เอเอฟซีเยือนไทยดีเดย์ตรวจ 1 ต.ค.รอลุ้นกับสิงคโปร์ 25 พ.ย.นี้รู้ผล

เอเอฟซีเยือนไทยดีเดย์ตรวจ 1 ต.ค.รอลุ้นกับสิงคโปร์ 25 พ.ย.นี้รู้ผล

เอเอฟซี เตรียมเดินทางมาประเมินไทยลีกในวันที่ 1-9 ต.ค.นี้ ประเดิม บุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมแรก ดร.วิชิต เชื่อลึกๆ ไทยผ่านเกณฑ์ กว่า 60 เปอร์เซนต์ แม้ยังต้องปรับอีกหลายจุด ฟาก มร.โจ คนไทยประจำเอเอฟซี เผยเวลานี้เหลือทีมที่ผ่านเกณฑ์แค่ไทยกับสิงคโปร์เท่านั้น

การประชุมฟุตบอลลีกอาชีพอาชีพของไทย “สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2010” เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 24 ส.ค.53 ณ โรงแรมเรดิสันพระราม 9 ที่ประชุมนำโดย บังยี นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย บิ๊กเปี๊ยก นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ นายธารา พฤกษ์ชะอุ่ม ผู้ช่วยเลขาธิการฯ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก นายพาทิศ สุภะพงษ์ เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) พร้อมด้วยตัวแทนทั้ง 16 สโมสรของไทยพรีเมียร์ลีก

สาระสำคัญของการประชุมนั้น เน้นในเรื่องของการชี้แจงข้อมูลให้ทั้ง 16 สโมสรในไทยพรีเมียรืลีกได้รับทราบถึงกฏเกณฑ์การประเมินลีกไทยของเอเอฟซี ที่จะเดินทางมาประเมินในช่วงเดือน ต.ค.นี้ ว่าทีมจากไทยจะสามารถผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบอัตโนมัติหรือไม่

“บังยี” ชี้หลายสิ่งยังต้องปรับแต่หยอดปีนี้ดีกว่าเดิม
“บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้กล่าวในช่วงต้นของการประชุมว่า “การประชุมในวันนี้เพื่อเป็นรการให้ข้อมูลกับทุกทีมเพื่อนำไปปรับใช้รองรับการประเมินของเอเอฟซี เราต้องแสดงให้เห็นว่าลีกของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ถึงแม้ว่าบางสิ่งอาจยังมีปัญหาหรือว่ายังไม่สมบูรณ์ สมาคมฯ และ บ.ไทยพรีเมียรืลีกก็มีหน้าที่ดูแลและให้ข้อมูลต่างๆ แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมายอมรับว่ามีการพัฒนาขึ้นกว่าดิมอย่างเห้นได้ชัด”

เตรียมเดินสายเยี่ยม 16 ทีมไทยลีกด้วย
“บังยี” ได้กล่าวต่อว่า “เมื่อ เอเอฟซี มาตรวจแล้วทุกทีมต้องมีสิ่งนำเสนออย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่ตั้งของออฟฟิศ, การตลาด, บัญชีงบดุล สิ่งนี้คือเบื้องต้นการเป็นลีกฟุตบอลอาชีพ และการจัดตั้งบริษัทต้องมีบัญชีที่ชัดเจน ว่ารายรับรายจ่ายมีอะไรบ้าง แม้แต่เงินที่สนับสนุนจากองค์กรภาครัฐต้องมีบัญชีที่ชัดเจนด้วย โดยตนได้ปรึกษาหารือกับ ดร.วิชิต ว่าจะเดินทางไปเยี่ยมแต่ละสโมสรว่าแต่ละทีมเป็นอย่างไรบ้างมีจุดไหนต้องปรับปรุงในเวลาที่เหลืออยู่”

ดีเดย์เอเอฟซีประเมิน 1 ต.ค.บุรีรัมย์เปิดซิงประเดิม
ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เปิดเผยถึงการเดินทางมาประเมินไทยพรีเมียร์ลีกของเจ้าหน้าที่เอเอฟซี ว่า ทางคณะเอเอฟซี จะเดินทางมาถึงไทยในคืนวันที่ 30 ก.ย. หลังจากนั้นจะเริ่มเดินสายตรวจแต่ละทีมโดยเริ่มจากวันที่ 1 ต.ค.เยี่ยมชมออฟฟิศของ บุรีรัมย์ พีอีเอ ในช่วงเช้าก่อนที่ช่วงบ่ายไปตรวจ บางกอกกล๊าส เอฟซี ต่อด้วยวันที่ 2 ต.ค. ช่วงเช้า ทีโอที แคท เอฟซี ช่วงบ่าย เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด หลังจากนั้นเวลา 18.00 น. ไปชมเกมที่สนามยามาฮ่า สเตเดกี้ยม ระหว่าง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พบ ทหารบก 3 ต.ค.ไปตรวจทีม บุรีรัมย์ พีอีเอ ช่วงเย็นชมเกม บุรีรัมย์ พีอีเอ พบ ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร วันที่ 4 ต.ค.ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ถัดมาวันที่ 5 ต.ค.เริ่มจากแบงค็อก ยูไนเต็ด และ ทหารบก ปิดท้ายด้วย อินทรี เพื่อนตำรวจ

