พิภพฮีโร่!ซัดต่อเวลาเฉือนเมืองทองฯ2:1พาชลบุรีเถลิงแชมป์FAคัพ









พิภพ อ่อนโม้กัปตันทีมชลบุรี ยิงช่วงทดเจ็บชนะเมืองทองฯยูไนเต็ด2:1คว้าแชมป์ศึกฟุตบอล มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2010 คว้าสิทธิ์ไปลุย เอเอฟซี คัพ ปีหน้าสำเร็จ

 

 







ศึกฟุตบอล มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2010


นัดชิงชนะเลิศ



วัน อาทิตย์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2553




เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 1:2 ชลบุรี เอฟซี





สนาม : สนามศุภชลาศัย
ผู้ตัดสิน : สุระ ศรีอาจ
ถ่ายทอดสด : 16.00 น.(ช่อง7)
ผู้ทำประตู : [0-1]เทิดศักดิ์ ใจมั่น น.42, [1-1]ดัสกร ทองเหลา น.64, [1-2]พิภพ อ่อนโม้ น.116





     ศึกลูกหนังมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2010 คู่ชิงชนะเลิศวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย. 2553 ที่สนามศุภชลาศัย ระหว่าง กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก พบกับ ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 ไทยลีกซึ่งเงินรางวัลสำหรับแชมป์คือ 1.5 ล้านบาท จนถึงนัดชิงฯรณชัย รังสิโย กองหน้าเมืองทองฯนำเป็นดาวซัลโว 5 ประตู

     สำหรับสถิติการพบกันของทั้ง 2 ทีมที่ผ่านมา เมืองทองฯ ยูไนเต็ด มีสถิติที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง 4 ครั้งหลัง สุดที่พบกันในไทยลีก ทีมเมืองทองฯเอาชนะไปได้ 2 ครั้งและเสมออีก 2 ครั้ง ยังไม่เคยพลาดท่าให้ชลบุรีเลย โดยในไทยลีก ครั้งที่ 13 เลกแรก เมืองทองฯ ชนะ 5:2, เลกสอง เสมอ 1:1, ไทยลีก ครั้งที่ 14 เลก แรก เมืองทองฯ ชนะ 4:1, เลกสอง เสมอ 0:0

     ทีมชลบุรีเปิดตัวลงสนามด้วยการสวมเสื้อยืดหมายเลข12ทุกคน ที่จัดทำขึ้นพิเศษเพื่อแสดงว่าเว้นเสื้อหมายเลขนี้ไว้เพื่อแฟนบอลคือผู้เล่นคนที่12ก่อนจะขว้างแจกให้แฟนบอลบนอัฒจันทร์

ครึ่งแรก

     เปิดเกมในครึ่งแรกชลบุรีในชุดสีน้ำเงินเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน ส่วนเมืองทองฯอยู่ในเสื้อสีแดง

     แค่นาทีที่ 2 พิภพ อ่อนโม้ จ่ายบอลให้ เอกพันธ์ อินทเสน เข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่สุดปลายเท้าซ้ายยิงไม่ถนัด ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ รับสบาย

     นาทีที่ 8ชลบุรีทำเกมขึ้นมาอีกครั้ง เทิดศักดิ์ เปิดไปให้เอกพันธ์โหม่งที่เสาสองข้ามคานออกไปนิดเดียว

     นาทีที่ 10ชลบุรีเกือบได้ประตูขึ้นนำ ชลทิตย์ จันทคาม ลักไก่ยิงไกลจากครึ่งสนาม ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ต้องออกแรงถอยมาปัด โชคดีที่บอลไปชนคาน

     นาทีที่ 18เอกพันธ์ได้ยิงอีกครั้ง ทนงศักดิ์ยังรับสบาย จากนั้นเมืองทองฯโต้กลับเร็ว ดัสกร ทองเหลา จ่ายทะลุช่องให้ ดั๊กโน เซียกา หลุดเข้าไปยิงแต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

     นาทีที่ 26เมืองทองฯแก้เกมโดยส่ง โคเน่ โมฮาเหม็ด ลงมาแทน รณชัย รังสิโย ซึ่งไม่มีส่วนกับเกมมากนัก

     นาทีที่ 32เมืองทองฯเจาะเข้ากรอบเขตโทษไม่ได้ใช้วิธียิงไกลโดย ดัสกร ทองเหลา แต่ระยะไกลเกินเรดาร์ บอลโด่งข้ามคานออกไป

     นาทีที่ 36อาทิตย์ สุนทรพิธ เข้าเสียบทำฟาวล์ นฤพล อารมณ์สวะ โดนใบเหลืองแรกของเกมเมืองทองฯได้ฟรีคิก นฤพล เป็นคนลุกขึ้นมาปั่นด้วยซ้ายแต่ยังไม่ผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล

