ฟุตซอลไทยเชือดอิหร่าน

ฟุตซอลไทยสร้างประวัติศาสตร์ เชือดอิหร่าน 32 เข้ารอบรองดิวิชั่น 1 พบอาเจนตินา

[color=#CC0000][b][size=6]ฟุตซอลไทยสร้างประวัติศาสตร์ เชือดอิหร่าน 32 เข้ารอบรองดิวิชั่น 1 พบอาเจนตินา[/size][/b][/color]

กฤษณะ การะเกตุ ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาและฟุตบอลสยาม รายวัน เกาะติดการแข่งขัน ฟุตซอล เคแอล เวิลด์ ไฟฟ์ 2008 จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเกมฟาดแข้งนัดสุดท้ายของรอบแรก ซึ่งขุนพลนักเตะทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ อิหร่าน

โดยทีมไทยได้เปรียบในนัดนี้ เมื่อทีมอิหร่านต้องเล่นถึง 2 นัดในวันเดียวกัน ช่วงเช้า อิหร่าน ลงเตะกับ จีน และสามารถเอาชนะไปได้ตามคาด 6-1 ทำให้มี 6 แต้มจาก 3 นัด ส่วนทีมไทย มี 4 แต้ม เกมนี้ถ้าไทยชนะได้ ก็จะเข้าไปเล่นรอบตัดเชือกระดับดิวิชั่น 1 ทันที แต่ถ้าแพ้ก็จะเป็นที่ 3 ของสาย ไปเล่นระดับดิวิชั่น 2 ต่อไป

เกมนี้ทีมไทยจัดทัพประกอบด้วย ประตู สุรพงษ์ ทมพา, กองหลัง ภานุวัฒน์ จันทา, กองกลาง เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง, เลิศชาย อิสราสุวิภากรณ์ และหน้า เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ทีมไทยยังคงวางแท็กติกเกมเหนียวแน่น ปล่อยให้ อิหร่าน บุกเข้าทำ น.3 โมฮัมเหม็ด ตาฮีรี่ ได้ซัด แต่ สุรพงษ์ ล้มตัวเอาขาสกัดไว้ได้

น.4 คาซาวารี่ ได้กดเต็มๆ แต่ สุรพงษ์ ยังหนึบบินปัดไว้ทัน ทีมไทยยังช่วยกันเล่นเกมรับได้ดี จนอิหร่านไม่มีโอกาสได้ยิง น.8 ซามัทเคท ยิงทางขวาบอลถากเสาออกหลัง น.10 อิหร่านมาอีกคราวนี้หลุดมาถึงหัวกระโหลก แต่ คาเซ็ม กลับยิงข้ามคาน

แข้งไทยนานครั้งจะได้โอกาสสวนกลับ น.13 เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ ได้บอลเร็วกระชากออกขวาแล้วยิงทันที แต่เข้ามือ มานเซอร์ โมราอี้ และจังหวะเดียวกันนั่นเอง อิหร่าน ออกบอลเร็วขึ้นทางขวาไปที่ ซามาเคท จ่ายลอดหว่างขา เลิศชาย ไปที่ว่างตรงกลางให้กับ วาฮิด ซามซี่ จัดการอัดด้วยขวาเต็มแรงไม่มีเหลือ อิหร่าน นำจนได้ 1-0

แต่ไทยยังเน้นเกมรับเช่นเดิม และสู้กันทุกคน จนอิหร่านเองก็เล่นไม่ได้ น.15 เกียรติยศ ได้ซัดอีกครั้ง แต่กิดขาประตูอิหร่าน จน น.18 ทีมไทยก็มาได้ประตูตีเสมออย่างเหลือเชื่อ เมื่อใช้การสวนกลับเร็วตามสูตร โดยขึ้นทางขวา เสริมพันธ์ คุ้มถิ่นแก้ว หลอกล่อกองหลังของ อิหร่าน จนหลง ก่อนจ่ายให้กับ อนุชา มั่นเจริญ ล็อคเข้าซ้ายแล้วซัดทันที บอลพุ่งเสียบข้างเสาสวยงามเป็น 1-1 ให้ทีมไทยตีเสมอในครึ่งแรก

เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมไทยยังวางแท็กติกเน้นรับเช่นเดิม แต่เพรสซิ่งเร็วขึ้น และ น.23 เท่านั้น กองเชียร์ไทยจำนวน 20 กว่าคนก็เฮกันลั่นเมื่อใช้การสวนกลับเร็ว เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ กระชากบอลเข้ากลางก่อนซัดด้วยขวาตรงจุดจุดโทษพอดี บอลพุ่งเสียบโคนเสาสุดปัญญาที่ โมราอี้ จะเซฟไว้ได้ไทยนำบ้าง 2-1

อิหร่านต้องเปิดเกมแลกหมัด แต่ก็เจอทีมไทยสู้ไม่ถอยเช่นกัน และกลับมาเล่นแบบ แมน ทู แทน ตัวต่อตัว เนื่องจากอิหร่านเริ่มหมดแรงจากการลงสนามตอนเช้ามา น.27 สุรพงษ์ ทมพา โดนชาร์จจนเจ็บ ต้องเปลี่ยนเอา ปริญญา ปั้นดี มาเฝ้าเสาแทน

น.30 ซามรี่ มีโอกาสซัด แต่ เลิศชาย ใช้ตัวเข้าบังบอลออกหลัง นาทีเดียวกันไทยสวน เลิศชาย กดไกล แต่ติดบล็อค ดานิสว่า ไทยสวนกลับทุกดอก น.31 เอกพงษ์ ได้ยิงก็ตรงตัวประตูอีก เข้าสู่ น.35 เกียรติยศ อีกครั้งกระชากทางขวา ก่อนยิงเรียดบอลพุ่งชนเสาสองอย่างน่าเสียดาย

อิหร่าน ตั้งหน้าตั้งาบดเข้าไส่อย่างหนัก ไทยก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน แต่ว่า น.35 ก็เป็นเรื่อง เมื่อ เกียรติยศ แฉล้มเขตร์ เกิดไปดึงเสื้อ ลาติฟี่ จึงโดนใบเหลืองใบที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ไทยต้องเล่น 3 คน และอิหร่านก็ฉวยโอกาสนี้ ซามรี่ จ่ายบอลจากซ้ายให้ ฮาซามซาดี้ จัดการยิงเน้นๆ 2-2 ไล่ขึ้นมา

น.38 อิหร่านมาได้จุดโทษจุดที่สอง ซามรี่ สังหาร แต่ ปริญญา เซฟไว้ได้ และ น.39 ไทยก็มาได้จุดโทษจุดที่สองบ้าง เพราะต่างฟาวล์กันครบ 5 ครั้ง ซึ่ง ภานุวัฒน์ จันทา จัดการยิงด้วยซ้ายเน้นๆ เข้าเสียบตาข่ายเป็น 3-2 ซึ่งเป็นประตูชัยให้ทีมไทยเอาชนะอิหร่านไปได้ 3-2 ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกนับจากที่เจอกันมา และส่งผลให้ทีมไทยเข้าตัดเชือกในฐานะทีมอันดับ 2 ของสาย บี เข้าไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1 ต่อไป โดยจะพบกับ อาร์เจนติน่า

ขอขอบคุณข่าวจาก liverpoolthailand.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์