สมศักดิ์ศรี!พิภพยิง น.116 ฉลามแชมป์ FA Cup

สมศักดิ์ศรี!พิภพยิง น.116 ฉลามแชมป์ FA Cup

เกมที่ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี เล่นได้เหนือกว่า เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ต้องพึ่งประตูชัยของพิภพ อ่อนโม้ ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 116 พาทีมเก็บชัยชนะ 2-1 คว้าแชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ไปครองสมความตั้งใจ พร้อมโควตาลุยเอเอฟซีคัพ ปีหน้า

มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553

เมืองทอง หนอกจอก ยูไนเต็ด 1-2 ชลบุรี เอฟซี

ประตู : 0-1 เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.42, 1-1 ดัสกร ทองเหลา น.64, 1-2 พิภพ อ่อนโม้ น.116

ศึกใหญ่ เอฟเอคัพ นัดชิงชนะเลิศ เรเน่ เดอซาเยียร์ กุนซือเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทำเซอร์ไพรส์ ส่งตัวต่างชาติลงคนเดียวคือดาโญ่ เซียก้า มีคู่ศูนย์หน้าคือรณชัย รังสิโยกับธีรศิลป์ แดงดา และคราวนี้ ให้โอกาสนฤพล อารมณ์สวะ มิดฟิลด์ดาวรุ่งเอเชียนส์เกมลงเป็นตัวจริงบ้าง

ส่วนจเด็จ มีลาภ บอสใหญ่ชลบุรี เอฟซีขนชุดใหญ่ลงเต็มสูบ แต่ใช้หน้าตัวเดียวคือพิภพ อ่อนโม้ ขาดเพียงตำแหน่งเดียวคือสุรีย์ สุขะ เลยส่งเจษฎากร เหมแดง ลงสนามมาแทน

ครึ่งแรก

เชอร์รี่ทักทายก่อน
เริ่มมาได้แค่ 2 นาที ชลบุรีได้ทดสอบฟอร์มของทนงศักดิ์ก่อน เมื่อเอกพันธ์ อินทะเสน หลบกองหลังของเมืองทองฯมาได้สวย แต่สุดท้ายยิงแบบโดนไม่เต็ม บอลสุดปลายเท้าพอดี จึงไม่เป็นปัญหาของทนงศักดิ์แต่อย่างใด

จากนั้นอีกแค่นาทีเดียว อาทิตย์ สุนทรพิธ ลงส่องไกลด้วยเท้าขวา ข้างไม่ถนัด แต่ไม่ตรงกรอบ

ฉลามชลบุกหนักเกือบได้
นาทีที่ 8 ชลบุรีได้ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อเทิดศักดิ์ ใจมั่น หยอดมาให้เอกพันธ์ อินทะเสน ที่เสาสองได้แม่นยำ แต่เชอร์รี่โหม่งไม่เข้ากรอบ แต่ก็หวาดเสียวสุดๆ

และอีกครั้งในนาทีต่อมา ชลทิตย์ จันทะคาม เห็นทนงศักดิ์ออกมาไกล เลยลองลักไก่ยิงแบบย้อยๆดู ทำให้ทนงศักดิ์ต้องถอยมาปัด บอลชนคานกระเด้งออกมา

ชลบุรียังใช้ประสบการณ์ที่มากกว่าบุกกดดันเมืองทองฯ ยูไนเต็ดต่อไป และได้ยิงอีกแล้วในนาทีที่ 18 เมื่อภูริทัตแย่งบอลจากจังหวะขลุกขลิกมาได้ และตัดสินใจยิงเรียด แต่เบาเกินไป เลยไปเข้ามือของทนงศักดิ์

เซียก้าล้ำหน้านิดเดียว-เมืองทองเปลี่ยนตัวเร็ว
เมืองทองฯพอจะลืมตาอ้าปากได้บ้าง ได้ลุ้นจากลูกจ่ายตามช่องที่ให้ดาโญ่ เซียก้า ได้หลุดมาดวลเดี่ยวกับสินทวีชัย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าก่อนจะยิง เพราะดาโญ่ เซียก้า ออกตัวเร็วไปนิดเดียวเท่านั้น

