วางโจ้-ตั้มทีเด็ด ฟรีคิกซิวคิงส์คัพ

วางทีเด็ดฟรีคิกพิชิตแชมป์คิงส์คัพ ตั้มเล็ก ณรงค์ชัย วชิรบาล และ โจ้ 5 หลา ศรายุทธ ชัยคำดี เป็นจอมสังหาร โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน ลั่นรู้ผลใน 90 นาที ไม่มียืดเยื้อถึงฎีกา พร้อมเน้นนักเตะไม่ใช้โอกาสเปลือง ขณะที่กุนซืออิรัก

ลั่นขอล้างตาจากรอบแรก เชื่อนักเตะมีดีพอที่จะซิวแชมป์กลับบ้านเกิด พร้อมอ้อนสิงห์เชิ้ตดำวางตัวเป็นกลางในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่มี พล.ร.อ.ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์เป็นประธาน

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 เดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศในวันเสาร์ที่ 29 ธันวาคมนี้ นักเตะไทยในฐานะแชมป์เก่า 12 สมัย ซึ่งโชว์ผลงานในรอบแรกได้อย่างสวยงามชนะ 3 นัดรวด เชือด อุซเบกิสถาน 3-2, สอย อิรัก 2-1 และเฉือน เกาหลีเหนือ 1-0 จะลงสนามพบ อิรัก ที่เข้ารอบมาเป็นที่ 2 ด้วยผลงาน ชนะ เกาหลีเหนือ 1-0, แพ้ ไทย 1-2, ชนะ อุซเบกิสถาน 3-1

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทั้ง 2 ทีม ในการซ้อมก่อนลงสู่สังเวียนราชมังคลากีฬาสถาน โดยมีถ้วยศักดิ์สิทธิ์ของวงการลูกหนังแดนสยามเป็นเดิมพัน ในส่วนของทีมชาติไทยยังคงปักหลักที่สนามไทยเบฟ ซึ่ง โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน เน้นไปที่การแก้ไขการคุมโซน และประกบตัวต่อตัว ก่อนเปิดเผยกับ คม ชัด ลึก ว่า อิรัก เป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งในเรื่องของรูปร่างและทักษะ โดยเฉพาะเกมรับที่สามารถตามประกบคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี

เราเตรียมทางแก้เอาไว้คือการเล่น 1 ต่อ 1 ต้องผ่านให้ได้ เพราะเชื่อว่าไม่มีทีมฟุตบอลใดที่สามารถตามประกบได้ตลอดทั้งเกมแน่นอน ดังนั้นการแก้ทางคือ ต้องคิดเร็วทำเร็ว หรือหากจังหวะ 1-1 ไปไม่ได้ ต้องใช้ 2-1 แทน ไม่ว่าจะเป็นการทำชิ่ง วิ่งอ้อมหลัง การเปลี่ยนทิศทางบอลจากเท้าสู่เท้า รวมไปถึงการเปลี่ยนแกนให้เร็ว ซึ่งเชื่อว่าเด็กจะสามารถเรียนรู้จากเกมแรกที่พบอิรัก และนำมาปรับตัวได้

กุนซือใหญ่ทีมลูกหนังไทย เผยต่อไปอีกว่า นัดนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบของทีมไทยในการพิสูจน์การก้าวขึ้นไปสู่ระดับเอเชียที่ถือเป็นเกมที่หนัก เพราะในระดับนี้มีโอกาสแล้วต้องไม่พลาด หรือผิดพลาดให้น้อยที่สุด ดังนั้นการพบอิรัก เมื่อมีจังหวะต้องทำให้ได้ โดยเฉพาะลูกเซตเพลย์ที่น่าจะเป็นทีเด็ดของเราที่มีทั้ง ณรงค์ชัย วชิรบาล กับ ศรายุทธ ชัยคำดี เป็นตัวทีเด็ดรับผิดชอบลูกนิ่งหน้ากรอบเขตโทษ รวมไปถึงจังหวะเปิดบอลจากด้านข้างเหมือนที่ทั้งคู่เคยทำให้ทีมได้ประตูมาแล้ว มั่นใจเกมนัดชิงชนะเลิศไม่น่าจะยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษอย่างแน่นอน และสุดท้ายทีมชาติไทยจะรักษาแชมป์เอาไว้ในบ้านได้อีกครั้งหนึ่ง

ผู้เล่น 11 คนแรก ที่คาดว่าจะลงสนาม ได้แก่ ผู้รักษาประตู โกสินทร์ หทัยรัตนกุล หรือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่โชว์ฟอร์มในนัดสุดท้ายได้ดี, แบ็กขวา หากสุรีย์ สุขะ ยังไม่สมบูรณ์จะเป็นโอกาสของปรัชญ์ สมัคราษฎร์, เซ็นเตอร์แบ็ก นิเวส ศิริวงค์ กับ เกียรติประวุฒิ สายแวว แต่หากยังไม่หายเจ็บเข่าจะเป็น ปฏิภาณ เพชรพูล, แบ็กซ้าย ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, กองกลางริมเส้น ธีรเทพ วิโนทัย หรือ สุเชาว์ นุชนุ่ม, กองกลางคู่ด้านใน ณรงค์ชัย วชิรบาล กับ นิรุจน์ สุระเสียง, กองกลางด้านซ้าย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และกองหน้าหากใช้ สุเชาว์ ยืนริมเส้น ธีรเทพ จะได้ยืนล่าตาข่ายคู่กับ ศรายุทธ ชัยคำดี แต่อาจมี อานนท์ สังสระน้อย ที่จะได้เบียดแทน ธีรเทพ

ด้าน อับดุลคาลิค อาเหม็ด กุนซือใหญ่อิรัก บี กล่าวว่า ทีมไทยเป็นทีมที่เล่นอย่างมีวินัย โอกาสเจาะเข้าไปสู่กรอบเขตโทษไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อในศักยภาพของลูกทีมที่จะเอาชนะทีมไทยเพื่อคว้าแชมป์กลับบ้านให้ได้ นัดนี้เราพร้อมทุ่มอย่างและหวังว่าผู้ตัดสินจะทำหน้าที่ได้อย่างเป็นธรรม หลังจากในรอบแรกค่อนข้างจะเอียงไปทางเจ้าบ้านมากไปหน่อย

ทั้งนี้การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 38 กำหนดฟาดแข้งในเวลา 18.00 น. โดยมี พล.ร.อ.ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ เดินทางมาเป็นประธาน และหากไม่อาจหาผู้ชนะในเวลา 90 นาทีได้ จะไม่มีการต่อเวลา แต่จะใช้การเตะลูกโทษที่จุดโทษหาผู้ชนะทันที

แหล่งข่าว :: http://www.komchadluek