตาร์ดวงใหม่ สิงขร มังคุด ล่าตาข่าย
 

เริ่มครึ่งแรก นครปฐม บุกแหลกแบบไม่เกรงศักดิ์ศรีเจ้าถิ่น มีโอกาสสร้างความหวาดเสียวให้กับ เจ้าบ้าน เมื่อ สิงขร มังคุด แหวกกองหลังเข้าไปสับไกยิง แต่เบาไป กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวารเมืองทองฯ รับสบาย
 

น.5  เมืองทองฯ ทำเกมโต้กลับเร็ว เป็น พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ที่เติมขึ้นไปซัดเต็มเหนี่ยว ตรงหัวกะโหลก บอลเบียดเสาสองออกไปหวุดหวิด จังหวะถัดมากองหลัง นครปฐม เคลียร์ไม่ขาด เซาเมาโฮโร่  ยาย่า กับ ดานโก้  เซียก้า โฉบเข้าไปหมายจะยิงแต่ วัฒนพงษ์ ตาบุตรดา นายทวาร หมูป่า ยังนิ่งปิดมุมสังหารมิด
 

น. 12 วิมล จันทร์คำ หัวหอกทีมเยือน พาบอลหนีตัวประกบ ก่อนจะลองซัดตูมเดียวระยะเกือบ 20 หลา บอลพุงแรง จะมุดสามเหลี่ยมเสาแรก แต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ยังไวบินปัดออกไปหวุดหวิด น. 18 ขุนพล กินเลนผยอง มีเสียวสุดๆ อีกครั้ง จากจังหวะที่ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ลองกดเต็มข้อระยะกว่า 30 หลา บอลเหินเฉียดคานบนออกไปแบบได้ลุ้น
 

น. 27 หายนะ เกือบมาเยือน เมืองทอง ฯ เมื่อ สิงขร มังคุด วางบอลจากทางริมเส้นด้านซ้าย เข้าเสาสองให้ บิรอนเซ่ เติมขึ้นมาโหม่ง บริเวณจุดนัดพบเสาสอง แบบเต็มกบาล กวิน ธรรมสัจจานันท์ ออกมาตัดบอลพลาด แต่จังหวะที่บอลจะทะลุตาข่าย ยังมี เจษฎา จิตสวัสดิ์ ที่ลงมาซ้อนพร้อมกับล้มตัวสกัดออกไป แบบเส้นยาแดงฝ่าแปด
 

น. 32 กิเลนผยอง มีลุ้นได้ประตูเช่นกัน จากจังหวะที่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนจะลองส่องไกลยิงในระยะ 20 หลา บอลพุ่งแรงฝ่าแนวรับ ของ นครปฐม เอฟซี แต่ วัฒนพงษ์ ตาบุตรดา ยังนิ่งตะบบเอาไว้ได้
 

น. 36 นักเตะเมืองทองฯ ยังได้บุกเป็นชุดๆ ดานโก้ เซียก้า แทงบอลทะลุช่องให้ ปกาศิต แสนสุข เบิ้ลต่อให้ ดานโก้ ที่หนีตัวประกบเอาบอลลงนิ่มๆ ลากเข้าไปดวลกับนายทวารนครปฐม แต่ไม่มีมุมยิงโดนบล็อกออกไปอีกครั้ง
 

ช่วงท้ายเกม น. 44 แดนกลางของ เมืองทองฯ พลาดหลายจังหวะปล่อย นักเตะนครปฐม ทำเกมกันง่าย จากการกระชากลากเลื้อยของ วุฒิศักดิ์ มณีสุข ก่อนที่จะบอลขบวนสุดท้าย จะมาอยู่ที่การครอบครองของ ภานุวัฒ ยิ้มสง่า ลากขึ้นไปกดตรงหัวกะโหลก ไม่เหลือซาก ให้ นครปฐม เอฟซี ขึ้นนำ 1-0 จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
 

ครึ่งหลังกองทัพ กิเลนผยอง กรีฑาทัพบุกเข้าไปรัวชุดใหญ่ หลังนักเตะทีมเยือนมารับลึกอยู่ในแดนตัวเอง แน่นขนัด แต่ก็มีโอกาสได้ประตูตีเสมอเช่นกันจากจังหวะที่ เซาเมาโฮโร่ ยาย่า ลากบอลหลอกกองหลังของ นครปฐม เข้าไปยิงแต่เบาไป วัฒนพงษ์ ตาบุตรดา เซฟเอาไว้ได้อีกครั้ง
 