จากนั้น นาทีที่ 26 เมืองทองฯ ยูไนเต็ดตัดสินใจเปลี่ยนเอารณชัย รังสิโย ออก เพราะวันนี้ไม่มีส่วนกับเกมเลย ส่งโคเน่ โมฮัมเหม็ด เด็กเก่าชลบุรีลงสนามมาแทน พร้อมกับรับใบเหลืองทันทีที่ลงไปเตะเจษฎากร เหมแดง

เซียก้าเกือบหลุด-สินทวีชัยออกมาเร็ว
เกมเริ่มผลัดกันรุกรับแล้ว แต่ไปตายที่จังหวะสุดท้ายทั้งคู่ ทำให้นาทีที่ 32 ดัสกร ทองเหลา ลองเสี่ยงโชคยิงไกลดูบ้าง แต่ก็ข้ามคานออกไป

นาทีที่ 36 เมืองทองฯได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกทางกราบขวา แต่ปิยะชาติ ถามะพันธ์ก็เปิดฟรีคิกโค้งเข้ามือสินทวีชัยไป และอีกสามนาทีต่อมา ได้ลุ้นจริงๆเมื่อธีรศิลป์ แดงดา จ่ายพอดิบพอดีให้โคเน่เกือบได้หลุดเดี่ยว แต่สินทวีชัยอ่านเกมดี ออกมาเตะทิ้งได้ทัน

ชลต่อบอลสวยนำแล้ว 1-0
และแล้วชลบุรีก็มาได้ประตูขึ้นนำจริงๆ จากความผิดพลาดของปิยะชาติ ถามะพันธ์ แบ็คซ้ายเมืองทองฯที่เสียบอลให้ทำให้พิภพ อ่อนโม้ จากนั้น พิภพจ่ายให้เอกพันธ์ ที่วิ่งอ้อมหลัง จากนั้น เชอร์รี่จัดการจ่ายให้เทิดศักดิ์ ใจมั่น อีกที และน้าเทิดก็จัดการยิง บอลแรงจนทนงศักดิ์ปัดไม่อยู่ ปลิ้นเข้าประตูไปจนได้ ชลบุรีนำแล้ว 1-0 ในนาทีที่ 42

ฉลามสวนเร็วเกือบได้ลูกสอง
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชลบุรีเกือบได้ประตูที่สอง เมื่อเอกพันธ์ได้บอลแล้ว ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ลื่นพอดี ทำให้เอกพันธ์ได้เลี้ยงจี้จนมาจะเข้ากรอบเขตโทษ ด้านซ้ายมีพิภพ อ่อนโม้ รออยู่แล้ว แต่เชอร์รี่ ตัดสินใจยิงเอง บอลไม่ผ่านมือทนงศักดิ์และไม่กระฉอกออกมาด้วย และสกอร์ครึ่งแรกก็จบอยู่ที่ 1-0

ครึ่งหลัง

ชลไม่ผ่อนเดินหน้ารุกต่อ
ครึ่งหลังมา เรเน่ เดอซาเยียร์ แก้เกมด้วยการส่งอมร ธรรมนาม ลงมาแทนนฤพล อารมณ์สวะ แต่ชลบุรียังคงความวูบวาบในเกมรุกได้ดี และนาทีที่ 49 พิภพก็ไหลเบาๆให้เทิดศักดิ์ ใจมั่น ตวัดยิง แต่ติดบล็อกนิดเดียวเท่านั้น

เมืองทองยังครองเกมไม่ได้ แม้แต่จังหวะสวนกลับยังต่อบอลกันให้ถึงกรอบเขตโทษชลบุรีไม่ได้ แถมยังมาเสียภานุพงศ์ วงศ์ษา ที่เล่นต่อไม่ไหวด้วย ต้องส่งเจษฎา จิตสวัสดิ์ ลงมาแทน

