เปาโล รอสซี่ เพชรฆาตอัซซูรี่






ตำนานนักเตะ





เปาโล รอสซี่ เพชรฆาตอัซซูรี่



นักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของทีม “อัซซูรี่” เปาโล รอสซี่ นักฟุตบอลที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อยิงประตูสถานเดียว

อนาคตของ รอสซี่ เกือบไม่ได้เป็นตำนานหลังโดนสั่งลงโทษแบนถึง 3 ปีด้วยข้อหา “ล้มบอล” แต่จากการอุทรณ์ต่างๆนานโทษลดลงเหลือ 2 ปี

รอสซี่ เกิดเมื่อเดือนกันยายน 1956 ได้ค้าแข้งกับยอดทีมแห่งเมืองตูริน บ้านเกิดในอิตาลีอย่าง ยูเวนตุส ตั้งแต่ทีมระดับ จูเนียร์ แต่มีปัญหาอาการเจ็บหัวเข่ากระเสาะกระแสะอยู่ตลอดเวลา ไมนาน ยูเว่ ก็ปล่อยให้ โคโม่ ยืมตัวไปหาประสบการณ์

จากนั้นก็ต่อด้วยทีมในเซเรีย บี อย่าง วิเชนซ่า ที่เห็นแววจี๊ดจ๊าดของนักเตะรายนี้ จับมาดัดจากมิดฟิลด์ริมเส้น เป็นกองหน้าตัวเป้า

และก็เป็นการดัดที่ถูกทางของ วิเชนซ่า เมื่อรอสซี่ตอบแทนด้วยการซัดไป 21 ประตูให้ทีมเลื่อนชั้น ก่อนจะจัดการขอซื้อตัวเป็นการถาวรจาก ยูเวนตุส ด้วยราคา 1,500 ปอนด์

อย่างไรก็ตามแม้จะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตลอด แต่ วิเชนซ่า ก็ตั้งค่าหัวรอสซี่ ไว้ที่ 3 พันปอนด์ ช่วงจบฤดูกาลให้กับ นาโปลี แต่เจ้าตัวไม่อยากไป เลือกไปอยู่กับ เปรูจา แบบยืมตัวแทน

ช่วงเวลาที่ รอสซี่ ยังคงติดโทษแบนอยู่กำหนดเวลาตั้งแต่ปี 1980-82 นั้น ในปี 1981 ยูเวนตุส ก้าวเข้ามาขอซื้อตัวด้วยราคา 500,000 ปอนด์ และเมื่อโทษแบนสิ้นสุดลงในวันที่ 29 เดือนเมษายน 1982 รอสซี่ ก็ได้รับเรียกตัวให้กลับไปรับใช้ชาติทันที

อัซซูรี่ เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ได้อย่างย่ำแย่ผิดคาด แม้ว่าจะอยู่รวมสายกับทีมที่ไม่ได้จัดว่าน่ากลัวอย่าง โปแลนด์,แคเมรูน มีเพียง เปรู ที่ถูกจัดเป็นเต็ง 2 ของกลุ่ม

อิตาลี เจาะตาข่ายคู่แข่งได้แค่ 2 ประตู ผ่านเข้ารอบด้วยประตูที่เหนือกว่า แคเมอรูน เท่านั้น และที่ดูแย่กว่านั้น แต่ไม่น่าแปลกใจเมื่อรอบต่อไป อิตาลี โดนจับให้ไปอยู่สายแข็งกับทีมอย่าง บราซิล,แชมป์เก่า อาร์เจนตินา ซึ่งใครๆก็มองว่า งานนี้ พลพรรค์อัซซุรี่ ต้องกลับไปกินมะกะโรนี ที่บ้านก่อนเวลาอันควรแน่นอน

ทว่าผิดคาด อิตาลี ชนะ อาร์เจนตินา ไปหวุดหวิด 2-1 เริ่มสร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนและไม่กล้าที่จะมองข้ามอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังผ่าน 4 เกม รอสซี่ ยังคงไม่สามารถควานหาสกอร์ให้ตัวเองเจอทำให้โค้ชอย่าง เอ็นโซ่ เบียร์ซ็อต เริ่มหนักอกขึ้นมาบ้างและตัดสินใจจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ได้ ซึ่งเป็นแมตช์กับ บราซิล

เกมนี้ “แซมบ้า” ต้องการเพียงผลเสมอ ก็จะได้ผ่านเข้ารอบตัดเชือกแล้ว ทว่าหลังจากอัดอันและฟังกระแสวิพากวิจารณ์มาอย่างยาวนาน รอสซี่ จัดการตะบันแฮททริค พาทีมชนะ บราซิล 3-2 ผ่านเข้ารอบเซมิไฟนัล อย่างงดงาม

หลังจากเครื่องติด ก็เหมือนว่าจะหยุดไม่อยู่เสียแล้ว รอบตัดเชือก อิตาลี และรอสซี่ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าทึ่ง ในการเจอกับโปแลนด์ ยิงสองประตูในชัยชนะ 2-0

ในรอบช้งชนะเลิศ รอสซี่ ยิงเบิกร่องให้ อิตาลี ก่อนทีมชนะเยอรมันตะวันตกท่วมท้น 3-1 คว้าแชมป์โลกด้วยความรู้สึกที่ครบเครื่องถ้าย้อนไปถึงต้นทัวร์นาเมนต์ รอสซี่ คว้าตำแหน่งดาวซัลโว ทัวร์นาเมนต์นี้ได้ภายใน 3 เกม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์