น้องไก่ปลื้มเป็นจอมพลังสาวคนแรกของโลกที่ได้แชมป์ 3 รุ่น

น้องไก่ปลื้มเป็นจอมพลังสาวคนแรกของโลกที่ได้แชมป์ 3 รุ่น

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2548 17:10 น.

น้องไก่ ปวีณา ทองสุก สุดปลื้มคว้าแชมป์โลกยกลูกเหล็ก รุ่น 63 กก. ทั้ง 3 ท่า สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักยกน้ำหนักหญิงคนแรกของโลกในรอบ 100 ปี ที่คว้าแชมป์โลก และแชมป์โอลิมปิกได้ถึง 3 รุ่น ขณะที่ทัพจอมพลังไทยปิดฉากชิงแชมป์โลกด้วยผลงาน 4 เหรียญทอง 8 เงิน 3 ทองแดง

หลังจาก น้องไก่ ปวีณา ทองสุข เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงเอเธนส์ เมื่อปีก่อน คว้า 3 เหรียญทอง ในยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกในรุ่น 63 กก. โดยท่าสแนท์ยกได้ 116 กก. ทำลายสถิติโลกที่ ฮันน่า บาสซิอุซก้า ของบัลแกเรีย ทำไว้ 155 กก. ขณะที่ท่าคลีน แอนด์ เจอร์ก ยกได้ 140 กก. พังสถิติโลกของตนเองที่ยกได้ก่อนหน้านี้ พร้อมกันนั้น ในน้ำหนักรวม ปวีณา ยังมีสถิติ 256 กก. ซึ่งเป็นการจารึกสถิติโลกอันใหม่ พร้อมกับคว้าเหรียญทองมาครองทั้ง 3 ท่า

จากผลงานดังกล่าวยังส่งผลให้น้องไก่ กลายเป็นนักยกน้ำหนักคนแรกของโลกในรอบ 100 ปี นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสหพันธ์ยกน้ำหนักโลก ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ 3 รุ่น โดยเริ่มจากแชมป์โลกที่โปแลนด์ปี 2002 รุ่น 69 กก. ตามด้วยเหรียญทองโอลิมปิก ที่เอเธนส์ ปี 2004 รุ่น 75 กก. และล่าสุด แชมป์โลกรุ่น 63 กก. ที่กาตาร์

หลังแข่งขัน ปวีณา กล่าวด้วยความดีใจว่า ตัดสินใจไม่ผิดพลาดที่ลดรุ่นมายกในรุ่น 63 กก. แม้ว่าจะต้องทรมานในการลดน้ำหนักให้เข้ารุ่นมาเกือบ 1 ปี หลังเสร็จสิ้นกีฬาโอลิมปิกปีที่แล้ว ส่วนการทำสถิติโลกในท่าสแนทช์ได้นั้น ตนไม่มั่นใจว่า จะทำได้ แต่ก็ลองเสี่ยงดู และยกผ่าน ส่งผลต่อสภาพจิตใจในการยกท่าคลีน แอนด์ เจอร์ก ซึ่งตนหวังไว้มาก เพราะเคยซ้อมยกได้ 147 กก. และอีกอย่างตนซ้อมมาดี ทำให้มีความมั่นใจในการแข่งขันครั้งนี้อย่างมาก หลังจากเคยผิดหวังในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ปี 2003 ที่แคนาดา ตอนนั้นยกพลาดหมด ไม่มีเหรียญกลับบ้าน หลังจากจบรายการนี้แล้ว จะเดินทางไปแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด เพื่อเอาเหรียญทองให้ได้

ทางด้าน นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ก่อนมาแข่งขันชิงแชมป์โลก ทางสมาคมตั้งเป้าไว้แล้วว่า ปวีณา ต้องได้ทอง
เพราะปวีณามีความมุ่งมั่น ถ้าจะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ และทำให้ปวีณาเป็นนักยกน้ำหนักประวัติศาสตร์ของโลก ที่คว้าแชมป์ระดับโลกถึง 3 รุ่น ไม่มีใครทำได้ นับตั้งแต่ตั้งสหพันธ์ยกน้ำหนักโลกขึ้น จนมีอายุครบ 100 ปี ส่วนผลงานของนักยกน้ำหนักไทยในรายการนี้ ต้องถือว่าทำได้ดีมาก ๆ เกือบทุกคนมีเหรียญติดมือกลับบ้าน โดยทำได้ 4 เหรียญทอง 8 เหรียญเงิน 3 เหรียญทองแดง

เจ๊บุษ กล่าวต่อว่า ส่วนคนที่ไม่หวัง คือ สุดา ชาลีผาย รุ่น 53 กก. ตั้งใจส่งเข้าแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์ แต่สามารถทำได้ 1 เหรียญทองแดง ถือได้ว่าผลงานของเราเป็นรองแค่จีนชาติเดียวเท่านั้น สำหรับเงินอัดฉีดจากรัฐบาล ในรายการชิงแชมป์โลก เหรียญทอง 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เหรียญทองแดง 2 แสนบาท นอกจากนี้ เจ้าภาพมอบเงินรางวัล เหรียญทอง 3,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.2 แสนบาท เหรียญเงิน 2,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 80,000 บาท เหรียญทองแดง 1,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 40,000 บาท และให้เงินรางวัลสำหรับผู้ทำสถิติโลกน้ำหนักรวม 10,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 400,000 บาท ทำให้ ปวีณา ทองสุก ที่ได้ 3 เหรียญทอง และพังสถิติโลกสแนทช์, คลีน แอนด์ เจอร์ก และน้ำหนักรวม รับเงินอัดฉีดและเงินรางวัล 6.6 ล้านบาท
ส่วน จันทร์พิมพ์ กันทะเตียน ได้ 1 ทอง 2 เงิน รุ่น 53 กก. ได้เงินอัดฉีดจากรัฐบาล 2 ล้านบาท เงินรางวัล 2.8 แสนบาท รวม 4.28 ล้านบาท, เพ็ญศิริ แซ่เล้า ได้ 3 เงิน รุ่น 48 กก. ได้เงินอัดฉีดจากรัฐบาล 1.5 ล้านบาท เงินรางวัล 2.4 แสนบาท รวม 1.7 ล้านบาท, วันดี คำเอี่ยม ได้ 3 เงิน รุ่น 58 กก. ได้เงินอัดฉีด 1.5 ล้านบาท เงินรางวัล 2.4 แสนบาท รวม 1.7 ล้านบาท, อารีย์ วิรัฐถาวร ได้ 2 ทองแดง ได้เงินอัดฉีด 1 ล้านบาท เงินรางวัล 40,000 บาท รวม1.4 ล้านบาท, สุดา ชาลีผาย ได้ 1 ทองแดง รุ่น 53 กก. ได้อัดฉีด 2 แสนบาท เงินรางวัล 40,000 บาท รวม 6 แสนบาท โดยคณะนักยกน้ำหนักชุดนี้ เดินทางกลับโดยสายการบิน คิวอาร์ 612 ถึงไทยวันที่ 14 พ.ย.เวลา 06.50 น.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์