นาทีต่อมา พิภพ อ่อนโม้ โดนปิยะชาติ ถามะพันธ์ จิ้มไปที่ขา แม้จะโดนไม่หนักเท่าไหร่แต่อาจโดนจุดสำคัญจนล้มลงไป จังหวะนี้ ผู้เล่นชลบุรีไปเสียสมาธิ นึกว่าจะเกมจะหยุด แต่ไม่ใช่ ทำเอาเกือบเสียประตูเหมือนกัน

เมืองทองฯ ยังคงเสียบอลง่ายเช่นเดิม ทำให้ชลบุรีได้ต่อบอลจนเข้ากรอบเขตโทษของกิเลนผยองหลายครั้ง

โก้ปั่นหายไล่เจ๊าให้เมืองทอง
แต่จังหวะชลบุรีผิดพลาดก็มีบ้าง คราวนี้สกัดบอลไม่ขาด ทำให้จังหวะสุดท้ายโคเน่ โมฮัมเหม็ด ไหลให้ดัสกร ทองเหลา ปั่นโค้งระยะ 20 หลา บอลหนีมือสินทวีชัย หทัยรัตนกุลที่บินมาปัดไม่ทันการณ์ ทำให้บอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายจนได้ สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 ในนาทีที่ 64

กิเลนเริ่มมาแต่เกมรับยังหลวม
พอได้ประตูตีเสมอ เกมของเมืองทองเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็เกือบโดนเหมือนกันเมื่อเอกพันธ์ ไหลมาให้ภานุวัฒน์ จินตะได้แปเน้นๆ แต่ก็ข้ามคานออกไป ในนาทีที่ 75

หลังเมืองทองช้า-พิภพหลุดเกือบยิงนำ
นาทีที่ 79 เมืองทองฯ เกือบเสียประตูอีกครั้ง เมื่อพิภพ อ่อนโม้ หลุดเข้าเขตโทษแล้วเหมือนกองหลังจะเข้ามาช้า ปล่อยให้พิภพได้เลี้ยงจี้มาแล้ว แต่จังหวะยิง บอลกลับไม่ผ่านมือทนงศักดิ์ ที่โชว์เหนียวตะครุบไว้ได้ และอีกสองนาทีต่อมา เอกพันธ์ อินทะเสน หลอกจะยิงเสาแรก แต่ทนงศักดิ์ยังนิ่ง ปัดออกไปได้หวุดหวิด

ระทึก!กัปตันเจษเกือบยิงตัว
นาทีที่ 85 เมืองทองฯ เกือบพลาดมหันต์ เพราะเจษฎาเสียหลัก ในจังหวจะจะดีดบอลคืนหลังให้ทนงศักดิ์ แต่ดันคืนไม่ดี ทำให้ทนงศักดิ์ ต้องเหินโหม่งทิ้งออกไป เพราะใช้มือไม่ได้

นักเตะเริ่มล้า-ลุ้นต่อเวลา
นาทีที่ 89 เอกพันธ์ อินทะเสน ปั่นฟรีคิกข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้นเหมือนกัน และสภาพร่างกายของนักเตะชักจะเหนื่อยล้า ทำให้ทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ ต้องลุ้นต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ต่อเวลาพิเศษ ครึ่งแรก

มุ้ยยิงสวย-สินทวีชัยปัดสุดยอด
เมืองทองฯเสียเปรียบเล็กน้อยเพราะณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์เจ็บเล่นต่อแทบไม่ไหว ต้องโดนโยกมาสลับตำแหน่งกับดาโญ่ เซียก้า เพราะโควตาเปลี่ยนตัวครบ แต่นาทีที่ 93 ธีรศิลป์ แดงดา โยกหลอกสุทธินันท์ พุกหอม แล้วยิงจะให้เสียบใต้คาน แต่สินทวีชัยยังปฏิกิริยาไว ปัดไว้ได้ด้วยปลายมือ

