บิ๊กแมตช์ศึกไทยพรีเมียร์ลีก ค่ำนี้ (18 ส.ค.) จ่าฝูง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรอชำระแค้น "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี
โดยเจ้าถิ่นจะได้ คริสเตียน คัวคู หัวหอกไอวอรีโคสต์ พ้นโทษแบนกลับมายืนสังหารประตูคู่กับ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ขณะที่ทีมเยือน บางกอกกล๊าส กำลังคึก แถมอาวุธครบมือทั้ง ไมเคิล เบิร์น และ ซามูเอล อาจายี่ ที่ฟอร์มกำลังฮอตสุดขีด คู่นี้ "สยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19" ถ่ายทอดสดเวลา 19.00 น.
ศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลกที่สอง แมตช์ "มิดวีก" กลางสัปดาห์ วันนี้(18 ส.ค.) จะฟาดแข้งกันเป็น "นัดที่ 21" รวดเดียว 8 คู่ 8 สนาม โดยโฟกัสอยู่ที่เกมบิ๊กแมตช์ซึ่งทีมจ่าฝูง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านสนามยามาฮ่า สเตเดียม รับการมาเยือนของขุนพล "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง โดยเลกแรกที่คู่นี้พบกันมาที่ลีโอ สเตเดียม เป็น บางกอกกล๊าส ที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับเมืองทองฯเป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งเกมนี้จะมีการถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ในเวลา 19.00 น.
สำหรับความพร้อมของเจ้าถิ่น เมืองทองฯ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของทีมกิเลนผยอง เผยว่า เกมนี้เราจะได้ผู้เล่นฟูลทีมสมบูรณ์ทุกขุมกำลัง โดยคริสเตียน คัวคู หัวหอกไอวอรีโคสต์จะกลับมายืนประจำการในตำแหน่งศูนย์หน้าคู่กับ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา
"แม้ว่าบางกอกกล๊าสกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มน่ากลัวก็จริง แต่เรามองเห็นจุดอ่อนของพวกเขาไม่น้อย และเชื่อว่ากลับมาเล่นในบ้านคราวนี้จะต้องล้างแค้นเก็บ 3 แต้มให้ได้ หลังจากเลกแรกบุกไปพ่ายเขามาอย่างน่าเจ็บใจ ซึ่งหากทำสำเร็จโบนัสของนักเตะจะพุ่งขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท" บิ๊กเป้กล่าวอย่างมั่นใจ
ทางด้านทีม "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส ของกุนซือบราซิล คาร์ลอส โรเบอร์โต คาร์วัลโญ ซึ่งเกมล่าสุดเพิ่งบุกไปถล่มทหารบกถึงถิ่น 3-1 ทำให้พกความมั่นใจมาเยือนเมืองทองฯเต็มกระเป๋า โดยแนวรุกของทีมทั้ง ซามูเอล อาจายี่ กับ ไมเคิล เบิร์น ปีกชาวเวลส์ กำลังฟอร์มร้อนแรง ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง น่าจะสร้างอันตรายให้กับแผงหลังของทีมกิเลนผยองได้ไม่น้อย
ส่วนอีกหนึ่งเกมบิ๊กแมตช์ที่สนาม สพล.ชลบุรี "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูง ที่มีแต้มตามหลัง เมืองทองฯ อยู่ 5 คะแนน จะเปิดรังรับการมาเยือนของ "มังกรไฟ 3 เค" บีอีซี เทโร-ศาสน ทีมอันดับ 8 ในเวลา 18.00 น. โดย ช่อง 11 จะถ่ายทอดสดทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยเกมนี้น่าจะเป็นงานหนักของชลบุรีอีกนัด หลังนักเตะตัวหลักหลายคนได้รับบาดเจ็บกลับมาจากเกมบุกเชือดศรีสะเกษเมื่อวันเสาร์ ขณะเดียวกันจะไม่มี เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่ติดโทษแบนในเกมนี้พอดีด้วย ทำให้สภาพทีมน่าจะอ่อนยวบลงไปไม่น้อย มาเจอทีมมังกรไฟ 3 เค ที่กำลังคึกสุดขีดหลังจากเพิ่งเอาชนะเพื่อนตำรวจมา 2-0 อย่างไรก็ดี เกมนี้ เทโรฯ จะไม่มีหัวหอกซุปเปอร์สตาร์ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่ติดโทษแบนพอดี
