บอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด

บอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด

บอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด








สปอร์ตวาไรตี้






บอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด



บอลนอกแค่สะใจ แต่บอลไทยอยู่ในสายเลือด...18.30 น. วันพรุ่งนี้ ขอเชิญแฟนบอลชาวไทยร่วมเข้าไปให้กำลังใจ นักฟุตบอลทีมชาติไทยกันทุกคน เพราะนัดนี้ถือว่าสำคัญต่ออนาคตของฟุตบอลไทยมาก หากเอาชนะ อานโม - โอมาน เกมนี้ไม่ได้ โอกาสที่เราจะผ่านไปเล่นในรอบ 10 ทีมสุดท้ายก็แทบจะน้อยลงทันที


หากให้ลองนึกภาพครั้งสุดท้ายที่รัชมังคลากีฬาสถาน ภาพที่ แฟนบอลไทย เข้ามาเกือบเต็มความจุของสนามก็น่าจะเป็นศึก เอเชี่ยน คัพ เมื่อปีที่แล้วมั้งในเกมนั้น ทีมไทยของเรา พบ ออสเตรเลีย ซึ่งภาพบรรยากาศเหล่านั้นมันยังคงจุจำอยู่ในหัวสมองได้เป็นอย่างดี


ภาพสีเหลืองอันผ่องอร่ามตา ......เสียงที่ตะโกน ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ !! หรือแม้แต่เสียงโห่ร้องยามที่นักเตะไทยถูกเอาเปรียบ ...ในใจลึกๆ ยังพยายามบอกว่านั้นไม่ใช่ครั้งสุด ท้ายที่ ข้ากระผม จะได้เห็น


มันต้องมีมากอีก และต้องมากว่าเดิมเป็น ร้อยๆ พันๆ ครั้งทวีขึ้นอีกด้วย แต่แล้ว คนไทยก็คือคนไทย อะไรที่มันเป็นกระแสคนไทยมักจะยินยอมเออออตาม มันบ่งชัดว่า คนไทย ยังขาดวัฒนธรรมในการเชียร์ฟุตบอล


หลายต่อหลายครั้งที่ผมเข้าไป ผมมักจะท้อ ที่ต้องเห็นสนามที่ปราศจากผู้ชม ภาพบรรยากาศที่ดูห่อเหี่ยว ไร้ซึ่งรสชาติ นี่กระมั้งที่ว่าทำไม เอเอฟซี หรือแม้แต่ต่างชาติ ถึงได้ชอบดู ถูกคนไทยว่ายังขาดความกลมเกลียวในเกมฟุตบอล เพียงแค่คนดูในสนามก็ยังทำให้เต็มกันยังไม่ได้


แม้แต่นัดชิงชนะเลิศ คิงส์ คัพ ที่ผ่านมา ก็ยังถือว่าน้อยนิดเกินไป กับแฟนบอลที่ถือว่าเป็นผู้เล่นที่ 12 ........ผู้ที่จะคอยไล่กดดัน คอยกระตุ้นให้ 11 คนที่อยู่ในสนามได้เกิดแรงฮึกเฮิม กล้าที่จะลุยไปข้างหน้า หรือแย่งตัดบอลมาจากคู่ต่อสู้ .......แน่นอนผมและคนอีกหลายต่อหลายคนยังอยากจะเห็นภาพแบบนั้นอีกครั้ง


ซึ่งหากคำบ่น ด่าทอ ที่ระบายออกมาจากด้านบน...มัน เวอร์ หรือไม่ถูกใจใครก็ขออภัยมา ณ. ที่นี้ แต่ผมอยากเห็นคนไทย ร่วมแรงร่วมใจกันเข้าไปเชียร์แข้งไทยจริงๆ


ตามข่าวรายงานว่าจนถึงตอนเวลานี้ ยังมียอดขายบัตรไม่ถึง 10,000 ใบเลย ซึ่ง รัชมังฯ นั้นจุได้กว่า 50,000 - 60,000 คน ...ยังถือว่าน้อยนิดเกินไป อ้ายข้ากระผมก็จึงอยากใคร่ เชิญชวน มิตรรักแฟนบอล ทุกท่าน ช่วยกันชักจูง และประชาสัมพันธ์ให้เข้ามาในสนามกันเยอะๆ เถอะ


ให้เจ้าพวก 11 แข้งตัวแทนของประเทศไทยที่อยู่ในสนามได้เห็น ว่ายังมีพวกเราคอยหนุนหลัง ให้อ้ายพวก อานโม ได้รู้ซึ้งถึงเพลงแข้งของคนไทย


...................................