บาก้าหลุดแต่ไม่เข้า
นาทีที่ 97 ชลบุรีไม่ได้ประตูขึ้นนำเหลือเชื่อ เมื่อพิภพ อ่อนโม่ จ่ายให้จูเลส บาก้า หลุด โดนดาโญ่ เซียก้า เกี่ยวไว้หนึงจังหวะ แต่บอลกระดอนโดนแขนบาก้ามาเข้ารังเพลิงอีกครั้ง ทว่าบาก้ากลับยิงไปติดทนงศักดิ์อย่างน่าเสียดายสุดๆ

จากนั้นอีกสองนาที เกมเริ่มหนักจริง โดยเฉพาะจังหวะบอลหลุดจากเท้าพิชิตพงษ์ ไปแล้ว แต่พิภพโดดเข้ามาเสียบเปิดปุ่มที่ขาของพิชิตพงษ์จนตัวลอย ถึงขั้นที่อาจจะโดนแดงได้เลย แต่ยังโชคดีได้แค่เหลือง

ต่อเวลาพิเศษ ครึ่งหลัง

สู้กันยิบตา-ตะคริวเริ่มถามหา
บอลของเมืองทองฯเริ่มขึ้นที่อมร ธรรมนาม ที่มีความเร็ว และชลบุรีก็เน้นการเปิดบอล ไม่ต้องเสียเวลาเปิดบอลเพราะตัวสดกว่าเยอะ

ภาพที่สวยงามของฟุตบอลไทยเกิดขึ้น เมื่อณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ เป็นตะคริวเจ็บ แข้งชลบุรีช่วยกันปฐมพยาบาลให้อดีตรุ่นพี่คนนี้ด้วยสปิริตอันแรงกล้า

พิภพฮีโร่-ยิงหายชลนำ 2-1
นาทีที่ 116 ชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อพิภพ อ่อนโม้ บล็อกไม่ให้เจษฎา จิตสวัสดิ์ เซนเตอร์เมืองทองฯเคลียร์ทิ้ง บอลมาตกอยู่หน้าตัวพิภพในกรอบเขตโทษ แล้วพิภพใช้สัญชาติญาณจิ้มบอลเข้าเสาสองไปสุดคม ฉลามชลนำแล้ว 2-1

เมืองทองเร่งตีคืนแต่ไม่ทัน-ฉลามแชมป์!
พอเสียประตู เมืองทองใช้ความพยายามที่เหลืออยู่ทวงประตูตีเสมอคืนให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ชลบุรี เอฟซี เก็บชัยชนะได้ 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพสำเร็จ พร้อมโควตาลุยเอเอฟซีคัพต่อไปในปีหน้า

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เมืองทอง : ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์, ภานุพงศ์ วงศ์ษา (เจษฎา จิตสวัสดิ์ น.57), ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, จักรพันธ์ แก้วพรม, ดาโญ่ เซียก้า, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, นฤพล อารมณ์สวะ (อมร ธรรมนาม น.45), ดัสกร ทองเหลา, รณชัย รังสิโย (โคเน่ โมฮัมเหม็ด น.26 ), ธีรศิลป์ แดงดา

ชลบุรี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, ชลทิตย์ จันทคาม, ณัฐพงษ์ สมณะ, สุทธินันท์ พุกหอม, เจษฎากร เหมแดง, อดุล หละโสะ, ภูริทัต จาริกานนท์, เทิดศักดิ์ ใจมั่น (จูเลส บาก้า น.77), เอกพันธ์ อินทเสน (ศุภเสกข์ ไก่แก้ว น.115), พิภพ อ่อนโม้ , อาทิตย์ สุนทรพิธ (ภานุวัฒน์ จินตะ น.73)

ผู้ตัดสิน: สุระ ศรีอาจ




เครดิตภาพชุดแรก http://www.lentee.com/soccer/viewtopic.php?t=354745








































เครดิตภาพ: สิงห์โต และ เอ็มคูล

http://www.lentee.com/soccer/viewtopic.php?t=354637

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์