มุ้ยเปรี้ยงกิเลนตีฉลามชล1-1นำฝูงต่อ

กินกันไม่ลง!เมืองทองไล่เจ๊าฉลามชล 1-1

นัดประวัติศาสตร์ลูกหนังไทยคงต้องจารึกเฉพาะครึ่งแรกเท่านั้นแล้ว หลังจากเมืองทองยูไนเต็ดไล่ตีเจ๊าฉลามชลในครึ่งแรก 1-1 ส่วนครึ่งหลังแทบไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากการฟาล์วและถ่วงเวลา จบเกมด้วยการแบ่งแต้มกันไปทีมละแต้ม ต้องลุ้นกันต่อในอีก 3 นัดที่เหลือต่อไป

ไทย พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2552

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 1-1 ชลบุรี เอฟซี

ประตู : 0-1 เจษฎากร เหมแดง น.4, 1-1 ธีรศิลป์ แดงดา น.44

รายงานสดติดขอบจอโดย : Santiago

เกมประวัติศาสตร์ลูกหนังไทย แฟนบอลกว่า 15,000 ชีวิตหลั่งไหลสู่สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานีเพื่อชมเกมชี้ชะตาแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกระหว่างกิเลนผยองเมือง ทองฯยูไนเต็ด จ่าฝูง กับฉลามชล ชลบุรีเอฟซี รองจ่าฝูงที่ตามอยู่ 1 แต้ม โดยทั้งสองทีมส่งผู้เล่นชุดใหญ่เต็มสูบ

ก่อนเกมมีการร่วมยืนตรงเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อแสดงความจงรัก ภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

ครึ่งแรก

ชลบุรีทีมเยือนบุกใส่ตั้งแต่นาทีแรก หัตถพร สุวรรณ ได้เปิดจากริมเส้นเข้ามา ผู้เล่นเมืองทองสกัดบอลไม่ขาด ไมเคิล เบิร์น ฉกบอลไปยิง แต่มุมแคบไปหน่อย กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายด่านกิเลนผยองล้มตัวรับไว้ได้สบาย

นาทีต่อมา เมืองทองฯได้เตะมุม กองหลังชลบุรี เบนี่ โหม่งสกัดไม่ดี มาเข้าหัวธีรเทพ วิโณทัย ที่อยู่ยืนอยู่เสาสองพอดี แต่หนุ่มลีซอกลับโขกไม่ตรงกรอบ ออกหลังไปเอง

แต่กลายเป็นฉลามชลทีมเยือนที่ได้เฮก่อน จากลูกเซตพีซอันลือชื่อ โดยครั้งนี้เป็นลูกเตะมุม อาทิตย์ สุนธรพิธ เปิดเตะมุมจากด้านขวามาเข้าหัวเจษฎากร เหมแดง แบ็คขวาที่ยืนอยู่เสาสองแบบไร้ตัวประกบ โขกสวนตัวกวิน ธรรมสัจจนานันท์เข้าไป ชลบุรีนำแล้ว 1-0

พอเสียประตู เมืองทองก็ดูระส่ำไปหมด เกมรุกบอด แถมเกมรับยังรั่วโดนเจาะทั้งซ้ายขวา เกือบโดนไปหลายจังหวะเหมือนกัน

หลังผ่านไป 10 นาที เมืองทองฯเริ่มตั้งตัวได้จึงพยายามขึงเกมรุกไว้ในแดนชลบุรี ส่วนทีมเยือนก็อาศัยจังหวะสวนกลับ แต่ยังไม่แน่นอนเท่าไหร่ แถมยังมีการฟาล์วกันประปรายในช่วงนี้

นาทีที่ 17 เมืองทองฯเกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกเตะมุมบ้าง หลังจากกองหลังชลบุรีเคลียร์ไม่ขาด ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์เก็บตกได้ แตะเบาๆมาให้กับซามาโฮโร่ ยาย่า แต่เหมือนว่ายาย่าจะตกใจบอลไปหน่อย จึงซัดระยะเผาขนข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 27 เมืองทองฯขโมยบอลจากเท้าอดุลย์ หละโสะ มิดฟิลด์ฉลามชลได้ มุสซา ซิลล่า มิดฟิลด์กินีมีพื้นที่ยิงจึงพยายามซัดให้เข้าเสาแรก โชคร้ายไม่ตรงกรอบ อีกสองนาทีต่อมา เจษฎา จิตสวัสดิ์ เติมขึ้นมาจ่ายทะลุช่องให้ดาโญ่ เซียก้า ดาวซัลโวเมืองทองฯได้ซัดจากนอกกรอบ แต่ตรงตัวสินทวีชัยที่ยืนถูกตำแหน่งพอดี

