หรั่งแย้มปรับทัพส่งพิพัฒน์ยิงจิงโจ้ยีเตรียมตบอัดฉีด

หรั่งแย้มปรับทัพส่ง"พิพัฒน์"ยิงจิงโจ้"ยี"เตรียมตบอัดฉีด

15 กรกฎาคม 2550 11:33 น.
 
กุนซือทีมชาติไทย “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน แย้มจัดทัพใหม่เน้นความสดผสมความเก๋า ส่ง "ต้น" พิพัฒน์ ต้นกันยา ฮีโร่ในเกมล่าสุดลงซัลโว "จิงโจ้" ออสเตรเลีย ในเกมชี้ชะตาเข้ารอบสองเอเชี่ยนคัพวันที่ 16 ก.ค.นี้ ลั่นเล่นในบ้านเจอทีมเก่งแค่ไหนก็ไม่ยอมให้ผ่าน

ขณะที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เผยต้องตัดเกมริมเส้น ไม่ฟาวล์ในเขตอันตราย ชี้เกมมีโอกาสออกทุกหน้า เตรียมเงินอัดฉีดเป็นของขวัญก่อนแข่ง ด้าน “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง เผยเล่นแค่เสมอไม่ปลอดภัย หวัง 3 แต้มลิ่วรอบก่อนรองชนะเลิศ

 ความเคลื่อนไหวของขุนพลนักเตะทีมชาตไทยที่มีโปรแกรมลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย หรือ "เอเชี่ยนคัพ 2007" รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่มเอ พบ "จิงโจ้" ออสเตรเลีย ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ เวลา 19.35 น. ที่สนามราชมังคลกีฬาสถาน ซึ่งเกมนี้ทีมไทยที่มีอยู่แล้ว 4 แต้มขอเพียงผลเสมอจะสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบสองทันที ขณะที่ออสเตรเลียมีแค่ 1 แต้มจำเป็นต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้นถึงจะมีลุ้นเข้ารอบ 


อย่าลืมเก็บแรงไว้ซัดจิงโจ้ด้วยนะ

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน พานักเตะไปฝึกซ้อมที่สนามกีฬากองทัพบก เน้นไปที่เกมการรับมือลูกโยนจากด้านข้าง และลูกเซตเพลย์ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมพร้อมสำหรับเจอออสเตรเลีย โดยที่บรรดาขุนพลตัวหลักที่บาดเจ็บเริ่มกลับมาซ้อมได้แล้ว ทั้ง เจษฎา จิตสวัสดิ์, นิรุจน์ สุระเสียง, ธีรศิลป์ แดงดา จะมีเพียง นริศ ทวีกุล นายทวารที่เจ็บข้อเท้าซ้ายคนเดียวเท่านั้น

 กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เราต้องเล่นกับทีมเสือลำบาก ถือว่าอันตรายทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามจะไม่ยอมให้ใครมาชนะในบ้านได้ง่ายๆ ไม่ว่าทีมนั้นจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ถึงตรงนี้พยายามเน้นให้ทุกคนทุ่มเทมีสมาธิกับเกมนี้ให้มากที่สุด ซึ่งเกมนี้แม้จะขอแค่เสมอแต่ถือเป็นอะไรที่เล่นยากมาก พอๆ กับการที่จะเอาชนะออสเตรเลียก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้หมด จึงย้ำกับทุกคนว่าไม่ต้องคำนึงถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย หากแต่สมาธิ ความทุ่มเท ที่มีจาก 2 นัดแรก มาถึงเกมนี้ถือว่าสำคัญ ทุกอย่างต้องเพิ่มเป็น 3 เท่า


 “เกมกับออสเตรเลียต้องเน้นที่การป้องกันจากด้านข้าง การทุ่มไกล รวมถึงการจ่ายบอลยัดที่ตัวเป้าไม่ว่าจะเป็น วิดูก้า, อลอยซี หรือคีเวลล์ เราต้องตัดให้ได้ ดังนั้นตัวผู้เล่นนัดนี้คงเน้นที่ความเก๋า และสด ลงไปผสมผสานกัน เพื่อใช้ความสด ความเร็วของวัยรุ่นไปไล่บี้ตัดเกม และตัวเก๋าคอยเก็บ ประคองเกม โดยในแดนกลางยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้ใครเล่น แต่ที่ยืนแน่นอนน่าจะเป็น ตะวัน ศรีปาน คู่กับ นิรุจน์ สุระเสียง ส่วนด้านขวาและด้านซ้ายยังไม่ลงตัว สำหรับกองหน้าคิดว่า พิพัฒน์ ต้นกันยา ที่ยิง 2 ประตูในเกมที่แล้วมีโอกาสได้ลงเป็นตัวจริง” 


 ขณะที่ “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีม กล่าวว่า ตอนนี้จิตใจหวั่นอยู่ 2 อย่างคือ ออสเตรเลีย อาจเล่นดี หรือแย่กว่าเดิม อย่างไรก็ตามเราประมาทไม่ได้ แต่ส่วนตัวมั่นใจจะเป็นเกมที่สนุก และแฟนบอลน่าจะได้ชมฟุตบอลที่ดีเกมหนึ่งของทัวร์นาเม้นท์ แม้เราอาจเป็นรอง แต่ถึงตรงนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว เราเองคงไม่พอใจกับการลงไปเล่นเพื่อขอแค่แต้มเดียว หากแต่เพื่อความปลอดภัยคือต้องเต็มที่ เก็บ 3 แต้มการันตีการเข้ารอบให้ได้

 ด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเกมที่เราแพ้ไม่ได้ แพ้อาจหมายถึงการตกรอบ ถึงตรงนี้คงต้องปลุกขวัญกำลังใจ เพื่อสู้สุดชีวิต หากพูดในเชิงบอลแล้ว ออสเตรเลีย อาจถึงคราวตกต่ำ การมีแค่แต้มเดียวน่าจะกดดันจิตใจพวกเขามาก และคงต้องทุ่มเทสุดฝีเท้าเพื่อเรียกศรัทธากลับมา ขณะที่เราเองผลงานดี แต่ประมาทไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว


 “นัดนี้ต้องเต็มที่ ช่วยกันเคลื่อนที่ ไล่บี้ให้ตลอด ไม่ให้โยนจากด้านข้าง รวมถึงไม่ฟาวล์พร่ำเพรื่อ เพราะมีสิทธิถูกบอมบ์กดดันได้ตลอด ส่วนเกมนี้เชื่อว่าโอกาสน่าจะ 50-50 มีสิทธิออกไปได้ทั้งหน้าหลัง และในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ จะมีของขวัญไปให้นักเตะก่อนเกมที่สนามฝึกซ้อมแน่นอน” 

 สำหรับสถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีม เจอกันมา 3 ครั้ง ไทย ชนะ 1 แพ้ 2 ดังนี้ 12 สิงหาคม 2513 เมอร์เดกา ที่มาเลเซีย ชนะ ออสเตรเลีย 2-0, 6 ตุลาคม 2525 เมอร์ไลอ้อน ที่สิงคโปร์ แพ้ ออสเตรเลีย 0-4, 10 สิงหาคม 2535 เพรสซิเดนท์คัพ ที่อินโดนีเซีย แพ้ ออสเตรเลีย 0-1


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์