6 ต.ค.ช่วงเช้า ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร บ่าย โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 7 ต.ค. เช้า เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี บ่าย การท่าเรือไทย เอฟซี 8 ต.ค.เช้า บีอีซี เทโรศาสน บ่าย ชลบุรี เอฟซี และปิดท้ายที่ 9 ต.ค.เช้า ราชนาวี ระยอง บ่าย พัทยา ยูไนเต็ด จากนั้นในช่วงเย็นจะมีการเลี้ยงส่ง และจะทำการเซ็นเอ็มโอยูด้วย และคณะกรรมการจะเดินทางกลับในวันที่ 10 ต.ค.ต่อไป

หลายจุดยังน่าห่วงแต่ลึกๆ มั่นใจผ่านเกณฑ์ประเมินประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ยังกล่าวเพิ่มเติ่มว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการประเมินคือเรื่องโค้ชของแต่ละทีมต้องเป็น เอ ไลเซนส์ หากทีมใดโค้ชไม่มี เอ ไลเซนส์ ต้องแต่งตั้งที่มีคุณสมบัติแทนไปก่อน อีกเรื่องคือ สนามบางสนามยังมีมาตรฐานไม่ได้ระดับเกรดเอ เราคงต้องทำแบบพอเพียงไปก่อน เรื่องสัญญาผู้เล่นต้องชัดเจน การตลาด บัญชีรารับรายจ่าย แต่ลึกๆ ตนเองยังมั่นใจว่า กว่า 60 เปอร์เซนต์ไทยลีกน่าจะผ่านการประเมิน หากไม่ผ่านก็ต้องรอไปอีกสามปี

เปี๊ยกชูไทยลีกศักยภาพถึงแชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว
“บิ๊กเปี๊ยก” นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า “เวลานี้ทีมจากไทยลีกศักยภาพถึงเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก แล้ว หากผ่านการประเมินทีมจะได้ผลประโยชน์มหาศาลตอบแทนกลับมา ดังนั้นทุกทีมต้องร่วมมมือกันเพื่อให้ผ่านเกณฑ์การประเมินให้ได้”

เหลือไทยลุ้นกับลีกลอดช่อง 25 พ.ย. ผลสอบออก
นายพาทิศ ศุภพงษ์ คนไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ เอเอฟซี ซึ่งเดินทางมาให้ข้อมูลความรู้กับ 16 สโมสรจากไทยลีก ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการที่ไทยลีกจะผ่านเกณฑ์ประเมินของเอเอฟซีว่า “เมื่อสองปีก่อนไทยลีกได้คะแนน 213 แต้ม จาก 500 เป้นอันดับที่ 13 จาก 21 ลีก ซึ่งคะแนนที่ได้ต่ำสุดคือด้านการตลาดได้ 3 จาก 100 คะแนน และครั้งนี้ทีมที่ได้โควตาแน่นอนแล้วคือทีมจาก 10 ประเทศเมื่อคราวก่อนประกอบไปด้วย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย อุซเบกิสถาน และ กาตาร์

เอเอฟซีได้เปิดโอกาสให้อีก 32 ลีก ที่ยื่นเข้าร่วม แต่ว่าถึงตอนนี้เหลือเพียง 2 ชาติที่ผ่านเข้ามาแล้วคือ ไทย กับ สิงคโปร์ และผลการประเมินจะออกภายหลังการประชุมของบอร์ดบริหารเอเอฟซีคือวันที่ 25 พ.ย.นี้โดยจะผ่านการประเมินหรือไม่จะใช้หลักเกณฑ์คะแนนรวมจากทุกสโมสรไม่ใช่ประเมินจากทีมใดทีมหนึ่ง”

ฉลามชลเตรียมปรับไฟ 1.2 พันลักซ์ เดือน พ.ย.
นายจีรศักดิ์ โจมทอง ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของทีม “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ออกมากล่าวภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นว่า “จากหลักเกณฑ์การประเมินของเอเอฟซี ทีมชลบุรีเราขาดเพียงแค่เรื่องไฟสนามที่เอเอฟซีกำหนด 1.2 พันลักซ์เท่านั้น สนาม สพล.ชลบุรี มีความสว่างเพียง 600 ลักซ์ แต่ว่าในช่วงเดือน พ.ย. สนามแห่งนี้จะถูกปรับปรุงเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 39 ซึ่งจะเพิ่มไฟสนามให้มีความสว่าง 1.2 พันลักซ์ด้วย และทีมฉลามชลจะขอใช้สนามแห่งนี้เป็นสนามเหย้าในการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก หากงบประมาณอนุมัติก็อาจดำเนินการช่วงสิ้นเดือนนี้เลย ฤดูกาลหน้าหากทีมได้สิทธิ์ เพื่อรองรับคลื่นของแฟนบอลฉลามชลจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลเหมือนฤดูกาลก่อนๆที่ใช้สนามศุภชลาศัย”

Writen By : mcball207

ที่มา http://www.thaileagueonline.com/news.php?id_news=2650&page=1

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์