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งเกมที่ไม่ควรพลาด ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ซึ่งทีม "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง ที่มี "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล โค้ชแอนด์เพลเยอร์ นำทัพ จะบุกขึ้นมาเยือนทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์-พีอีเอ ทีมอันดับ 3 ซึ่งเกมนี้น่าสนใจตรงที่หากทีมเยือนพัทยาฯบุกมาคว้าชัยชนะได้ ก็จะแซงบุรีรัมย์ฯขึ้นไปอยู่ที่ 3 แทนทันที เพราะขณะนี้แต้มห่างกันแค่คะแนนเดียวเท่านั้น โดยเจ้าถิ่นมีจุดแข็งอยู่ที่คู่ศูนย์หน้า พิพัฒน์ ต้นกันยา กับ ดูดู้ ดาวยิงแซมบ้า ขณะที่แข้งโลมามี ลูโดวิช ทาคาม หัวหอกหุ่นมะขามข้อเดียวชาวแคเมอรูน ที่กดไปแล้ว 12 ลูก นำเป็นดาวซัลโวของศึกไทยพรีเมียร์ลีกอยู่ในตอนนี้เป็นอาวุธสำคัญ โดยแมตช์นี้จะมีการถ่ายทอดสดทางฟุตบอลสยาม ทีวี "ดีทีวี 50" ในเวลา 17.00 น.
สำหรับอีก 5 เกมที่เหลือในวันเดียวกัน ประกอบด้วย ที่สนามกีฬากลาง จ.พิจิตร "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร พบกับ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ในเวลา 16.30 น. ทีสปอร์ต ถ่ายทอดสด ที่สนามแพทสเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี พบกับ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี เวลา 17.00 น. ซึ่งนัดนี้น่าจับตาตรงที่หากทีโอทีฯตกเป็นฝ่ายปราชัย "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่ของทีมมีสิทธิกระเด็นพ้นเก้าอี้สูง
ส่วนที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง เจอกับ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด เวลา 17.00 น. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทีมบ๊วย แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดศึกหนีตายกับทหารบก ในเวลา 18.00 น. และคู่สุดท้าย เพื่อนตำรวจ พบศรีสะเกษ เอฟซี ในเวลา 19.00 น. ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
ศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2010 เลกที่สอง แมตช์ "มิดวีก" กลางสัปดาห์ วันนี้(18 ส.ค.) จะฟาดแข้งกันเป็น "นัดที่ 21" รวดเดียว 8 คู่ 8 สนาม โดยโฟกัสอยู่ที่เกมบิ๊กแมตช์ซึ่งทีมจ่าฝูง "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านสนามยามาฮ่า สเตเดียม รับการมาเยือนของขุนพล "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 6 ของตาราง โดยเลกแรกที่คู่นี้พบกันมาที่ลีโอ สเตเดียม เป็น บางกอกกล๊าส ที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับเมืองทองฯเป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ ด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งเกมนี้จะมีการถ่ายทอดสดทางสยามกีฬาทีวี เอ็นบีที 19 ในเวลา 19.00 น.