     นาทีที่ 40ชลบุรีได้โต้กลับบ้าง ภานุพงศ์ วงศ์ษา กองหลังเมืองทองฯทำฟาวล์เทิดศักดิ์ ใจมั่น เป็นลูกฟรีคิก เทิดศักดิ์ จ่ายออกทางด้านซ้ายให้ อาทิตย์ วิ่งตามไปเปิด กองหลังเมืองทองฯช่วยกันเคลียร์ออกมาได้

     แต่แล้วนาทีที่ 42ปิยะชาติ ถามะพันธ์แบ็กซ้ายเมืองทองฯพลาดเสียบอลให้ พิภพ อ่อนโม้ ลากบอลจี้เข้ามาก่อนจ่ายต่อให้เอกพันธ์ที่วิ่งอ้อมหลังไปก่อนที่จะเปิดเลียดเข้ามาที่หน้าประตูให้ เสือเฒ่า เทิดศักดิ์ ใจมั่น ล้มตัวซัดเข้าข้อ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ปัดโดนแค่ปลายมือบอลข้ามเส้นเข้าประตูเรียบร้อยช่วยให้ ชลบุรีขึ้นนำทันที 1:0

     ช่วงทดเจ็บชลบุรีได้โต้มาอีกครั้ง เอกพันธ์ อินทเสน ใช้ความเร็วพาบอลจี้เข้ามาไม่จ่ายให้ พิภพ อ่อนโม้ ที่ยืนรอโล่งๆตัดสินใจยิงเองบอลเข้าซอง ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ จบครึ่งแรกชลบุรีนำเมืองทองฯ ยูไนเต็ด 1:0

ครึ่งหลัง

     เริ่มเกมครึ่งหลังเมืองทองฯเป็นฝ่ายเขียลูกเล่นบ้าง เรเน่มีการเปลี่ยนตัวคนที่สองโดยส่ง อมร ธรรมนามปีกซึ่งมีความเร็ว ลงมาแทน นฤพล อารมณ์สวะในแผงมิดฟิลด์

     นาทีที่ 49ชลบุรียังมีโอกาสจบสกอร์เป็นน้ำเป็นเนื้ออย่างต่อเนื่อง เมื่อ พิภพ อ่อนโม้ ได้บอลทางฝั่งขวาแทงต่อให้เทิดศักดิ์ที่เติมขึ้นมาตวัดยิงตามน้ำ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ยืนถูกตำแหน่งปัดออกไปได้

     นาทีที่ 54เมืองทองฯได้โอกาสโต้กลับเร็ว บอลมาที่ โคเน่ โมฮาเหม็ด บุกมาดวล3ต่อ2 แต่โคเน่จ่ายไม่ถึงเพื่อนโดนตัดบอลอย่างน่าเสียดาย

     นาทีที่ 57เมืองทองฯเปลี่ยนตัวคนที่สามส่งเจษฎา จิตสวัสดิ์กัปตันทีมลงมาแทน ภานุพงศ์ วงศ์ษา ที่มีอาการบาดเจ็บจนต้องหามออกนอกสนาม

     นาทีที่ 64อมร ธรรมนามพาบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษกองหลังชลบุรีสกัดบอลไม่ขาดเข้าทาง โคเน่ โมฮาเหม็ด พักบอลหนึ่งทีก่อนไหลคืนให้ ดัสกร ทองเหลา ยืนรอปั่นโค้งส่งบอลเข้าเสียบตาข่ายช่วยให้เมืองทองฯตีเสมอชลบุรี 1:1 สินทวีชัย หทัยรัตนกุล โดนเพื่อนบังพุ่งไม่ถึงบอล

     นาทีที่ 76ภานุวัฒน์ จินตะตัวสำรองที่ลงมาใหม่แทนอาทิตย์ได้ตะบันหน้าปากประตูแต่บอลโด่งข้ามคานออกไป

     นาทีที่ 79พิภพ อ่อนโม้ได้บอลอีกครั้งจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดเข้าซองทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ จากนั้นอีกแค่นาทีเดียว เอกพันธ์เปิดบอลด้วยขวาแต่บอลกระดอนพื้นกลายเป็นดี บอลพุ่งเข้าหาประตูแต่ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ยังยืนถูกที่ถูกตำแหน่งปัดออกไปได้

