เมืองทองฯทวงบัลลังค์ฝูง,พิพัฒน์ฮีโร่ท่าเรือ
กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทวงบัลลังค์ฝูงคืนอีกครั้ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว สวมบทฮีโร่โหม่งประตูชัย บุกเฉือนชัยชนะถึงถิ่น ศรีราชา เอฟซี 1-0 ขณะที่ ท่าเรือไทย ได้ทีเด็ด พิพัฒน์ ต้นกันยา บุกอัด ราชนาวี-ระยอง 2-1,พัทยา ยูไนเต็ด เปิดบ้านอัด แข้งเทพ แบงค๊อกฯ 2-0 ในศึกไทยพรีเมียร์ประจำวันที่ 30 ส.ค. 2552
ศรีราชา เอฟซี 0 - เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 1
ที่สนามสิรินธร ร.ร.อัสสัมชัญศรีราชา จ.ชลบุรี เดอะ บลูมารีน ศรีราชา เอฟซี รองบ๊วยของตาราง เฝ้าบ้านทำศึกหนักกับ กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องการสามแต้ม เพื่อกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางอีกครั้ง โดยเกมนี้ ศรีราชา เอฟซี จัดผู้เล่นชุดที่ดีสุดลงสนาม นำโดย สุภภรณ์ พรหมพินิจ, สุจริต จันทกล, วรุตม์ วงศ์ดี ดาวเตะกัปตันทีม
ส่วนผู้มาเยือนนัดนี้ จะไม่สามารถใช้งาน ซูมาโฮโร่ ยาย่า ปีกจรวด ที่ติดโทษแบบ รวมถึง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ปราการหลังตัวหลักที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ และ รณชัย รังสิโย ศูนย์หน้าดาวรุ่งที่เพิ่งจะเข้ารับการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าเข่าซ้าย ต้องพักพื้นอย่างน้อยถึง 6 เดือนชวดลงช่วยทีมทั้งหมด แต่รายอื่นๆ ก็ยังลงสนามได้กันพร้อมหน้าทั้ง เจษฎา จิตสวัสดิ์ กองหลังกัปตันทีม, ดานโก้ เซียก้า และ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว
เริ่มครึ่งแรก แค่ 3 นาที เจ้าถิ่นก็เกือบได้ลุ้นก่อนเมื่อ ซารูตะ ดาวเตะแดนปลาดิบ ได้ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลพุ่งแรงเสยคานบนออกไป แบบหวุดหวิด น.13 ทีมเยือนเริ่มตั้งหลักได้ และคอยหาจังหวะทำเกมบุกสวนขึ้นมา พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เตะบอลหลุดเดี่ยวขึ้นมาในกรอบเขตโทษ ก่อนตั้งป้อมซัดด้วยซ้าย แต่บอลแรงออกหลังไป
จากนั้นทั้งสองทีมเริ่มเปิดเกมรุกเข้าใส่กัน เพื่อหวังเจาะประตูขึ้นนำให้ได้ และเริ่มมีการเข้าปะทะกันหนักๆ ให้เห็นหลายต่อครั้ง รวมถึงจังหวะการลากบอลเลื้อยของ ลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าทีมเยือน ที่มักจะถูกแฟนบอลเจ้าถิ่นส่งเสียงโห่อยู่เสมอ
น.24 สาลาฮูดิน อาแว เติมขึ้นมาตรงกลาง ก่อนจับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วซัดด้วขวาเข้าข้อ แต่ไปตรงตัว นันทพล ศุภไทย นายด่าน ศรีราชา เซฟเอาไว้ได้ น.36 ซารูตะ ศูนย์หน้าตังจี๊ดของ ศรีราชา เอฟซี ได้บอลหลุดขึ้นไปถึงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนล็อคให้เข้าซ้าย แล้วจัดการตะบันแบบเต็มๆ แต่ไปติด ดานโก้ เซียก้า แฉลบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่นเกือบมาได้ลูกส้มหล่น เมื่อกองหลังเมืองทองฯ ตัดสินใจส่งบอลคืนหลังไม่ดี ซารูตะ จะวิ่งมาฉก ยังดีที่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาเคลียร์ทิ้งเอาไว้ได้ทัน ก่อนหมดครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 62 วิศรุต พันนาศรี แบ๊กซ้ายของเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดลูกเตะมุมมาที่เสาแรก ก่อนที่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จะเทคตัวโหม่งเข้าประตูไป ให้ทีมเยือนออกนำไปก่อน 1-0
นาทีที่ 71 ศรีราชาเกือบได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ดักลาส กองหลังชาวบราซิลเลี่ยนได้โอกาสยิงฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไปชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
