ชลบุรีรุกคืบ อัพเกรดสากล

เมื่อวันที่  25  พ.ค.ที่ผ่านมา  ณ  โรงแรมเรดิสัน พระราม 9 ได้มีพิธีการแถลงข่าวพร้อมเซ็นสัญญา “ช้าง” สนับสนุนสมาคมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี  โดยมีนายสมชัย สุทธิกุลพานิช ผู้บริหารบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย  และนายวิทยา  คุณปลื้ม  นายกสมาคมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี  ร่วมแถลงข่าว 

โดยนายสมชัยเปิดเผยว่า ช้างได้ร่วมมือกับชลบุรี มานานกว่า 10 ปี ตั้งแต่ชลบุรียังไม่โด่งดังเท่ายุคนี้ เมื่อชลบุรีจะก้าวไปข้างหน้า ช้างก็พร้อมที่จะเดินเคียงข้างไป ด้วยกัน อีกทั้งผู้บริหารของชลบุรีทุกคนมีความตั้งใจจริง ที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลไปสู่อาชีพ ซึ่งตรงกับแนวทางของ ช้างพอดี ดังนั้น ช้างจึงพร้อมที่จะสนับสนุนกลุ่มชลบุรี อย่างเต็มที่ โดยได้เซ็นสัญญา 3 ปี มูลค่า 30 ล้านบาท

ด้าน “บิ๊กเปี๊ยก” นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาสมาคมลูกหนังไทย เปิดเผยว่า สมาคมฟุตบอลฯ ได้เลือกชลบุรีเป็นจังหวัดนำร่อง  ตามโครงการ  วิชั่น  เอเชีย  ของสมาพันธ์ ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และโครงการวิชั่น ไทยแลนด์ ของสมาคมฟุตบอลฯ ที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลสู่ระบบอาชีพ อย่างเต็มตัว  โดยชลบุรีมีความพร้อมในทุกด้าน  โดยนอกจากชลบุรี สมาคมจะเลือกสโมสรอื่นๆอีกในปีหน้า  หากสโมสรใด  หรือจังหวัดใด  มีความพร้อมเหมือนชลบุรี สมาคมฯจะส่งไปให้เอเอฟซีพิจารณา เหมือนกับที่ประเทศญี่ปุ่นในตอนนี้   มีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมโครงการของเอเอฟซี กว่า 30 ทีม 

ขณะที่นายวิทยา คุณปลื้ม กล่าวว่า สมาคมฟุตบอล จังหวัดชลบุรี จะดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของสมาคม ฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี แต่จะได้ขึ้นตรงกับเอเอฟซี  การดำเนินงานคล้ายๆกับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย  โดยจะมีสโมสรสมาชิก ซึ่งตอนนี้สมาคมฟุตบอล  จ.ชลบุรี  มีสโมสรสมาชิกในระดับอาชีพเข้าแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 ทีม คือ ชลบุรี เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด, ศรีราชา เอฟซี โดยทุกทีมจะบริหาร งานกันเป็นเอกเทศ แข่งขันกันสร้างผลงานออกมาให้ดีที่สุด หากทุกทีมเจอกันก็เล่นเต็มที่ ไม่มีอ่อนข้ออย่างเด็ดขาด 

สำหรับรายนามคณะกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอล จ.ชลบุรี ประกอบด้วย นายวิทยา คุณปลื้ม นายกสมาคมฯ นายพันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา อุปนายกสมาคม คนที่ 1 นายอรรณพ สิงห์โตทอง อุปนายกสมาคม คนที่ 2 โดยมี “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เป็นประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคฟุตบอลเยาวชน และนายธนศักดิ์ สุระประเสริฐ เป็นเลขาธิการสมาคมฯ 

ทางด้านความเคลื่อนไหวของทีม“สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่มีการยกเครื่องใหม่ก่อนลงทำศึกลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีก 2009 โดยมีนายพิเชฐ มั่นคง กลับมาเป็นประธานสโมสรอีกครั้ง พร้อมได้นายโสภณ เฮี้ยนชาศรี เป็นผู้จัดการทีม และนายไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ เป็นเฮดโค้ช โดยมุ่งหวังที่จะพาทีมกลับขึ้นมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตให้ได้อีกครั้ง

ล่าสุด“บิ๊กเชฐ”ประธานสโมสร เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการปรับทีมกันใหม่ และได้มีโอกาสส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพ ครั้งที่ 33 แม้จะตกรอบแรก แต่ภาพโดยรวมถือว่าใช้ได้ เพียงแต่ มีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ที่ไม่เด็ดขาดเท่านั้น แต่หลังจากที่ได้พิพัฒน์ ต้นกันยา มายืนศูนย์หน้า ทำให้ทีมสมบูรณ์ และแข็งแกร่งมากขึ้น 

“ตอนนี้ถือว่าสภาพความพร้อมของทีมมีเต็มที่ โดยเฉพาะการได้นักเตะฝีเท้าดีมาเสริมทัพไม่ว่าจะเป็น พิพัฒน์ ต้นกันยา หรือนักเตะจากบราซิล ทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นมาก การจบสกอร์เด็ดขาดขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าด้วยขวัญและกำลังใจของนักเตะที่ดีเยี่ยม 6 เกมแรกในศึกไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009 ตั้งความหวังต้องพยายามเก็บ 18 แต้มเต็มให้ได้ พร้อมทั้งได้ประกาศอัดฉีดทุกนัด นัดละ 1 แสนบาท แต่มีข้อแม้ทีมต้องชนะเท่านั้น อย่างไรก็ตามในฤดูกาลแรกยังไม่ตั้งความหวังว่าจะต้องคว้าแชมป์มาครอง ซึ่งต้องยอมรับยังเป็นเรื่องยาก แต่อย่างน้อยทีมต้องติดอันดับ 1 ใน 5 ของหัวตาราง” 

 

ประธานสิงห์เจ้าท่าเผยอีกว่า   เป้าหมายชีวิต อีกอย่างหนึ่งเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นประธานสโมสรทีมฟุตบอลการท่าเรือแห่งประเทศไทย คือจะพยายามพาทีมกลับขึ้นมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตให้ได้อีกครั้งหนึ่ง มั่นใจสิ่งเหล่านี้ไม่เกินความสามารถ ดังนั้น ภายใน 3 ปี ต่อจากนี้ จะต้องทำให้เป็นรูปธรรมให้ได้