     นาทีที่ 85เมืองทองฯเกือบเสียประตูที่สองเมื่อ เจษฎา จิตสวัสดิ์ กองหลังกัปตันทีมสกัดบอลพลาด ดีดกลับให้เพื่อนแต่ผิดเหลี่ยมเกือบเข้าประตูตัวเองแต่ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ ผู้รักษาประตูฝ่ายเดียวกันต้องตัดสินใจโหม่งทิ้งออกไป

     จบ90นาทีเมืองทองฯเสมอชลบุรี 1:1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก30นาที โดยณัฐพร พันธ์ฤทธิ์กองหลังของเมืองทองฯมีอาการบาดเจ็บต้องหามออกนอกสนามทำให้เหลือผู้เล่นแค่10คนเพราะเปลี่ยนตัวครบสามคนแล้ว แต่ยังลงมายืนในสนามได้

ต่อเวลาพิเศษ

     นาทีที่ 93เมืองทองฯเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา พาบอลลากผ่านหน้าประตูก่อนตะบันด้วยขวาบอลไซ้แต่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ปฏิกิริยายังไวพุ่งปัดเป็นซูเปอร์เซฟที่สวยงาม

     นาทีที่ 97พิภพ อ่อนโม้ จ่ายบอลทะลุช่องให้บาก้าหลุดเข้าไปกองหลังเมืองทองฯล้มสกัดบอลเข้าทางบาก้าอีกครั้งแต่ยิงไปติดเซฟ ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์

     เกมเริ่มเดือด มีการเข้าสกัดหนักกันหลายจังหวะ นาทีที่ 108ปิยะชาติ ถามะพันธ์เปิดลูกเตะมุมให้เมืองทองฯแต่บอลโค้งไปตกบนหลังตาข่าย

     นาทีที่ 112พิภพ อ่อนโม้โดนทำฟาวล์ชลบุรีได้ลูกฟรีคิก ชลทิตย์เปิดเข้ามาที่หน้าประตูโดนกองหลังเมืองทองฯเตะสกัดทิ้งออกมา

     แต่แล้วนาทีที่ 116นักเตะที่แฟนบอลชลบุรีตะโกนเรียกชื่อทั้งสนามคือพิภพ อ่อนโม้ก็มายิงได้ จากจังหวะที่ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว ตัวสำรองคนสุดท้ายที่เปลี่ยนลงมาแทนเอกพันธ์เปิดจากฝั่งขวามาที่หน้าประตู เจษฎา จิตสวัสดิ์ สกัดไม่ขาด บอลตกเข้าทาง พิภพ อ่อนโม้ จิ้มด้วยสัญชาตญาณส่งบอลเสียบตาข่ายช่วยให้ชลบุรีขึ้นนำเมืองทองฯอีกครั้ง 2:1

     จบเกมชลบุรีคว้าถ้วยสุดท้ายของปี 2553 ด้วยการเอาชนะเมืองทองฯ 2:1 จากการยิงประตูของพิภพ อ่อนโม้ช่วงต่อเวลาพิเศษ รับรางวัล 1.5 ล้านบาท คว้าสิทธิ์ไปลุย เอเอฟซี คัพ ในปีหน้าได้สำเร็จ พิภพ อ่อนโม้ ซิวเเข้งยอดเยี่ยมที่ซัดไป 5 ประตูในรายการนี้ ส่วน จเด็จ มีลาภคว้าโค้ชยอดเยี่ยม





รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์
กองหลัง : ปิยะชาติ ถามะพันธ์ น.95, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์(กัปตันทีม), ภานุพงศ์ วงศ์ษาน.40(เจษฎา จิตสวัสดิ์ น.57), จักรพันธ์ แก้วพรม
กองกลาง : นฤพล อารมณ์สวะ(อมร ธรรมนาม น.46), ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดั๊กโน เซียกา
กองหน้า : รณชัย รังสิโย(โคเน่ โมฮาเหม็ด น.26), ธีรศิลป์ แดงดา
โค้ช : เรเน่ เดอซาเยียร์


ชลบุรี เอฟซี : ระบบ 4-5-1
ผู้รักษาประตู : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
กองหลัง : ณัฐพงษ์ สมณะ, ชลทิตย์ จันทคาม, สุทธินันท์ พุกหอม, เจษฎากรณ์ เหมแดง
กองกลาง : อาทิตย์ สุนทรพิธน.36(ภานุวัฒน์ จินตะ น.73), อดุลย์ หละโสะ, เทิดศักดิ์ ใจมั่น(จูลส์ บาก้า น.77), ภูริทัต จาริการนนท์, เอกพันธ์ อินทเสน(ศุภเสกข์ ไก่แก้ว น.115)
กองหน้า : พิภพ อ่อนโม้(กัปตันทีม)น.99
โค้ช : จเด็จ มีลาภ













     


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์