รู้จักสาวน้อยมมหัศจรรย์เจ้าของฉายา"ตบสนั่นลั่นทุ่ง" อัจฉราพร คงยศ

รู้จักสาวน้อยมมหัศจรรย์เจ้าของฉายา\"ตบสนั่นลั่นทุ่ง\" อัจฉราพร คงยศ


ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าวงการวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้สร้างความสุขให้กับคนไทยไม่น้อย กวาดแชมป์มาหลายรายการ ทำให้อันดับโลกเขยิบขึ้น ทุกวันนี้หลายคนรู้จักชื่อของ น้องเพียว อัจฉราพร คงยศ นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย วัย 21 ปี ที่มีลูกเสิร์ฟและพลังการตบที่หนักหน่วง เล่นบอลหัวเสาได้เด็ดขาด พร้อมที่จะขึ้นมาทาบรัศมีรุ่นพี่ทีมชาติได้อย่างสมภาคภูมิ

ล่าสุด สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ประกาศอันดับผู้เล่นแต่ละตำแหน่งที่โดดเด่นในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2016 ทั้ง 3 สนาม ปรากฏว่าน้องเพียวทำไปแล้วถึง 83 คะแนน โดยเป็นการตบทำแต้ม 72 ครั้ง บล็อก 5 ครั้ง และเสิร์ฟได้แต้มอีก 6 ครั้ง รั้งอยู่ในอันดับที่ 5 

ย้อนอดีตกลับไป อัจฉราพรเป็นขุมกำลังหลักของทีมนักตบสาวไทยมาโดยตลอด จากเด็กใต้นัยน์ตาคม ผิวสีน้ำผึ้ง จาก อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ด้วยบุคลิกเป็นคนง่ายๆ สบายๆ และชอบเอนเตอร์เทนคนอื่น หากใครอยู่ใกล้เธอก็มักจะได้ยินเสียงหัวเราะตลอดเวลา ทำให้เธอเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

น้องเพียวเป็นเด็กที่มีความกตัญญูและสู้ชีวิตอย่างมาก เด็กสาววัยแค่ 20 ต้นๆ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบ ฐานะทางบ้านปานกลาง ทำให้ เพียว ต้องหาเงินช่วยทางบ้านตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาเธอเริ่มหัดเล่นวอลเลย์บอลที่โรงเรียนบ้านขอนหาด เนื่องจากคุณครูเห็นแววว่าเด็กคนนี้น่าจะเอาดีทางด้านกีฬาชนิดนี้ได้  ตอนนั้นหุ่นหนูผอมๆ สูงๆ ครูสมยศรวมทั้งอาจารย์ท่านอื่นเห็นว่าน่าจะมาเอาดีทางกีฬาวอลเลย์บอลได้ เพราะที่โรงเรียนสนับสนุนกีฬาชนิดนี้ แต่ว่าบ้านหนูอยู่ไกล เลยต้องมาอยู่ประจำที่โรงเรียน ยอมรับว่าคิดถึงบ้านมาก ช่วงแรกๆ นั้นคุณคูรจะพาไปแข่งกับโรงเรียนอื่น ที่ต่างอำเภอบ้าง ระดับจังหวัดบ้าง มีแพ้บ้างชนะบ้างตามประสา แต่ถ้าชนะก็จะได้เงินรางวัล ก็จะเก็บส่วนหนึ่งแบ่งไว้ให้พ่อแม่ เพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระทางบ้าน หลังจากเรียนจบชั้น ป.6 หนูก็ย้ายมาอยู่โรงเรียนบดินทรเดชา เป็นเด็กโควตานักกีฬาของโรงเรียน กินนอนอยู่ที่นี่ และเป็นการจากบ้านเกิดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาอยู่กรุงเทพฯ อยู่เองหากินเอง ต้องปรับตัวทุกอย่าง จากเด็กบ้านนอกยอมรับว่าตอนแรกๆ เข้ากับเพื่อนบางคนไม่ได้ แต่สุดท้ายก็พยายามเอาความดีชนะพวกเขา จนเพื่อนๆ ยอมรับเจ้าของตำแหน่งเสิร์ฟยอดเยี่ยม รายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2016 กล่าว