นาที 33 ผู้เล่นเมืองทองฯพยายามฟ้องเอาจุดโทษจากจังหวะที่เกียรติประวุฒิ สายแวววิ่งไม่มีบอลตีคู่กับธีรศิลป์ แดงดา เจ้าคาร์ไปรั้งอดีตเพื่อนร่วมทีมแมนฯซิตี้เล็กน้อยจนล้มลงไปในกรอบเขตโทษ แต่เปาอรรถกร เวชการเห็นว่าเจ้ามุ้ยล้มง่ายไป ไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ

นาที 42 ชลบุรีเกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะโต้กลับเร็ว หัตฐพร สุวรรณ โยนข้ามฟากตูมเดียวให้กับอาทิตย์ สุนธรพิธ ยืนโล่งคนเดียวทางกราบซ้าย อาทิตย์มีพื้นทีมีเวลา จึงตั้งป้อมยิง แต่บอลหลุดออกเสาแรกอย่างน่าเสียดายสุดๆ

นาทีที่ 44 ความพยายามของเจ้าบ้านที่เดินเกมรุกมาตลอดก็เป็นผล เริ่มจากดาโญ่ เซียก้า ได้ครองบอลในกรอบเขตโทษ แล้วจ่ายให้ธีรศิลป์ แดงดา พอเจ้ามุ้ยได้บอลก็พลิกด้วยขวาหนีสุทธินันท์ พุกหอมทันที แล้วซัดด้วยซ้าย ตุงตาข่ายไม่มีเหลือชนิดที่สินทวีชัยได้แต่ป้องกันด้วยสายตา เมืองทองฯตามตีเสมอได้ 1-1 และความได้เปรียบของทีมเยือนตลอดครึ่งแรกกลับมาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

ช่วงทดเจ็บ 3 นาทีที่เหลืออยู่ ไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบครึ่งแรกด้วยผลเสมอ 1-1 และครี่งหลังเริ่มต้นช้าไปประมาณ 30 นาทีเพราะช่วงพักครึ่งมีเหตุการณ์ชุลมุนในหมู่กองเชียร์ชลบุรี และต้องใช้เวลาเคลียร์สถานการณ์เล็กน้อย

ครึ่งหลัง

ครึ่งหลัง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือฉลามชลตัดสินใจเปลี่ยนเกียรติประวุฒิ สายแวว กองหลังร่างโย่งที่มีอาการบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกออกแล้วส่งมารุยาม่า ปราการหลังแดนซามูไรลงมาแทน

นาทีที่ 49 กองหลังชลบุรีสกัดบอลไม่ขาดอีกแล้ว ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ เก็บตกได้แล้วโหม่งชงมาให้กับธีรเทพ วิโณทัย แต่หนุ่มลีซอโหม่งเช็ดตามน้ำระยะ 5 หลาไปเข้าซองสินทวีชัย หทัยรัตนกุลที่ยืนถูกที่ถูกเวลาพอดี

นาทีต่อมา ธีรศิลป์ แดงดา ปล่อยบอลลอดขา ให้ซามาโฮโร่ ยาย่าที่ยืนอยู่คนเดียวได้ซัดด้วยขวา แต่เนื่องจากดาวยิงไอวอรี่โคสต์ถนัดซ้ายจึงตั้งป้อมซัลโวลูกนี้ข้ามคานไปไกล ทีเดียว

นาที 58 ชลบุรีเติมความสดเปลี่ยนเอาเอกพันธ์ อินทะเสนลงมาแทนไมเคิล เบิร์น หัวหอกเลือดมังกรแดง นาทีต่อมา เมืองทองฯเติมความจี๊ดจ๊าดริมเส้นด้วยการส่งวิศรุต พันนาสี ลงมาลากเลื้อยแทนพิชิตพงษ์ เฉยฉิว ห้องเครื่องประจำทีม

นาที 64 อาทิตย์ สุนธรพิธพลิกหลอกจังหวะแล้วเปิดเข้าเขตโทษ บอลลอยโด่ง กวิน ธรรมสัจจานันท์จึงออกมาชกบอล แต่ชกไม่ดีมาเข้าทางอดุลย์ หละโสะ แข้งชลบุรีพยายามวอลเล่ย์สวนกลับแต่ทำได้ไม่ดีพอ จึงไม่ได้ประตู นาทีต่อมา ชลบุรีเติมแนวรุกโดยการส่งคนึง บุราณสุข ลงไปแทนเจษฎากร เหมแดง ที่วันนี้วิ่งมาทั้งเกม