เวลาที่เหลือศรีราชาโหมบุกอย่างหนัก ในขณะที่เมืองทองก็หาจังหวะโต้กลับเร็ว แต่สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขัน เมืองทองฯยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะศรีราชา เอฟซี 1-0 เก็บสามแต้มพร้อมกับแซงชลบุรีขึ้นนำเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จ
ราชนาวี ระยอง 1-2 การท่าเรือไทย เอฟซี
ที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง เป็นการพบกันระหว่าง ม้านิลมังกร ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 12 พบกับ สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 6 โดยเกมนี้เจ้าถิ่นไม่มี สมเจตร สัตบุษ ดาวยิงตัวเก่งที่ติดโทษแบน แต่ยังมี สุทธินันท์ นนที, ใหญ่ นิลวงศ์, ศุภชัย ขำทรัพย์ และ เจษฎา งามเมือง นำทัพ ขณะที่ทีมเยือนมี พิพัฒน์ ต้นกันยา ลงล่าตาข่ายคู่กับ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ โดยมี จีระวัฒน์ มัครมย์, สมเจตน์ เกศารัตน์ ลงทำเกมแดนกลาง ซึ่งก่อนเตะ นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ประกาศอัดฉีดให้กับ ราชนาวีฯ 100,000 บาท หากเก็บชัยชนะได้ในแมตช์นี้
เริ่มครึ่งแรก ไม่ถึงนาที ทีมเยือนเกือบได้ประตูออกนำ เมื่อ นิรุตน์ คำสวัสดิ์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาไปเสาสอง เสกสันต์ ชาวทองหลาง แบ็กขวา ราชนาวีฯ สกัดบอลไม่ดี มาเข้าทาง ธีระวุฒิ สันพันธ์ ยิงจ่อๆ ติดเซฟ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน นายทวาร ม้านิลมังกร อย่างเหลือเชื่อ
น.2 สิงห์เจ้าท่า ก็มาได้ประตูจนได้ เมื่อ จีระวัฒน์ มัครมย์ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายไปที่เสาแรก มอยซี่ กองหลังผิวสีของ ท่าเรือฯ โขกเช็ดไปที่เสาสองและเป็น โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ ที่ยืนอยู่พอดี แหย่เท้าสะกิดบอลเปลี่ยนทาง ชนเสาสองเข้าประตูไป ให้ การท่าเรือฯ นำ 1-0
หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่นก็เปิดเกมรุกอย่างหนัก จนกระทั่ง น.5 ราชนาวีฯ ก็เกือบได้ประตูตีเสมอถึงสองจังหวะติดๆ กัน เริ่มจากฟรีคิก บริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายของ สุทธินันท์ นนที ที่หลอกยิงเสาแรก บอลกำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่ อูลลิช นายทวารเลือดบราซิลของ ท่าเรือฯ ยังกระโดดปัดออกหลังไปได้ และจากลูกเตะมุม ศุภชัย ขำทรัพย์ เตะไปที่เสาสอง บอลเลยมาถึง สุทธินันท์ หาจังหวะยิง แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว
น.15 เสกสันต์ ชาวทองหลาง แบ็กขวาตัวเก่งของเจ้าถิ่น ได้จังหวะพาบอลมาทางกราบขวา ก่อนจะยิงอัดเข้ามาที่เสาแรก ยังดีที่ อูลลิช ยังไว พุ่งมาปัดออกหัลงไปได้ทัน จากนั้นเกมยังคงเป็นของเจ้าบ้าน ที่พับสนามบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว น.34 ก็เกือบได้ประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อ ใหญ่ นิลวงศ์ ได้โอกาสตั้งป้อมซัดไกลประมาณ 25 หลา บอลพุ่งปานจรวด ทำให้ อูลลิช ต้องทุบออกไป
เจ้าถิ่นยังคงเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกอยู่ข้างเดียว จนกระทั่ง น.40 ความพยายามของพลพรรค ม้านิล ก็มาประสบความสำเร็จ เมื่อได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา เสกสันต์ ชาวทองหลาง เปิดบอลลึกเลยไปที่เสาสอง แต่ยังมี สุทธินันท์ นนที ที่เก็บตกอยู่ หลอกล่อกองหลัง ท่าเรือฯ ก่อนเปิดบอลอัดเข้าไป และเป็น มอยซี่ กองหลังผิวสีของทีมเยือน ที่โหม่งบอลผิดเหลี่ยม เข้าประตูตัวเอง ให้ ราชนาวีฯ ตีเสมอ 1-1
