ดิยุฟซัดโทษนำโบลตันเฉือนไทย 1-0 คว้าแชมป์บอลสี่เส้า

ดิยุฟซัดโทษนำโบลตันเฉือนไทย 1-0 คว้าแชมป์บอลสี่เส้า

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2548 23:05 น.

ทีมชาติไทย บดกับ โบลตัน ได้อย่างสนุก แต่มาพลาดเสียจุดโทษช่วง 12 นาทีสุดท้าย เป็น เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ซัดเข้าไป ผลทีมเยือนเอาชนะไปหวุดหวิด 1-0 ฟุตบอล 4 เส้า เอฟเอ พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ บางกอก 2005 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันเสาร์ (23 ก.ค.) ทำให้ โบลตัน คว้าแชมป์ไปครอง

ฟุตบอล 4 เส้า เอฟเอ พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ บางกอก 2005
นัดชิงชนะเลิศ
ไทย 0 โบลตัน 1
ฟุตบอล 4 เส้า เอฟเอ พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ บางกอก 2005 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ โบลตัน นัดนี้ โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน ยังไม่เปลี่ยนทีมจากชุดที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน โดย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ สุเชาว์ นุชนุ่ม ผ่านความฟิตลงสนามได้ทันเวลา ขณะที่ทีมเยือนจัดทัพชุดใหญ่ลงเล่นครบครัน ทั้ง เอล ฮัดจิ ดิยุฟ และ เจย์ เจย์ โอโคชา

ก่อนลงสนามทางโค้ชหรั่งได้กำชับนักเตะไทยเข้าถึงบอลให้เร็วเพื่อปิดพื้นที่ไม่ให้คู่แข่งโยนบอลได้ถนัด ขณะที่บรรยากาศก่อนเกมการแข่งขันนัดนี้มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน ด้านแฟนบอลชาวไทยได้เข้ามาชมเกมในสนามหน้าแน่นกว่าเกมแรกที่ผ่านมาหลังจากฝ่ายการแข่งขันลดราคาบัตร 600 เหลือ 200 บาท โดยนักเตะที่เป็นขวัญใจแฟนบอลชาวไทยมากที่สุดคือ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ อดีตกองหน้าทีมลิเวอร์พูล

เปิดฉากขึ้นมา โบลตัน โจมตีด้วยลูกโด่งทันที ขณะที่ ไทย พยายามบีบพื้นที่เร็วตามแผนและได้ผลเล่นเอากองหลังของทีมเยือนเตะทิ้งแบบไม่มีทิศทางบ่อยครั้ง จนถึงนาทีที่ 14 ไทย ได้ลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา ของ จักรกริช บุญคำ ลูกมุดจะเสียบเสาแรกเล่นเอา ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ต้องออกแรงพุ่งตัวปัดออกไป ก่อนจะหันมาโวยกำแพงที่ป้องกันไม่ดี

ปลายครึ่งแรก โบลตัน เริ่มมีโอกาสมากขึ้นแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ผ่าน โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ที่จัดการลูกโด่งได้หมด ก่อนที่ สุชนม์ สงวนดี จะได้รับบาดเจ็บ ต้องส่ง ชาคริต บัวทอง ลงมาแทน หลังจากนั้นในนาทีที่ 44 ไทย ต่อบอลกันได้สวย เป็น ปรัชฐ์ จ่ายคืนไปให้ ชาคริต ในกรอบเขตโทษ แล้วพาบอลเลี้ยงเลาะหลบ อีบัน คัมโป้ ก่อนซัดด้วยซ้ายที่เสาแรก แต่ ยัสเคไลเน่น จะปัดออกไปได้หวุดหวิด จบ 45 นาทีเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง โบลตัน ยังเปิดเกมรุกทางอากาศเช่นเดิม ส่วน ไทย อาศัยความคล่องตัวของกองหน้า พอถึงนาทีที่ 49 พิชิตพงษ์ ฮีโร่ผู้ยิงประตูเอฟเวอร์ตัน ได้ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษแต่บอลก็ลอยข้ามคานออกไปไกล ขณะที่อีก 2 นาทีต่อมา การ์ดเนอร์ ได้กดด้วยขวา แต่ โกสินทร์ ก็รับไว้ได้สบาย

ผ่านไป 60 นาทีทั้งสองฝ่ายยังพยายามเปิดเกมรุกเข้าหากันทว่าแนวรับก็สามารถจัดการได้หมด จน ไทย ต้องเปลี่ยนตัวส่ง ธีรเทพ วิโนทัย ลงมาแทน ปิยะวัฒน์ ทองแม้น ในนาทีที่ 64 หลังจากนั้น โบลตัน คุมเกมได้เกือบทั้งหมดและอีก 3 นาทีต่อมา พีเดอร์เซ่น ตักบอลข้ามจากซ้ายมาขวาให้ ริคาร์โด้ วาซ เต ได้โขกคนเดียวโล่งๆในกรอบเขตโทษ แต่โดนไม่ดีหลุดออกข้างตาข่าย

ช่วง 20 นาทีสุดท้าย โบลตัน ยังเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า และพอถึงนาทีที่ 78 กองหลังไทยก็พลาดทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษทันที โดยเป็น เอล ฮัดจิ ดิยุฟ รับหน้าที่สังหารเข้าไปอย่างง่ายดาย ส่วน โกสินทร์ พุ่งถูกทางแต่ไปไม่ถึง 1-0 สำหรับทีมเยือน