นาที 67 อาทิตย์ สุนธรพิธ จอมปั่นฟรีคิกชลบุรี ซัดฟรีคิกระยะ 35 หลา บอลโค้งออกหลังแต่ก็เฉี่ยวสามเหลี่ยมไปนิดเดียวเหมือนกัน

จากนั้นเกมเริ่มผ่อนและมีการฟาล์วกันบ่อยครั้ง ทั้งสองทีมจึงต่อเกมกันไม่ค่อยติด และไม่มีอะไรหวือหวามาก และนาทีที่ 80 ชนานันท์ ป้อมบุปผา มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 17 ปีก็ลงมาแทนซามาโฮโร่ ยาย่า แข้งดังกิเลนผยอง

ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ และฟาล์วกันบ่อยจนผู้ตัดสินอรรถกร เวชการต้องเป่าซะจนปอดแห้ง ยกเว้นช่วงทดเจ็บที่เปิดเกมแลกกันให้หายใจไม่คล่องบ้าง แต่จบเกมก็เสมอกันไป 1-1 แบบเกือบหลับ แบ่งกันไปทีมละแต้ม เมืองทองฯรักษาความได้เปรียบ 1 แต้มไว้ได้เช่นเคย ต้องลุ้นกันต่อไปในอีก 3 นัดที่เหลือ

วาทะโค้ช 
อรรถพล บุษปาคม กุนซือเมืองทองฯ ยูไนเต็ด - วันนี้เราเสียประตูกันเร็วตั้งแต่ 4 นาทีแรกของเกมเท่านั้น เพราะสมาธิในเกมรับไม่ดี อีกอย่างครึ่งแรกเกมแดนกลางเราเก็บบอลกันไม่ได้ ทำให้การที่จะเชื่อมต่อเกมจากกลางไปหน้าไม่มีประสิทธิภาพพอ ครึ่งหลังปรับก็ดีขึ้น เรามีโอกาสเยอะขึ้น แต่จังหวะจบสกอร์ก็ยังไม่ดีพอ เลยไม่ได้ประตูนำ 1 แต้มถือว่าโอเค แต่ก็เสียดายที่ไม่ได้ 3 แต้ม 3 นัดที่เหลือขอวางเป้าชนะรวด เพื่อพาทีมเป็นแชมป์ให้ได้ 

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม 

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6, เจษฎา จิตสวัสดิ์ 6, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ 6, หัตฐพร สุวรรณ 6, ธีรศิลป์ แดงดา 7, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ 6, ธีรเทพ วิโนทัย 6, มูสซา ซิลล่า 6, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 6 (วิศรุต พันนาสี 6), ดานโก้ เซียก้า 6, ซูมาโฮโร่ ยาย่า 6 (ชยานันน์ ป้อมบุปผา 6) 

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 6, ณัฐพงษ์ สมณะ 6, เกียรติประวุฒิ สายแวว 6  (มารุยาม่า 6), สุทธินันท์ พุกหอม 6, อาทิตย์ สุนทรพิธ  6, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ 6, อดุลย์ หละโสะ 6.5, ชลทิตย์ จันทคาม 6, เจษฎากร เหมแดง 6  (คะนึง บุราณสุข 5.5), ไมเคิ่ล เบิร์น  6 (เอกพันธ์ อินทะเสน 6), มาร์ค เบนเน่ 5.5

แมนออฟเดอะแมตช์ : ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกเมืองทองฯ ยูไนเต็ด
















ผู้ที่ทำตัวลึกลับมาโดยตลอด (เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครจะมาตัดสิน) ภาพที่เห็นคือผู้ตัดสินคนนี้นี่เองงงงงงงง



แฟนบอล : ท่านประธานนนนนนนนนนน !!!
ท่านประธาน : วันนี้เสมอ 5-5 ละกัน วิน วิน ถ้าชนะเดี๋ยวเค้าจะหาว่ากรรมการนามสกุล ณ เมืองทองอีก 








ระหว่างเบื่อกองเชียร์ที่ทำตัวน่าเบื่อครับ ไม่รู้จะสร้างเรื่องทำไม สร้างภาพดีกว่า ใช่ปะ??