หลังเสียประตูทำให้ ท่าเรือฯ รู้สึกตัว จึงเปิดเกมบุกแลกมาบ้าง และช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่สอง ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ พิพัฒน์ ต้นกันยา เปิดบอลจากฝั่งขวาไปที่เสาสองให้ โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ วอลเลย์เหน่งๆ เต็มข้อ ทว่าบอลลอยโด่งข้ามคานออกไปแบบไมได้ลุ้น ก่อนจะจบครึ่งแรกเสมอกันอย่างสนุก 1-1
ครึ่งหลังเปิดฉากมา ทั้งสองทีมเน้นการครองบอลเป็นส่วนใหญ่ น.52 นิรุตน์ คำสวัสดิ์ ดาวยิงร่างบึ๊กของ การท่าเรือฯ จะได้ลองยิงไกล แต่เบาเกินไป เข้ามือ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน รับสบาย จากนั้นเกมเริ่มรุนแรงขึ้น จนผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรบานปลาย
น.65 จีระวัมน์ มัครมย์ มิดฟิลด์ตัวเก่งของ สิงห์เจ้าท่า ได้ลองสับไก บริเวณมุมเขตโทษฝั่งซ้าย แต่บอลยังไปตรงตัว สิทธิพงษ์ นาทีถัดมา จีระวัฒน์ ได้ลองยิงฟรีคิกเกือบ 40 หลา บอลลอยโด่งออกไปไกล ทั้งสองทีมยังคงหาจังหวะพังประตูกันหลายครั้ง โดยการท่าเรือฯ เป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า ขณะที่ ราชนาวีฯ เน้นการตั้งรับและรอสวนกลับ น.79 ก็เกือบได้ผล เมื่อ สุทธินันท์ นนที ได้โอกาสวางเท้าซัดระยะ 30 หลา แต่บอลเหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว
น.84 แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องเงียบกริบกันทั้งสนาม เมื่อ พิพัฒน์ ต้นกันยา ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน ก่อนซัดด้วยซ้ายลอดหว่างขา สิทธิพงษ์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ให้ ท่าเรือฯ นำ 2-1
ท้ายเกม ราชนาวีฯ พยายามเปิดเกมรุกกดดันทีมเยือนอย่างหนัก และเกือบตีเสมอได้ เมื่อ สุทธินันท์ นนที เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาและเป็น สุทธิพงษ์ มะนาวหวาน นายทวาร ม้านิลมังกร ที่วิ่งขึ้นมาจากประตูตนเอง โหม่งสะบัด บอลหลุดกรอบออกหลังไป ทำให้จบเกม ราชนาวีฯ แพ้ การท่าเรือฯ 1-2
วาทะโค้ช
ราชนาวีระยอง : สุขสันต์ คุณสุทธิ์ - เกมวันนี้เราสู้ได้ เพียงแต่ข้อผิดพลาดเราเยอะกว่าเท่านั้น ซึ่งเวลาเราตัดบอลได้ก็จะไปเสียกันเอง ส่วน ท่าเรือฯ เขามาเรื่อยๆ แต่แน่นอนกว่า จึงชนะไป ซึ่งเวลาที่เหลือเราต้องแก้ไขกันต่อไป
การท่าเรือไทย เอฟซี : สะสม พบประเสริฐ - เป็นเกมที่สนุก เพราะเราต้องการสามคะแนนด้วยกันทั้งคู่ ซึ่ง ราชนาวีฯ เป็นทีมที่ดีทีมนึง และการเก็บสามคะแนนได้ในวันนี้ ทำให้เรามีลุ้นในสิ่งที่ทุกคนหวังไว้เหมือนกัน
คะแนนความสามารถทั้งสองทีม
ราชนาวีระยอง : สิทธิพงษ์ มะนาวหวาน 5, เสกสันต์ ชาวทองหลาง 5, แยนนิค 5, สุระเดช เสาไธสง 5, เจษฎา งามเมือง 5.5 (มารุต ดอกมะลิป่า), ใหญ่ นิลวงศ์ 5.5 (รัฐพร แซ่ตั๋น -), ฟรานนิค อดัมส์ 5, สุทธินันท์ นนที 5.5, ศุภชัย ขำทรัพย์ 5.5, พิศาลสิน ซ่าอินทร์ 5 (วุฒิชัย อสุชีวะ), บันลือศักดิ์ ยอดยิ่งยง 5
การท่าเรือไทย เอฟซี : อูลลิช 5, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 5, มอยซี่ 5, มาริโอ เซซ่า อา ซิลวา 5.5, พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ 5.5, ธีระวุฒิ สันพันธ์ 5 (วิสูตร บุญเป็ง -), โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ 5.5 (เอกชัย สำเร 5), สมเจตน์ เกศารัตน์ 5.5, จีระวัฒน์ มัครมย์ 5.5, พิพัฒน์ ต้นกันยา 6.5, นิรุฒน์ คำสวัสดิ์ 5 (ปิติพงษ์ กุลดิลก 5)
แมนออฟเดอะแมตช์ : พิพัฒน์ ต้นกันยา ผู้ซัดประตูชัยให้ สิงห์เจ้าท่า
กระทู้เด็ดน่าแชร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