พอเสียประตูไปก่อน ไทย เร่งเครื่องโต้ตอบทันทีและอีก 2 นาทีต่อมา พิชิตพงษ์ ได้ลองส่องไกล ทว่า ยัสเคไลเน่น ยังป้องกันได้อีก หลังจากนั้นแม้ว่า ไทย จะดาหน้าบุกแหลกแต่กองหลัง โบลตัน ก็ตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่น ครบ 90 นาที โบลตัน เฉือน 1-0 คว้าแชมป์ไปครอง


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ไทย - โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, นพพล ปิตะฝ่าย, สุรีย์ สุขะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว, ปรัชฐ์ สมัครราช, ดัสกร ทองเหลา, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรกริช บุญคำ, สุชนม์ สงวนดี, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว
โบลตัน - ยุสซี่ ยัสเคลไลเน่น,ทาล เบน ฮาอิม, รัดดี้ จาดี้, อีบัน คัมโป้, แกรี่ สปีด, เควิน โนแลน, เจย์ เจย์ โอโคชา, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, เควิน เดวี่ส์, เอล ฮัดจิ ดิยุฟ, เฮนริค พีเดอร์เซ่น

เรือใบแม่นโทษชนะทอฟฟี่คว้าที่ 3 บอลสี่เส้าในไทย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2548 20:04 น.

เรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ แก้ตัวด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน คว้าอันดับ 3 ศึกสี่เส้า เอฟเอ.พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ แบงกอก 2005 หลังจากเสมอกันในเวลา 1-1

ลูกหนังสี่เส้ารายการเอฟเอ.พรีเมียร์ลีก เอเชีย โทรฟี่ แบงกอก 2005 เมื่อวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน คู่แรกเป็นการชิงที่สาม โดยเป็นการพบกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน กับ แมนฯซิตี้

บรรยากาศในเกมนัดนี้ภายหลังจากฝ่ายจัดการแข่งขันลดบัตรเข้าชมจากราคา 600 เหลือเพียง 200 บาท ทำให้บริเวณอัฒจันทร์ด้านไม่มีหลังคามีแฟนบอลเข้ามาชมกันหนาตาพอสมควร ขณะที่ตัวผู้เล่นทาง แมนฯซิตี้ เปลี่ยนตัวจากนัดแรกหลายคน โดยให้ แอนดี้ โคล กองหน้าตัวใหม่ลงประเดิมเป็นเกมแรก แต่ไม่มี โจอี้ บาร์ตัน ที่ก่อเรื่องชก ริชาร์ด ดันน์ กัปตันทีมจนถูกส่งตัวกลับอังกฤษและโดนขึ้นบัญชีขายด้วย ด้าน เอฟเวอร์ตัน ส่ง เพอร์ โครลดรู๊ป เซนเตอร์ฮาร์ฟคนใหม่ลงสนาม

เปิดเกมขึ้นมา แมนฯซิตี้ เป็นฝ่ายทำเกมได้เหนือกว่า โดยโอกาสยิงครั้งแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 4 เป็น แอนดี้ โคล โหม่งชงมาให้ กีกี้ มูซัมป้า ซัดที่นอกกรอบเขตโทษแต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป จนถึงนาทีที่ 25 แมนฯซิตี้ ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 เมื่อ เทรเวอร์ ซินแคลร์ ได้บอลในกรอบเขตโทษ แล้วกระชากหลบ เควิน คิลบาน ก่อนจ่ายให้ แอนดี้ โคล ชาร์จจ่อๆซุกก้นตาข่าย นับเป็นการประเดิมสีเสื้อกับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างสวยหรู ช่วงท้าย เอฟเวอร์ตัน มีโอกาสตีเสมอจากการโขกของ ทิม เคฮิลล์ ก็โชคร้ายบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

ในครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน บุกเข้าหาหวังตีเสมอให้ได้และเล่นไปได้เพียง 3 นาที ก็ได้โอกาสเมื่อ ทิม เคฮิลล์ โยนไปให้ เควิน เดวี่ส์ สะบัดหัวขวิดเปลี่ยนทางลูกผ่านมือ เดวิด เจมส์ ไปแล้ว ทว่าดันชนคานเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามในนาที่ 52 ซิลแว็ง ดิสแด็ง ใช้มือปัดลูกโหม่งของ เจมส์ บีตตี้ ในกรอบ 18 หลา ผู้ตัดสินเป็นจุดโทษ ก่อนที่ บีตตี้ จะเป็นคนซัดเอง สกอร์ขยับ 1-1

จากนั้นทั้งสองฝ่ายเปิดเกมแลกหมัดกันสนุกแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอทำให้ครบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษอีกครั้ง หลังจากที่แพ้ดวลเป้าในนัดแรกมาทั้งคู่ แต่คราวนี้เป็น แมนฯซิตี้ ที่แม่นกว่ายิงเข้า 4 คน ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ยิงเข้าเพียง 2 คน โดยคนที่พลาดคือ เดวิด เวียร์ กับ มาร์คัส เบนท์ สรุป แมนฯซิตี้ เป็นฝ่ายคว้าอันดับ 3 มาครอง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์