น. 57 แฟนเจ้าถิ่นได้กรี๊ดกันสนามแทบแตก เมื่อขุนพล นักเตะเมืองทอง ฯ ทำเกมอยู่หน้าปากประตูของ ทีมเยือน ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ดานโก้ เซียก้า จะอาศัยความแข็งแกร่ง เบียดเข้าไปกดเต็มเหนี่ยว เปลี่ยนสกอร์ให้ กิเลนผยอง ไล่ตีเสมอ 1-1 ท่ามกลางการยืนประท้วงของ นักเตะนครปฐม ที่เห็นว่าน่าจะเป็นจังหวะล้ำหน้า แต่ไม่มีอะไรบานปลาย
 

หลังโดนตีเจ๊า แข้งทีมเยือนหันมาบุกใส่บ้าง แต่ก็ไม่อาจจะฝ่าแนวรับของ เมืองทองฯ เข้าไปยิงได้ พร้อมกันนั้นยังจะมาโดน เล่นงานโดย ปกาศิต แสนสุข กองหลังเจ้าถิ่นที่ลักไก่ ยิงไกลกว่า 25 หลา แต่เสียหลักล้ม ก่อนจะได้ยิงบอลพุงเข้าซอง นายทวารนครปฐม
 

น. 80 ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ได้โหม่งชงต่อให้ เซาเมาโฮโร่ ยาย่า กลับตัวงัดบอลยิงโด่งตามน้ำ ก่อนที่บอลจะลอยเข้าประตูเหลือเชื่อให้ เมืองทองฯ พลิกแซงขึ้นนำ 2-1
 

น. 81 ทีมเยือนต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ วุฒิศักดิ์ มณีสุข กองหลังของ นครปฐม วิ่งเข้าไปชน วิศรุต พันนาสี ที่กำลังครองบอลนอกรอบเขตโทษ ทำให้ บดินทร์ บุญด้วยลาน ผู้ตัดสินในเกมนี้ ไม่ฟังเสียงนกเสียกาทัก จัดใบแดงไล่ออกไป
 

น. 87 หมูป่าเขี้ยวตัน นครปฐม มาโดนสำเร็จโทษอีกครั้ง จากจังหวะ ลองตะบันไกลในระยะกว่า 25 หลา ของ ยาย่า บอลพุ่งย้อยเสียบตาข่ายให้ ทัพเมืองทองฯ ทิ้งห่าง 3-1 ก่อนจบเกม ทำให้ เมืองทองฯ เอาชนะไปด้วยสกอร์นี้ เก็บเพิ่มอีก 3 แต้มเป็น 41 แต้มแซง ชลบุรี เอฟซี ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงทันที

 

วาทะโค้ช 

อรรถพล บุษปาคม กุนซือ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด - ต้องขอชมนครปฐม ด้วยที่วางแผนการเล่นได้รัดกุม โดยเฉพาะครึ่งแรก เกมรุกเราทำอะไรเขาไม่ได้เลย แต่พอมาปรับแทคติกใหม่ในครึ่งหลัง ประกอบกับเขาตั้งใจมารับเต็มตัวทำให้เราเจาะตาข่ายเขาได้ง่ายขึ้น ยอมรับว่ากดดันพอสมควรในการเป็นจ่าฝูง และต้องพยายามทำแต้มทิ้งห่างไปไกลอีกเยอะ 

สถิตย์ ทวีนุช กุนซือนครปฐม เอฟซี - ทีมเราแพ้ไม่เสียใจเลย แต่ที่เสียใจยิ่งกว่า ก็คือการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ที่บอกได้คำเดียวว่าห่วยแตกเอามากๆ นครปฐม ของเราเป็นทีมเล็กๆ ถูกรังแกด้วยการตัดสินผิดพลาดมาตลอด จังหวะที่นักเตะเราโดนใบแดง ผมเห็นว่ามันไม่สมควรที่จะได้เลย ยอมรับว่าเบื่อโดนมากๆ เห็นทีต้องถอดทีมประจานการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเสียที

 

คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม  

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6.5, ปกาศิต แสนสุข 6, เจษฎา จิตสวัสดิ์ 6.5, ณัฐพร พันธ์ฤทธิ์ 6, ซิลล่า มูซ่า 6, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 6, ปิยชาติ ถามะพันธ์ 6.5, ดานโก้  เซียก้า 6(โคเน่ อดัม 5), เซาเมาโฮโร่ ยาย่า 7 (หัตฐพร สุวรรณ-), ธีรศิลป์  ชแดงดา 6, ธีรเทพ วิโนทัย 5.5 (วิศรุต พันสาสี -) 

