“บัวขาว-ค่ายป.ประมุข” จบลงด้วยดี

ที่สำนักงานคณะกรรมการมวย ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เมื่อ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ในฐานะคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ประสานงานไกล่เกลี่ยกรณีความขัดแย้งระหว่างยอดมวยไทยแห่งยุค บัวขาว ป.ประมุข หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ กับ ค่ายป.ประมุข นำ บัวขาว ป.ประมุข มาร่วมประชุมแก้ปัญหาระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย โดยมี “ชาติซ้าย” นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายระเบียบวินัย และจรรยาบรรณ คณะกรรมการกีฬามวยฯ เป็นประธานในการประชุม โดยมี นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่ากกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ และ นายเดช ใจกล้า ผอ.สำนักงานกีฬามวยฯ ร่วมประชุม ท่ามกลางสื่อมวลชนทุกสำนักมารอทำข่าวกันอย่างคับคั่ง ทำให้ บัวขาว ได้เผชิญหน้า “กำนันแก๊”นายประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายป.ประมุข และลูกชาย นายธีพัฒน์ โรจนตัณฑ์ หัวหน้าค่าย เป็นครั้งแรก หลังจากหนีออกจากค่ายไปตั้งแต่เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่ง “บัวขาว” ได้นำพวงมาลัยดอกไม้มาขอขมา “กำนันแก๊” ด้วย

ก่อนเริ่มวาระการประชุม “เสธ.ยอด” ได้ติงทางกกท. ที่มีการลงโทษเพิกถอนทะเบียนนักมวยของ บัวขาว 6 เดือน ตั้งแต่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งที่ บัวขาว ยังไม่ได้มารับทราบข้อกล่าวหา และมาให้ข้อมูล ซึ่ง บัวขาว ได้ส่งใบลาโดยมีใบรับรองแพทย์ และกกท.นัดมารับข้อกล่าวหาในวันที่ 22 พ.ค.2555 แต่กลับมีการลงโทษไปก่อนทั้งที่ไม่ได้มารับข้อกล่าวหา และชี้แจง เป็นการผิดกฎหมายชัดเจน ที่ทาง ทนายความของ บัวขาว พร้อมที่จะฟ้องบอร์ดกีฬามวยทั้งหมด เรื่องนี้ นายสกล ได้ขอให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย ระหว่างกันก่อน และขอร้องให้สื่อมวลชนออกจากห้อง

ปรากฏว่าหลังการเจรจากันในห้องปิดกว่า 5 ชั่วโมง “รองสกล” จึงเปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน โดยมีฝ่าย บัวขาว และ “กำนันแก๊” ร่วมเป็นสักขีพยาน ว่า เป็นที่น่ายินดีว่า เรื่องนี้จบลงด้วยดี โดยมีการร่างสัญญาให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมลงนาม ระหว่างค่ายป.ประมุข กับ บัวขาว ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะอยู่ร่วมกัน ในประเด็นสำคัญคือ ข้อ 1. เรื่องเงินรางวัลกการชก และค่าตัว ในการชขกบนเวที ตกลงกันในอัตรา 60-40 โดย บัวขาว รับ 60 และ กำนันแก๊ รับ 40, ประการที่ 2 รายได้จากสิทธิประโชน์ ทั้งการโชว์ตัว การออกรายการทางทีวี หรือจากสปอร์เซอร์ผู้สนับสนุน ในอัตรา 75-25 โดย บัวขาว รับ 75 ค่ายป.ประมุข รับ 25 โดยให้มีสัญญาอยู่ในระยะเวลา 8 ปี ที่ บัวขาว มีทำสัญญากับค่ายป.ประมุข ตั้งแต่เดือนพ.ย.2553 ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 5 ปี

นอกจากนั้นในสัญญาฉบับนี้ บัวขาว สามารถเป็นอิสระซ้อมที่ไหนก็ได้ ต่างฝ่ายต่างรับงาน แต่เมื่อรับงานแล้ว ต้องเซ็นสัญญาร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย หากเซ็นฝ่ายเดียว ถือว่าผิดสัญญา รวมทั้ง ค่ายป.ประมุข ยอมถอนฟ้องคดีต่าง ๆ ที่ฟ้องร้อง บัวขาว และ กกท.ด้วย และไม่พูดเรื่องหนีสิ้นที่มีต่อกันอีกต่อไป ขณะที่กรณีที่กกท.สั่งลงโทษ บัวขาว ไปแล้ว ให้ทาง บัวขาว ทำเรื่องอุทธรณ์ขึ้นมา ทางกกท.จะรีบพิจารณาใหม่ทันที อย่างไรก็ตาม กำนันแก๊ เผยว่า เรื่องคดีของ ค่ายป.ประมุข กับ บ.สปอร์ต อาร์ต จำกัด ผู้จัดศึกไทยไฟต์ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ยังมีการว่ากันไปตามกฎหมายต่อไป ขอเคลียร์กันทีละเรื่องก่อน ขณะที่ “เสธ.ยอด” กล่าว่า การจบลงแบบนี้ ถือเป็นข่าวดีที่จะทำให้แฟนกีฬาชาวไทยมีความสุข ที่จะได้เห็น บัวขาว ได้ชกมวยต่อไป ดีกว่าให้กฎหมายตัดสิน ที่มีแต่จะเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย และเสียชื่อเสียงประเทศชาติด้วย


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์