รองจ๊ะ รับเห็นใจ ก้อย อยากให้คุยกัน เผยสมาคมอ้าแขนรับ

รองจ๊ะ รับเห็นใจ ก้อย อยากให้คุยกัน เผยสมาคมอ้าแขนรับ

"รองจ๊ะ" รับเห็นใจ "ก้อย" อยากให้คุยกัน เผยสมาคมอ้าแขนรับหากอยากรับใช้ชาติอีก


จากกรณี "ก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย โพสข้อความผ่านโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คว่าถูก "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวเกาหลีใต้ ลงโทษเกินกว่าเหตุโดยการต่อยเข้าที่ใบหน้าและบริเวณท้อง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม 

ต่อ มาสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทยฯตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง

นำโดย "เสธ.โต" พล.ร.อ. สุรวุฒิ มหารมณ์ อดีตประธานคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย ในฐานะประธานพิจารณาข้อเท็จจริง ดร.สมคิด ปิ่นทอง ในฐานะรองประธาน, นายปรีชา ต่อตระกูล, นายเลิศ นิตย์ ธีรานนท์ และ นายณณัฏฐ์  เขมโสภต กรรมการ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ทั้งนัดหมายให้ "ก้อย" รุ่งระวี เข้าให้ข้อมูลที่ศูนย์ฝึกซ้อมเทควันโด ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แต่เมื่อถึงวันเวลาที่กำหนดกับไม่เดินทางมาตามนัดหมาย

ล่า สุด "รองจ๊ะ"ดร.สมคิด ปิ่นทอง อดีตรองผู้ว่าฯการ กกท. ในฐานะรองประธาน ออกมาแสดงความเป็นห่วงน้องก้อยว่า

 เดิมทีแต่แรก คณะกรรมการทั้งหมดไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง เพียงแต่ตั้งขึ้นมาเพื่อพูดคุยตกลงทำความเข้าใจกับ น้องก้อยเท่านั้น  โดยไม่มีแนวคิดในการจะใช้กระบวนการสอบสวนเพื่อเค้นเอาความจริงจากเด็ก แต่เราต้องการพูดคุยในฐานะผู้ใหญ่ในวงการกีฬาและ สมาคมเทควันโดฯ ที่รู้สึกสงสารและเห็นใจน้องก้อย ซึ่งกำลังโดนสังคมกดดันอย่างหนัก เราจึงต้องการที่ทางลงและช่วยหาทางออกให้กับน้องก้อย

"ยอม รับว่าเมื่อวานนี้ที่ "น้องก้อย" ไม่มาถือว่าเสียโอกาสอย่างมาก เราทุกคนอยากพูดคุยทำความเข้าใจกับน้องก้อย เหมือนผู้ปกครองคุยกับบุตรหลาน จะได้ช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุด ที่สำคัญจะได้ยุติเรื่องดังกล่าวไว้เพียงเท่านี้ เพราะโค้ชเช ก็เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว เพื่อมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทยเช่นเดิม ดังนั้นทุกคนจึงมีแนวคิดเหมือนไปทางเดียวกันว่า จะนัดหมายให้ โค้ชเช กับ น้องก้อยได้ทานข้าวร่วมกัน เมื่อทั้งคู่ได้ทานข้าวกัน ได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน มั่นใจว่าเรื่องร้ายก็จะกลับกลายเป็นเรื่องที่ดี แต่แนวทางนี้ต้องยุติไปก่อน เนื่องจากน้องก้อยไม่ได้เดินทางมา ปัญหาคงต้องลอยอยู่ต่อไป แต่เชื่อว่าอนาคตจะเดินทางไปในทิศทางที่ดี"

อดีต รองผู้ว่าฯการกกท.เผยอีกว่า เรื่องนี้ถ้าปล่อยไปโดยที่ไม่รีบดำเนินการแก้ไข เชื่อว่าจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

ทั้งวงการกีฬาของไทย สมาคมเทควันโด โค้ชเช และ น้องก้อย ทุกอย่างจะออกไปในด้านลบ ทำให้ความน่าเชื่อถือในวงการเทควันโด เกิดความมัวหมอง ดังนั้นต้องช่วยกันแก้ไขปรับปรุง พร้อมทั้งวางมาตรการให้การป้องกันให้ดียิ่งขึ้น  เพราะหากปล่อยไปแบบไม่แก้ไข อนาคตคงต้องเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นอีก

ดร.สม คิด เผยต่อว่า  หลังจากที่น้องก้อยไม่เดินทางมาพบคณะกรรมการฯ  ซึ่งเราคงไม่กำหนดวันเวลาเพื่อเรียก น้องก้อย ให้มาพบใหม่