รู้จักสาวน้อยมมหัศจรรย์เจ้าของฉายา\"ตบสนั่นลั่นทุ่ง\" อัจฉราพร คงยศ


ชีวิตของสาวน้อยต่างจังหวัดที่ต้องจากอกพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก ชีวิตวัยรุ่นขาดหายไป ต้องรับผิดชอบเกินอายุ แต่เธอมองโลกในแง่ดี โดยมองว่าควรพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส


“หนูไม่เคยมองว่าการซ้อมวอลเลย์บอลเป็นงานหนัก บางครั้งซ้อมตั้งแต่เช้าจรดเย็น เห็นเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวไหน หนูก็ไม่ได้ไป เพื่อนบางคนไม่เข้าใจ แต่สำหรับหนูกลับมองว่าวอลเลย์บอลให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโอกาสในการเข้าโรงเรียน การประสบความสำเร็จและชื่อเสียง หนูต้องขอบคุณลูกกลมๆ ใบนี้ที่ทำให้หนูมีโอกาสมากกว่าเด็กคนอื่น หากไม่มีวอลเลย์ก็จะไม่มีอัจฉราพรในวันนี้ ยอมรับบางครั้งมีท้อเหมือนกัน ท้อได้แต่ไม่มีคำว่าถอยในสารบบของหนู”


เรื่องของฉายา “ตบสนั่นลั่นทุ่ง” มีความเป็นมาอย่างไร เพียวเฉลยว่า พี่ๆ ในทีมชาติเป็นคนตั้งฉายานี้เพราะเห็นเธอเป็นคนต่างจังหวัด แถวบ้านเป็นทุ่งนา และเวลากระโดดขึ้นตบลูกดูหนักหน่วงและหนักแน่น มีเสียงที่ดังสนั่นดี 


สำหรับเรื่องของความรัก  สาวเมืองนครฯ มองว่า ความรักครอบครัวต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด เพราะมองว่าความรักของพ่อแม่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต


“ตอนนี้หนูโสด ไม่ได้คบใคร เพราะไม่มีเวลาให้ ใครเป็นแฟนหนูคงทนไม่ได้ เพราะเป็นคนไม่มีเวลา แค่เอาเวลาไปซ้อมวอลเลย์บอลก็แทบจะไม่ได้คิดเรื่องความรัก หนูมองว่าสถาบันครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เยาวชนของชาติต้องรู้จักรักพ่อแม่และรักตัวเองก่อน หากคุณไม่รักตัวเองแล้วคุณจะไปรักใครได้ยังไง ยิ่งประเทศชาติยิ่งแล้วใหญ่ต้องการความรักของคนในชาติอย่างมาก”


อยากให้น้องๆ เยาวชนของชาติ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาก็ได้ แต่ที่สำคัญต้องมีวินัยในสิ่งที่ทำ


“การเป็นนักกีฬาวอลเลย์ได้เดินทางไปหลายประเทศ ทำให้เห็นความหลากหลายของผู้คนแต่ละชาติ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ยอมรับว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวินัยยอดเยี่ยม อยากให้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้นบ้าง เพราะระเบียบวินัยจะช่วยให้ประเทศพัฒนาได้อย่างยั่งยืน”


หลักการใช้ชีวิตไม่มีอะไรซับซ้อน นักตบสาวมองว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อยากให้คนไทยคิดอย่างนี้ บ้านเมืองก็จะสงบสุข


“คนเราถ้าพยายามให้ถึงที่สุด ผลสำเร็จก็จะตามมา หนูยึดหลักทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะไม่รู้ว่าวันหน้าจะเป็นอย่างไร สำหรับเป้าหมายในอนาคตหนูอยากติดทีมชาติไทยไปเล่นโอลิมปิกเกมส์สักครั้งในชีวิต เราพลาดอดไปเล่นริโอเกมส์ แต่เราก็ไม่ท้อถอย อีก 4 ปีข้างหน้ายังมี ความฝันของหนูและรุ่นพี่ทีมชาติ อยากเห็นธงไทยไปโบกสะบัดในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า สาวไทยเก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก”


หลังจากได้พูดคุยกับสาวน้อยนักตบทำให้ได้แง่คิดดีๆ หลายอย่าง ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต วิธีคิด และการไม่ยอมย่อท้อต่ออุปสรรค เป็นแบบอย่างของเยาวชนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์