นครปฐม  เอฟซี : วัฒนพงษ์ ตาบุตรดา 5, ประหยัด บุญญา 5.5, อเบค บิรอนเซ่ 6, วุฒิศักดิ์ มณีสุข 6, พานุวัฒ ยิ้มสง่า 6 (ครรชิต ปทุมสูตร -), วิมล จันทร์คำ 6, อดิศร ศรีเรือง 5.5, อภิศักดิ์ คำอ่อน 5, สิงขร มังคุด 6 (ปริญญา อู่ตะเภา- ), จารุพงษ์ สังข์พงษ์ 6, ภาณุพงศ์ อารัมภ์วิโรจน์ 6

 

แมนออฟเดอะแมตซ์ : เซาเมาโฮโร่ ยาย่า หัวหอกตัวเก่งของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด

โอสถสภา เอ็ม-150 2-1 สมุทรสงคราม เอฟซี 

ที่สนามธนารมณ์ พลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม 150 เปิดบ้านรับมือ ปลาทูคะนอง สมุทรสงคราม เอฟซี โดยพลังเอ็มที่ระยะหลังกลายเป็นจอมคัมแบ็คไปแล้ว จาก 2 เกมล่าสุดโดนคู่แข่งนำก่อน แต่ยังพลิกกลับมาชนะได้หมด ส่วน ปลาทูคะนอง สถานการณ์ไม่ค่อยดีแพ้รวดมา 2 นัดแถมพังประตูคู่แข่งไม่ได้เลย
 

เกมนี้กุนซือเจ้าของฉายา ขงเบ้ง อาจหาญ ทรงงามทรัพย์ ของเจ้าบ้าน ตัดสินใจใส่ชื่อศูนย์หน้าซุปเปอร์ซับที่ลงมายิงประตู 3 ประตูใน 2 นัดหลังสุดอย่าง ปฏิพณ เพชรวิเศษ เป็น 11 คนแรก โดยจะยืนค้ำในแดนหน้าคู่กับ ศรายุทธ ชัยคำดี และให้ อีวาน เมนซาห์ ถอยมาเล่นริมเส้น ส่วนคัพฟ้า บุญมาตุ่น คุมแดนกลางเหมือนเดิม ส่วนสมุทรสงคราม วันนี้ใช้ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย และวิทยา นนทะลี เป็นคู่หัวหอก โดยมี ทรงวุฒิ บัวเพ็ชร กัปตันทีม และ พัชรินทร์ สุขใส คอยเชื่อมเกม
 

เริ่มเกมมา น.3 กองเชียร์เจ้าบ้านได้เฮกันลั่น อีวานส์ เมนซาห์ ได้จังหวะเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาให้ คัพฟ้า บุญมาตุ่น ที่เติมขึ้นมาจากตรงกลาง จับบอลจังหวะแรกไม่มีใครประกบ ก่อนจะตะบันแสกหน้า ทศพร เข้าไปตุงตาข่ายพลังเอ็มขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0  จากนั้นแค่ 3 นาทีทีมเยือนต้องเปลี่ยนเอา จิรวัฒน์ แก้วโบราณลงมาแทน ชุมพล บัวงาม ที่เจ็บจากการปะทะจนหัวแตกเล่นต่อไม่ไหว
 

น.13 ใบเหลืองแรกของเกม ตกเป็นของเจ้าบ้าน จากจังหวะที่ โกสวัต ว่องไวลิขิต ไปตัดฟาวว์หน้ากรอบเขตโทษ จากนั้นแค่นาทีเดียวเจ้าบ้านเกือบจะเสียประตูได้ จากจังหวะผิดพลาดของ ฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารออกมาตัดบอลหน้าเขตโทษไปเข้าทาง จิรวัฒน์ แต่ยังดีที่กองหลังยังลงมาช่วยกันสกัดออกไปได้
 

น.23 ทีมเยือนมาตีเสมอจนได้จากจังหวะที่ วิทยา นนทะลี ได้บอลหลุดเดี่ยวไปทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะผ่านเข้ากลางมาที่จุดนัดพบ และเป็น จิรวัฒน์ แก้วโบราณ เติมมาเข้าฮอตง่ายๆ สมุทรสงคราม ตามมาเป็น 1-1
 

น.30 เจ้าบ้านทำเกมกันขึ้นมาบ้าง อีวานส์ เมนซาห์ได้บอลทางข