 เพราะหากเรียกไปยังไงแล้ว เชื่อว่าน้องก้อยก็คงไม่เดินทางมาพบ เพียงแต่ หากวันใดในอนาคต น้อยก้อย เกิดความสบายใจในเรื่องนี้มากขึ้น พร้อมจะพูดคุย ให้เดินทางมาที่สมาคมได้ทันที เพื่อพูดคุยและทำความเข้าใจกันและกัน สมาคมฯพร้อมเปิดกว้างรับน้องก้อย ที่สำคัญคุณยังคงเป็นนักกีฬาเทควันโดเหมือนเดิม เพราะสมาคมไม่มีอำนาจไปไล่คนออก เพราะหากพิจารณาให้ดี เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เป็นเพียงความเข้าใจผิด ความไม่เข้าใจกันมากกว่า แก้ไขให้ดีขึ้นได้ พร้อมเมื่อไหร่เดินเข้ามา แน่นอนอาจจะมีการประหม่าบ้างเล็กน้อย ด้วยสายตาที่มาจับต้อง แต่เชื่อเถอะว่า สมาคมยังเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของน้องก้อย และเพื่อนๆนักกีฬาทุกคนพร้อมเปิดใจรับ ที่สำคัญ สังคมส่วนใหญ่พร้อมให้อภัยน้องก้อยเช่นกัน และเมื่อนั้นแนวทางเรื่องการให้ทั้ง โค้ชเช และน้องก้อย ได้ทานข้าวด้วยกัน และพูดคุยปรับความเข้าใจกันอาจจะได้สานต่อ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ ทัพกีฬาเทควันโดเดินหน้าทำผลงานอย่างต่อเนื่อง 

"รอง จ๊ะ" เผยอีกว่า ของให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักกีฬาทุกคนว่า เมื่อใดที่เรื่องราวทำนองนี้ ทั้งผิดใจกับโค้ช หรือเพื่อนๆนักกีฬา สิ่งแรกที่ต้องทำคือ กำจัดอารมณ์โมโหออกไปให้ได้ อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบทันควัน ปล่อยให้เรื่องผ่านไปสัก 2-3 วัน เชื่อว่าน่าจะทบทวนได้เยอะ และป้องกันเหตุปานปลายได้อีกด้วย แต่ถ้ายังไม่คลายสงสัยหรือยังโกรธอยู่ ให้ปรึกษาผู้ใหญ่ที่ไว้ใจที่สุด อีกทั้งผู้ใหญ่ที่มาให้คำแนะนำต้องเปิดใจกว้างมากๆ ไม่ใช้ให้ท้ายอย่างที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการนำคลิปมาเปิดย้อนหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จุดนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อวงการกีฬาเทควันโดฯ ไทย แต่กลับทำร้ายวงการกีฬาไทย ที่สำคัญ เรื่องจะกลับมาพันนักกีฬาเสียเอง ถ้าไม่คิดช่วยก็ขอให้หยุดการกระทำที่เป็นผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นหากหวังดีต้องช่วยกันหาทางแก้ไข ไม่ใช้มาเพิ่มปัญหา เด็กยังมีอนาคตในทีมชาติอยู่ เช่นกัน หากน้องก้อย พร้อมกับเทควันโด กลับมาเล่นเหมือนเดิมได้ ถ้ามีฝีเท้าดี กลับติดทีมชาติได้อีกอย่างแน่นอน 

"กีฬา เทควันโด กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก แต่เกิดเรื่องทำให้ภาพวงการเทควันโด ติดลบ ปล่อยไว้นานไม่ได้ ไม่เป็นผลดี เพราะผลงานในระดับประเทศ และระดับนานาชาติกำลังเดินหน้าไปด้วยดี ดังนั้นทุกฝ่ายต้องให้อภัยกันและกัน ตอนนี้น้องก้อยยังไม่สบายใจ ปล่อยเด็กได้มีเวลาคิดทบทวนกับตัวเองสักครั้งน่าจะดีขึ้น เมื่อพร้อมเดินทางมาหาสมาคม เราพร้อมอ้าแขนรับอย่างอบอุ่น ส่วนเรื่องเด็กจะคิดสั้นนั้น ไม่น่าเป็นไปได้ กีฬาเทควันโด สอนให้เด็กแข็งแกร่ง อีกทั้งการทำโทษของโค้ชที่ว่าแรง หากพิจารณากันให้ละเอียด เด็กฝึกซ้อมกันเตะต่อยกันแรงกว่านี้ ยิ่งเวลาแข่งสู้กับสุดฝีมือ อยากแนะนำให้น้องก้อยมาสานฝันตัวเองต่อ และเชื่อว่า หากน้องก้อยผ่านอุปสรรค์เหตุการณ์ร้ายๆช่วงนี้ไปได้ เธอจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ"

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์