จิรภรณ์ พรหมรัตน์ แบ๊กหลังความสำเร็จ โค้ชโชคทวี

จิรภรณ์ พรหมรัตน์ แบ๊กหลังความสำเร็จ โค้ชโชคทวี


เป็นอีกหนึ่งคนที่กำลัง "เนื้อหอม" ตามรุ่นพี่ไปติดๆ สำหรับ "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ แม่ทัพใหญ่ซีเกมส์ชุดเล็กที่พาขุนพลทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชายอายุต่ำกว่า 23 ปีมาได้ อย่างสุดยอดและสมศักดิ์ศรี

นับเป็นบทพิสูจน์ "ฝีมือ" ของโค้ชโชคที่เข้าคุมทีมชาติไทยครั้งแรก!!

ความสำเร็จของโค้ชโชคครั้งนี้ นอกจากความตั้งใจจริงที่โค้ชทุ่มเทลงไปเกินร้อย หนึ่งในกำลังใจสำคัญเห็นจะหนีไม่พ้น "หลังบ้าน" จิรภรณ์ พรหมรัตน์ หรือ มด เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ต่อมาพัฒนากลายมาเป็น "ความรัก" จนในที่สุด ทั้งคู่ก็ตกลงใจจูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์เมื่อปี 2552

แม้วันนี้ ทั้งคู่จะยังไม่มีทายาทตัวน้อยๆ หากก็ยังเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอ

มด-จิรภรณ์ จบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ บริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านสารสนเทศจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตทยูนิเวอร์ซิตี้ ฟูลเลอร์ตัน สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเป็นเวิร์กกิ้งวูเมนทำธุรกิจส่งออกอุปกรณ์มวยไทย และอีกไม่นานจะเปิด "โชว์รูมจำหน่ายอุปกรณ์มวยไทย" ย่านอาร์ซีเอ โดยมีโค้ชโชคทวีและน้องชายเป็นหุ้นส่วน

 

"เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพราะเรียนคณะเดียวกัน ก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ แม้จะห่างกันตลอด เพราะโค้ชโชคต้องไปค้าแข้งต่างประเทศ ส่วนมดก็ไปเรียนต่อและทำงานที่อเมริกา เป็นความสัมพันธ์ระยะไกลที่คอยให้กำลังใจกัน จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เมื่อสมควรแก่เวลาแล้ว คบกันมานานแล้ว จึงตัดสินใจแต่งงาน" หลังบ้านโค้ชโชคทวีเล่าถึงเส้นทางความรักของทั้งคู่ ก่อนแง้มเหตุผลที่รู้สึกว่าโค้ชโชค "ใช่เลย" ตรงที่

"เขาเป็นผู้ชายไม่หวานเลี่ยน เป็นคนจริงใจ รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น ไม่เคยเอาปัญหาจุกจิกอะไรมาเล่าให้ฟัง อยู่กับเขา เราสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง แม้ภายนอกจะดูว่าเขาเป็นคนเฉยๆ แต่จริงๆ แล้ว เป็นคนใส่ใจ แค่มองหน้าเรา เขาก็จะรู้แล้วว่าเรารู้สึกอย่างไร"

เป็นภรรยาของสามีที่ภารกิจรัดตัว เพราะต้องทุ่มเทให้กับงาน จิรภรณ์ บอกว่า สิ่งที่ประคับประคองชีวิตคู่มาได้คือ "ความเข้าใจ"

"ด้วยพื้นฐานเรา 2 คนอยู่ห่างกันตลอด ตั้งแต่เขาเป็นนักกีฬาที่ไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว พอเขามาทำงานอย่างนี้ ต้องห่างเพราะมีทั้งซ้อมทั้งเก็บตัว เพื่อให้เขาทำงานได้อย่างเต็มที่ สิ่งที่เราทำให้ได้คือความเข้าใจ เราจะไม่ทำตัวง้องแง้งให้เขาไม่สบายใจ เรื่องที่บ้านไม่ต้องห่วง เราจัดการให้เรียบร้อย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เขาก็จะได้ไม่กังวล ทำงานได้อย่างเต็มไป เพราะเราอยู่ได้"

"ที่สำคัญ เรารักเขาที่เป็นแบบนี้ เมื่อเราเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิตเรา เราก็รู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาเป็นแบบนี้ เราซัพพอร์ตเขาดีกว่า เพราะน้อยคนที่จะได้ทำสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ อย่าไปเป็นอุปสรรคเขา เราก็ไปทำอะไรที่เราชอบ อย่าเอาชีวิตไปผูกกันเยอะ ให้กำลังใจกันไปดีกว่า"

 


จิรภรณ์ พรหมรัตน์ แบ๊กหลังความสำเร็จ โค้ชโชคทวี


เป็นศรีภรรยาของโค้ชฟุตบอลมือฉมัง แต่ผู้หญิงคนนี้บอกตรงๆ เลยว่า "ดูฟุตบอลไม่เป็น" และ "ไม่เคยไปดูโค้ชเล่นฟุตบอล" หรือ "ไปดูตอนซ้อม" ไม่เค้ย ไม่เคย

"ถ้าเราไปเขาจะเป็นห่วง จะคอยมองตลอด ทำให้เสียสมาธิ เลยตัดสินใจไม่ไป แต่จะโทรศัพท์คุยไลน์ให้กำลังใจกันทุกวัน บอกรักกันทุกวัน อยากให้เขาทำงานให้สนุก และที่บ้านเราจะคุยกันเรื่องอื่นที่ไม่ใช่บอล เพื่อให้เขารีแลกซ์บ้าง อยู่บ้านเขาจะตลก ชอบแหย่ ชอบแกล้งให้เราขำ"

แต่แมตช์ซีเกมส์กับอินโดนีเซียที่ผ่านมา เธอได้รับอนุญาตจากโค้ชโชคให้เข้าไปเชียร์ถึงขอบสนาม

"ที่ไปได้ เพราะแฟนโค้ชซิโก้ชวนไปดู เป็นโอกาสดี ถ้าไปเองพี่โชคไม่ให้ไป แต่พอไปก็ได้คุยกันแป๊บเดียว"

แต่เมื่อโค้ชโชคหมดภารกิจกลับบ้าน สิ่งที่ทั้งคู่เอ็นจอยร่วมกันคือ จูงมือกันไปกิน "เนื้อย่างญี่ปุ่น-เนื้อย่างเกาหลี" เมนูโปรดของทั้งคู่

"แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว" เธอว่า

อีกสิ่งที่ทำร่วมกันเสมอคือ "ทัวร์ไหว้พระ"

"เขาธรรมะ ธรรมโมมาก ไหว้พระ สวดมนต์ตลอด ช่วงไหนหยุดยาวเราก็ไปทัวร์ไหว้พระกัน เวลาว่างก็ทำบุญ บริจาคเงินโรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคเลือด ทำสังฆทาน"

เป็นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งหลังบ้านโค้ชโชคทวียึดคติในการดำเนินชีวิตว่า

"ทำวันนี้ให้มีความสุข เพราะพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นไม่รู้" จิรภรณ์ทิ้งท้าย

จากวลีที่ว่า "เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชาย มักมีผู้หญิงอยู่เบื้องหลังเสมอ" คู่ของโค้ชโชคและจิรภรณ์ก็เช่นกัน


ขอบคุณข่าวสารดีๆจาก ::http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435754644

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์