 







-------------------

ที่มา
http://www.lentee.com
http://www.siamsport.co.th
เครดิตรูปท่าน aeae90 ณ เมืองทอง www.mtufc.net                                      

---------------------------------

การท่าเรือไทย เอฟซี 0-1  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 

ที่สนามแพท สเตเดี้ยม สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง เปิดบ้านพบกับ จอมช็อต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทีมอันดับ 10 โดยเกมนัดนี้เจ้าถิ่นขาดนักเตะติดโทษแบน สมเจตน์ เกษารัตน์, พงษ์พิพัฒน์ คำนวณ, อรรถพล วงศ์สุนทร และ พิพัฒน์ต้นกันยา ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนฝั่งทีมเยือนจัดทัพชุดใหญ่นำโดย กัปตันทีม อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ณรงค์ชัยวชิรบาล, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค, อภิภู สุนทรพนาเวศ
 

เริ่มครึ่งแรก การท่าเรือไทย เดินเกมรุกใส่ทันที นง10 ก็เกือบจะได้ประตูขึ้นนำก่อน เมื่อ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวามากลางประตู เอ็นวานโด้ โหม่งไม่โดน บอลผ่านมาเสาสองถึง เกียรติเจริญ เรืองปาน ที่ยืนอยู่โล่งๆ ไม่ทันระวังโหม่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
 

น.12 การไฟฟ้าฯ ก็มีโอกาสบ้างเมื่อ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ปั้มบอลกับ จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ กลางสนามได้บอลหลุดโต้ขึ้นมากกระชากมาถึงกรอบ 18 หลาตัดสินใจยิงบิลพุ่งตรงตัว อุลริช โกลของท่าเรือไทยต้องออกแรงปัด ณรงค์ชัย วชิรบาล จะเข้ามาซ้ำแต่ มอยซี่ เคลียร์ออกไปได้
 

น.25 การไฟฟ้าฯ โต้กลับขึ้นมาทางกราบขวาจาก พลวุฒิ ดอนจุ้ย เปิดบอลเข้ากลางมาที่บริเวณหัวกะโหลกให้ รณงค์ชัย วชิรบาล ตั้งป้อมยิงบอลออกเสาแรกไปนิดเดียว
 

น.35 จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ กองหน้าของท่าเรือไทย เปิดบอลจากกราบขวามาถึงเสาสองเข้าหัว เกียรติเจริญ เรืองปาน หวิดบอลออกเสาไปอย่างน่าเสียดาย ชนิด แซมมวล ผู้รักษาประตูของการไฟฟ้าฯ ได้แต่เหลียวมอง
 

น.40 สุริยา ดอมไธสง ก็มีจังหวะส่องบริเวณกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย แต่บอลไม่แรงพอ อุลริช ผู้รักษาประตูของการท่าเรือฯ รับเข้าซองสบาย นาทีต่อมา รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ ของการท่าเรือไทย ก็รับเหลืองแรกของเกมเมื่อไปสอย ธีราธร บุญมาทัน จากนั้น ณรงค์ชัย วชิรบาล ก็เปิดฟรีคิกจากจังหวะนี้ไปเสาบอลบอลผ่านหน้า พลวุฒิ ดอนจุ้ย ที่เข้าไปถึงบอลไปอย่างน่าเสียดาย
 

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ก็รับใบเหลืองไปอีกคน เมื่อกระชากบอลในจังหวะโต้กลับขึ้นมากราซ้าย แต่บอลห่างตัวไปจึงสไลน์เข้าใส่ เกียรติเจริญ เรืองปาน ที่เข้ามาเคลียร์บอลออกข้าง จบครึ่งแรก การท่าเรือไทย เสมอการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อยู่ 0-0
 

ครึ่งหลังเริ่มแค่นาทีเดียว การไฟฟ้าฯ ก็มีโอกาสทักทายก่อน เมื่อ ณรงค์ชัย วชิรบาล ซัดฟรีชีคิกระยะ 20 หลาฝั่งซ้าย แต่ไปเข้าซอง อุลริช ของการท่าเรือฯ น.48 โอกาสเป็นของการท่าเรือฯ บ้างเมื่อ เอ็นวานโก้ ได้โหม่งกลางประตูจากการเปิดเข้ามาจากริมเส้นฝั่งขวา แต่บอลไปเข้ามือ แซมมวล รับเอาไว้ได้ เกมส่วนใหญ่ตกเป็นของการท่าเรือไทย ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ โดยทางการไฟฟ้าฯ พยายามตั้งรับอย่างเหนียวแน่น รอจังหวะอาศัยการโต้กลับทิ้งบอลไปให้ สุริยา ดอมไธสง ที่ยืนค้ำอยู่คนเดียว
 