สำหรับความพร้อมของเจ้าถิ่น เมืองทองฯ "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้จัดการทั่วไปของทีมกิเลนผยอง เผยว่า เกมนี้เราจะได้ผู้เล่นฟูลทีมสมบูรณ์ทุกขุมกำลัง โดยคริสเตียน คัวคู หัวหอกไอวอรีโคสต์จะกลับมายืนประจำการในตำแหน่งศูนย์หน้าคู่กับ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา
"แม้ว่าบางกอกกล๊าสกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มน่ากลัวก็จริง แต่เรามองเห็นจุดอ่อนของพวกเขาไม่น้อย และเชื่อว่ากลับมาเล่นในบ้านคราวนี้จะต้องล้างแค้นเก็บ 3 แต้มให้ได้ หลังจากเลกแรกบุกไปพ่ายเขามาอย่างน่าเจ็บใจ ซึ่งหากทำสำเร็จโบนัสของนักเตะจะพุ่งขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 8 แสนบาท" บิ๊กเป้กล่าวอย่างมั่นใจ
ทางด้านทีม "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส ของกุนซือบราซิล คาร์ลอส โรเบอร์โต คาร์วัลโญ ซึ่งเกมล่าสุดเพิ่งบุกไปถล่มทหารบกถึงถิ่น 3-1 ทำให้พกความมั่นใจมาเยือนเมืองทองฯเต็มกระเป๋า โดยแนวรุกของทีมทั้ง ซามูเอล อาจายี่ กับ ไมเคิล เบิร์น ปีกชาวเวลส์ กำลังฟอร์มร้อนแรง ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง น่าจะสร้างอันตรายให้กับแผงหลังของทีมกิเลนผยองได้ไม่น้อย
ส่วนอีกหนึ่งเกมบิ๊กแมตช์ที่สนาม สพล.ชลบุรี "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมรองจ่าฝูง ที่มีแต้มตามหลัง เมืองทองฯ อยู่ 5 คะแนน จะเปิดรังรับการมาเยือนของ "มังกรไฟ 3 เค" บีอีซี เทโร-ศาสน ทีมอันดับ 8 ในเวลา 18.00 น. โดย ช่อง 11 จะถ่ายทอดสดทั่วประเทศตั้งแต่เวลา 18.00 น. โดยเกมนี้น่าจะเป็นงานหนักของชลบุรีอีกนัด หลังนักเตะตัวหลักหลายคนได้รับบาดเจ็บกลับมาจากเกมบุกเชือดศรีสะเกษเมื่อวันเสาร์ ขณะเดียวกันจะไม่มี เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่ติดโทษแบนในเกมนี้พอดีด้วย ทำให้สภาพทีมน่าจะอ่อนยวบลงไปไม่น้อย มาเจอทีมมังกรไฟ 3 เค ที่กำลังคึกสุดขีดหลังจากเพิ่งเอาชนะเพื่อนตำรวจมา 2-0 อย่างไรก็ดี เกมนี้ เทโรฯ จะไม่มีหัวหอกซุปเปอร์สตาร์ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่ติดโทษแบนพอดี
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งเกมที่ไม่ควรพลาด ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ซึ่งทีม "โลมามหาภัย" พัทยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง ที่มี "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล โค้ชแอนด์เพลเยอร์ นำทัพ จะบุกขึ้นมาเยือนทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์-พีอีเอ ทีมอันดับ 3 ซึ่งเกมนี้น่าสนใจตรงที่หากทีมเยือนพัทยาฯบุกมาคว้าชัยชนะได้ ก็จะแซงบุรีรัมย์ฯขึ้นไปอยู่ที่ 3 แทนทันที เพราะขณะนี้แต้มห่างกันแค่คะแนนเดียวเท่านั้น โดยเจ้าถิ่นมีจุดแข็งอยู่ที่คู่ศูนย์หน้า พิพัฒน์ ต้นกันยา กับ ดูดู้ ดาวยิงแซมบ้า ขณะที่แข้งโลมามี ลูโดวิช ทาคาม หัวหอกหุ่นมะขามข้อเดียวชาวแคเมอรูน ที่กดไปแล้ว 12 ลูก นำเป็นดาวซัลโวของศึกไทยพรีเมียร์ลีกอยู่ในตอนนี้เป็นอาวุธสำคัญ โดยแมตช์นี้จะมีการถ่ายทอดสดทางฟุตบอลสยาม ทีวี "ดีทีวี 50" ในเวลา 17.00 น.
สำหรับอีก 5 เกมที่เหลือในวันเดียวกัน ประกอบด้วย ที่สนามกีฬากลาง จ.พิจิตร "สิงห์เหนือ" ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร พบกับ "พลังเอ็ม" โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี ในเวลา 16.30 น. ทีสปอร์ต ถ่ายทอดสด ที่สนามแพทสเตเดี้ยม "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือไทย เอฟซี พบกับ "วิหคเพลิง" ทีโอที แคท เอฟซี เวลา 17.00 น. ซึ่งนัดนี้น่าจับตาตรงที่หากทีโอทีฯตกเป็นฝ่ายปราชัย "โค้ชต้อม" ณรงค์ สุวรรณโชติ กุนซือใหญ่ของทีมมีสิทธิกระเด็นพ้นเก้าอี้สูง
ส่วนที่สนามกีฬากลาง จ.ระยอง "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง เจอกับ "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม ทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด เวลา 17.00 น. ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทีมบ๊วย แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดศึกหนีตายกับทหารบก ในเวลา 18.00 น. และคู่สุดท้าย เพื่อนตำรวจ พบศรีสะเกษ เอฟซี ในเวลา 19.00 น. ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
