ไทยเฉือนโสม1-0 ชิงคิงสคัพดวลอิรัก

29 ธ.ค.สนามราชมังคลาฯ


"ปฏิภาณ" โขกประตูชัยดับ "โสมแดง" พาทีมไทยลิ่วงชิง "คิงสคัพ" กับ "อิรัก" 29 นี้ "ชาญวิทย์" พอใจฟอร์มลูกทีมเล่นได้ตามแทคติก ยันเจอ 3 ทีมไม่ใช่หมู จะมาวาดฝันบุกตะลุย " ถล่มแหลก" ควไม่ได้ โว "รอบชิง" จัดผู้เล่น "เจ๋ง" สุดลงสนาม ขอคว้าแชมป์เอาชัยก่อนโม่แข้ง "บอลโลก"
 
การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงสคัพ ครั้งที่ 38

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน นักเตะทีมชาติไทย ที่เอาชนะ อุซเบกิสถาน 3-2 และ ชนะ อิรัก 2-1 ได้ผ่านเข้าชิงชนะเลิศอย่างแน่นอนแล้ว ลงสนามเป็นนัดสุดท้าย พบกับ “โสมแดง” เกาหลีเหนือ ที่แพ้ อิรัก 0-1 และ เสมอ อุซเบกิสถาน 2-2 โดยทีมไทยส่งผู้เล่น 11 คนแรก ประกอบไปด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ปรัชญ์ สมัครราษฎร์, ปฏิภาณ เพชรพูล, นิเวส ศิริวงศ์, ณัฐพงษ์ สมณะ, ธีรศิลป์ แดงดา, นิรุจน์ สุระเสียง (กัปตันทีม), ณรงค์ชัย วชิรบาล, สุริยา ดอมไธสง, พิพัฒน์ ต้นกันยา และ ธีรเทพ วิโนทัย
 
เริ่มเกมทีมไทยพยายามต่อบอลทำเกมรุก
 
แต่เจอการวิ่งไล่ตัดบอลเร็วของผู้เล่นเกาหลีเหนือ จึงทำอะไรไม่ถนัด นาทีที่ 15 ณรงค์ชัย วชิรบาล ทำชิ่งให้ ธีรเทพ วิโนทัย กระชากบอลไปสุดเส้นหลัง กราบขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางมาให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา ที่ยืนคนเดียวโล่ง ๆ แต่ดาวยิงของสโมสร “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน กลับยิงบอลหน้าปากประตูระยะแค่ 5 หลา ออกนอกกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ทีมไทยพลาดโอกาสขึ้นนำ


จากนั้น “โสมแดง” ดาหน้าบุกเข้าใส่ทีมไทย
 
แต่ยังไม่มีจังหวะซัดบอลถนัด ๆ นาทีที่ 18 ณรงค์ชัย จ่ายบอลให้ ธีรศิลป์ ชิ่งบอลกลับคืนมาให้ ณรงค์ชัย ยิงด้วยขวาระยะ 25 หลา แต่บอลไปบดกับพื้นเลยทำให้ นายทวาร “ทีมเยือน” รับแบบสบาย ๆ จบครึ่งแรก เสมอกัน 0-0 แต่รูปเกมทีมไทยเป็นรองเกาหลีเหนือ
 
ครึ่งหลังทีมไทย

เปลี่ยน พิภพ อ่อนโม้ ลงไปแทน พิพัฒน์ ต้นกันยา  นาทีที่ 53 ธีรศิลป์ แดงดา ลองซัดจากระยะ 25 หลา แต่เข้าซองนายทวาร “โสมแดง” นาทีที่ 55 ทีมไทยได้ฟรีคิกกราบขวาระยะ 35 หลา  ณรงค์ชัย เปิดบอลไซด์โค้งเข้ากลาง ปฏิภาณ เพชรพูล วิ่งเข้ามาพุ่งตัวโขกคนเดียว บอลเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้ทีมไทยออกนำ 1-0
 
นาทีที่ 60 เกาหลีเหนือ
 
เกือบตีเสมอสำเร็จ เมื่อ ชา จอง ยอก ได้โอกาสขึ้นโหม่งเต็ม ๆ บอลกำลังจะพุ่งเสียบเสา แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน โชว์ความเหนียว กระโดดพุ่งปัดบอลออกหลังไปได้ จากนั้นทีมไทยทยอยเปลี่ยน สุเชาว์ นุชนุ่ม, กิตติศักดิ์ ธนสุวรรณ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, อานนท์ สังสระน้อย ลงไปแทน สุริยา, ณรงค์ชัย, ธีรเทพและ ธีรศิลป์ ช่วงท้ายเกม อานนท์ ได้จังหวะยิงเฉี่ยวเสาออกไป ขณะที่ มุน อิน กุ๊ก โหม่งชนคาน จบเกมทีมไทยเลยเอาชนะเกาหลีเหนือ 1-0 ลงเตะ 3 นัด มี 9 แต้ม ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ อิรัก ที่เอาชนะ   อุซเบกิสถาน 3-1 ในวันที่ 29 ธ.ค. เวลา 18.00 น.

หลังเกม “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวว่า
 
พอใจกับการได้ 9 แต้ม แม้หลายคนอาจจะเห็นว่าเกมไม่ดีมากนัก แต่ในความเป็นจริงนักเตะไทยเล่นได้ตามแทคติกที่วางเอาไว้ทั้ง 3 นัด และต้องไม่ลืมว่านี่คือการเจอทีมระดับชั้นนำของเอเชีย เรื่องจะไปไล่ต้อนเอาชนะกันง่าย ๆ ไม่มีทาง อย่าติดภาพฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ว่าแต่ละทีมต้องเล่นสวยยิงประตูกันเยอะ ส่วนเกมนัดชิงกับอิรัก จะพยายามจัดผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม และคว้าแชมป์ให้ได้
 
ขณะที่ “ต๊อบ” ปฏิภาณ เพชรพูล ที่โหม่งพังประตูชัยให้ทีมไทย กล่าวว่า
 
ดีใจที่ทำประตูได้ การเล่นกับเกาหลีเหนือไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีสมาธิ ตลอดเกม ทีมไทยมีจังหวะทำเกมรุกสวย ๆ เข้าไปทำประตูหลายครั้ง และนัดนี้ก็ช่วยกันเล่นเกมรับได้ดี หากได้โอกาสจาก “โค้ชหรั่ง” ให้ลงเล่นอีก จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อโอกาสในการติดทีมชาติอย่างสม่ำเสมอ
 
ด้าน คิม จอง ฮุน ผู้จัดการทีมเกาหลีเหนือ กล่าวว่า

ทีมไทยเล่นกันได้ดี โดยเฉพาะเกมรับ อย่างไรก็ตามนัดนี้เกาหลีเหนือค่อนข้างโชคร้าย ที่มีโอกาสทำประตูแบบจะจะ 2-3 ครั้ง แต่กลับชนคาน หรือถูกป้องกันไว้ได้ การมาเล่นคิงสคัพ จัดว่าเป็นการเตรียมทีมที่ดี ก่อนจะแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ  คัดเลือก และทีมไทยมีโอกาสมากที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 10 ทีมสุดท้ายได้.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์