น.73 กองเชียร์ของการท่าเรือฯ ก็เงียบกริบเมื่อ เมนซ่า ของการไฟฟ้าฯ ได้บอลโต้กลับเร็วขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ถึงเส้นหลังก่อนเปิดเข้ามาจุดนัดพบจุดโทษ สุริยา สอดเข้ามาพอดี แปรด้วยเท้าขวาเข้าประตูไป แต่กรรมการยกธงเป็นล้ำหน้าเสียก่อน การท่าเรือฯ ยังคงเดินเกมรุกใส่อย่างหนัก น.82 ก็มีโอกาสงามอีกครั้ง เมื่อ เจษฎา ภู่เล็ก ตัดบอลโด่งมาเสาสองให้กับ ธีระวุฒิ สัมพันธ์ ที่สอดเข้ามาขวิดเต็มหัว แต่บอลพุ่งไปตัวตัว แซมมวล ที่ยืนถูกที่ถูกเวลารับเอาไว้ได้
 

น.40 การไฟฟ้าฯ ก็มีโอกาสปั่นฟรีคิกอีกหนระยะ 20 หลา บริเวณหัวกะโหลก เยื้องไปทางขวาบอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว
 

น.88 กองเชียร์การไฟฟ้าฯ ได้เฮสนั่นเมื่อ ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ได้บอลทางริมเส้นซ้ายลากบอลมาถึงกรอบเขตโทษก่อนกระชากเข้าหาประตู ตัดสินใจยิงด้วยเท้าขวา อุลริช ต้องออกแรงเซฟ แต่บอลปลิ้นไปทางเสาสองเข้ามา สุริยา ดอมไธสง ที่วางเขามาซ้ำไม่เหลือซาก การไฟฟ้าฯ ขึ้นนำ 1-0 เวลาที่เหลือ การท่าเรือฯ พยายามเปิดเกมรุกใส่อย่างหนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก จบเกม การท่าเรือฯ พ่าย การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค ไปหวิดหวุด 0-1

 

วาทะโค้ช 

สะสม พบประเสริฐ ของการท่าเรือไทย เอฟซี - วันนี้ทุกคนเล่นกันได้แย่มากหรือจะเรียกว่าห่วยแตกเลยก็ได้ ถือว่าเป็นเกมที่เล่นได้แย่มากๆ ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาเลยทีเดียว แต่อย่างไรผมขอขอบคุณแฟนบอลของทีมทุกคน ที่คอยสนับสนุนให้เป็นกำลังใจทีมการท่าเรือไทยมาตลอด ในทุกสถานการณ์ซึ่งเราก็ต้องพยายามกันต่อไป 

ทองสุข สัมปหังสิต ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค - โชคดีที่วันนี้สามารถเก็บสามแต้มกลับออกไปได้ เพราะตอนแรกคิดว่าจะขอแต้มเดียว ซึ่งขอยกความดีให้กับลูกทีมทุกคนที่ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ จนได้รับชัยชนะในเกมสำคัญเช่นนี้ขอบคุณแฟนบอลการไฟฟ้าฯ ทุกคนด้วยที่เดินทางมาให้กำลังใจเรา และเชื่อว่าขอแค่อีกแต้มเท่านั้น เราจะพ้นโซนอันตรายอย่างไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแน่นอน

 

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม 

การท่าเรือไทย เอฟซี : มุลเซ่ อุลริช 6, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ 6, ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร, 6 เจษฎา ภู่เล็ก 6, จีระวัฒน์ มัคคะรมย์ 6.5, เอ็ดวานโด้ 6 (นิรุตน์ คำสวัสดิ์  - ), อาริฟ เปาะจิ 5 ( ธีระวุฒิ สัมพันธ์ 6), เกียรติเจริญ เรืองปาน 6, อิทธิพล นนท์ศิริ 6, อาทร ใสงาม 6 ( เอกชัย สาเร 5),มูโดรู สวา มอยซี่ 6 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค : แซมมวล ป. คันนิ่งแฮม 6, ธีราธร บุญมาทัน 6.5 ( ชมพู แสงโพธิ  - ), ภานุพงศ์ วงศ์ษา 6.5, รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค 7, สุริยา ดอมไธสง 7.5, ณรงค์ชัย วชิรบาล 7 ( ศัตรูพ่าย ศรีณรงค์ 6.5), อภิเชษฐ์ พุฒตาล 6 ,อภิภู สุนทรพนาเวศ 6.5 ,ชัยวุฒิ วัฒนะ 6.5, เฮนรี่โจเอล 6.5, พลวุฒิ ดอนจุ้ย 6 (แมนซ่า 5

 

แมนออฟเดอะแมตช์ : สุริยา ดอมไธสง กองหน้าทีมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

-----------------------------------------------------