หยุดพักบอลไทยไว้เพียงแค่นี้ดีกว่า แดงเดือด เมื่อวันวาน กลิ่นคาวควันหลงยังคงไม่จืดจางหาย ราฟาเอล เบนิเตซ ยังคงต้องเจ็บแล้วเจ็บอีก อีกต่อไป หลังไม่สามารถทุบเอา ชนะคู่อริได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว


ดีใจด้วยกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้ข้ากระผมต้องสบถ ไล่ด่าคนข้างๆ หลัง อสูรร้ายแห่งรั้วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทะยานหนีห่างคู่แข่ง เดอะ กันเนอร์ส ไปแล้วถึง 6 คะแนน มิหน่ำซ้ำ อาร์เซน่อล ยังต้องร่วงดิ่งลงมาเป็นอันดับ 3 เป็นครั้งแรกในซีซั่น 2007-2008 หนนี้ หลังพ่ายแพ้ 1-2 ให้แก่ เชลซี


หะแรกเลยฝันเลยน่ะว่าลูกโขกของเจ้า ซานญ่า น่าจะเป็นประตูชัยให้ อาร์เซน่อล เก็บชัยได้ในรอบเดือนกว่า แต่แล้ว ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็ป่าวประกาศให้ทราบว่า เกมยังไม่จบ อย่า เพิ่งนับศพเฟ้ย หลังหัวหอก ไอวอรี่ โคสต์ จัดการซัดเบิ้ล ตีเสมอ และพลิกแซงในช่วงท้ายเกม


นอกจากจะเก็บสามคะแนนแล้วหน่ำซ้ำยังแซงคู่ปรับร่วมเมืองขึ้นไปนั่งรองจ่าฝูงแทน และไล่ตาม ยูไนเต็ด เหลือเพียงแค่ 5 แต้ม และยังเหลือเกมพรีเมียร์ชิพแค่ 7 เกมเท่านั้น


ซึ่งอาถรรพณ์ก็ยังคงเป็นอาถรรพณ์ เชื่อหรือไม่ว่า นี้เป็นเกมที่ 78 ในลีกแล้ว ที่ เชลซี ยังไม่แพ้ใครที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ก็คือ อาร์เซน่อล นี้แหล่ะ โดยใน เกมวันนั้น วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี 2004 ลูกทีมของ เวนเกอร์ บุกมาเฆี่ยนชัยได้ 2-1 จากลูกยิงของ วิเอร่า และเอดู


ทว่าความพ่ายแพ้คา เดอะ บริดจ์ ครั้งนั้นมิใช่ในยุคของ สเปเชี่ยล วัน หรือคนพิเศษที่เหนือกว่าคนทั่วไป อย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม เพียงแต่เป็นในยุคของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ต่าง หาก อย่างน้อยจนถึงปัจจุบัน อัฟราม แกรนท์ เทรนเนอร์หน้าภารโรงก็ยังยึดอกได้ว่าเขาก็ยังสานต่อ มูรินโญ่ ในการทำทีมไม่ให้แพ้ใน สแตมฟอร์ม บริดจ์ ได้จนถึงทุกวันนี้


แม้ อาร์แซน เวนเกอร์ และลูกทีมจะออกมาพยายามกระตุ้นตัวเอง ว่าจะพยายามแซงหน้าขึ้นไปคว้าแชมป์ จนถึงเฮือกสุดท้าย แต่ในความเป็นจริงแล้วยากเต็มที่ ต้องเอาชนะ 7 เกมที่ เหลือ เอาชนะทั้ง แมนฯยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล และลุ้นให้ ผีแดง และสิงห์บลูส์ ต่างพลอยสะดุดหกล้มกันเอง .......หรือลืมซีซั่นอันน่าเจ็บปวดนี้ตัดทิ้งมันไปเลยดีกว่า และไปลุ้นกับถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขายังไม่เคยได้แชมป์มาประดับตู้ได้เลย .....


  อย่าลืมเข้าไปเชียร์ ทีมชาติไทย ไล่อัด โอมาน กัน เริ่มแข่งขัน 18.30 น. บัตรมีตั้งแต่ราคา 500 ,200 และหลังประตู 100 บาท

ขอบคุณเนื่อหาข่าว จาก สยามสปอร์ต.คอม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์