พิธีปิดซีเกมส์ใหญ่ประทับใจ

"ทัพกีฬาไทย"โกย183ทองอัดฉีดทะลัก 

ซีเกมส์โคราชยอดเงินอัดฉีดทะลักรัฐจ่าย 169 ล้านบาท หลังทัพกีฬาไทยโกยไป 183 เหรียญทองสมาคมฟุตบอลเจ้าเดียวรับกว่า 20 ล้าน ขณะที่พิธีปิดสวยงามการแสดงสุดประทับใจตามสไตล์ “ศุภักษร” “นางพระจันทร์” ดับไฟคบเพลิง “สุรยุทธ์” รับ “อิสริยาภรณ์” จาก “ไอโอซี” ให้สัมภาษณ์พอใจกับซีเกมส์หนนี้ ส่วน “เงือกอุ้ม” ณัชฐานันตร์คว้ายอดเยี่ยมหญิงหลังหยิบไป 4 ทอง หนต่อไปลาวรับเป็นเจ้าภาพ “เวียงจันทน์เกมส์” ปี 2552 ย้ำชัดรับได้แค่ 25 ชนิดกีฬา การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จังหวัดนครราชสีมา ได้มีพิธีปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธาน ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ขณะเดียวกันตัวแทนของคณะกรรม  การโอลิมปิคสากล (ไอโอซี) ได้มอบอิสริยาภรณ์ “โอลิมปิก ออร์เดอร์” ให้กับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นบุคคลที่สนับสนุนวงการกีฬา ส่วนการแสดงในพิธีปิดภายใต้การดูแลของ “ศุภักษร” หรือ ศุภวัฒน์ จงศิริ มีทั้งหมด 7 ชุดที่สวยงาม สร้างความประทับใจให้กับผู้ชม

เริ่มตั้งแต่การแสดงชุดที่ 1
 
“นิรมิต... ดอกไม้งามแห่งน้ำใจ” การแสดงชุดที่ 2 “นิรมิต... สายใยแห่งความฝัน” การแสดงชุดที่ 3 “นิรมิต...   มรดกโลกเรืองอนันต์” การแสดงชุดที่ 4 “นิรมิต... ความผูกพันวันจากไกล” จากนั้นเป็นการเดินพาเหรดของนักกีฬาจากชาติต่าง ๆ พร้อมกับการ   มอบรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน โดยนักกีฬายอดเยี่ยม (ชาย) เป็นของ มิเกล โมลินา (ฟิลิปปินส์) ที่สร้างผลงานได้โดดเด่น ด้วยการคว้า 4 เหรียญทอง จากว่ายน้ำ ส่วนนักกีฬายอดเยี่ยม (หญิง) เป็นของ “น้องอุ้ม” ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง นักว่ายน้ำสาว ที่คว้าไป 4 เหรียญทอง ต่อด้วยการส่งมอบธงให้กับท่านสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ในฐานะประธานจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ปี 2552 พร้อมกับมีการแสดงที่สวยงาม
 
จากนั้นเป็นการแสดงชุดที่ 5
 
“นิรมิต...  ไฟดาวพราวความหวัง” มี “นางพระจันทร์” ออกมาโปรยเกล็ดดาว ลอยล่องไปดับไฟในกระถางคบเพลิง สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชม ต่อด้วยการแสดงชุดที่ 6 “นิรมิต...โลกจีรังดั่งฝันใฝ่” และการแสดงชุดที่ 7 “นิรมิต...ความสุขล้ำโรจน์อำไพ เปล่งปรากฏความยิ่งใหญ่” เป็นการปิดฉากกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 อย่างเป็นทางการ ซึ่งตลอดการแสดงทั้ง 7 ชุด ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมรอบสนามเป็นอย่างมาก และทุกคนต่างพอใจกับภาพความสวยงามที่ได้เห็นในสนาม

หลังพิธีปิดการแข่งขันจบลง “ศุภักษร” กล่าวว่า
 
แม้จะเหน็ดเหนื่อยมานาน แต่ก็รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ที่ได้เห็นการแสดงทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้ ต้องขอขอบคุณนักแสดงกว่า 8,000 คน ซึ่งเป็น “ลูกหลานชาวโคราช” โดยการรับหน้าที่ดูแลการแสดงในพิธีเปิด-ปิดกีฬาซีเกมส์ ของประเทศไทยหนนี้ คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ทำหน้าที่อันสำคัญให้กับบ้านเกิด เพราะในอนาคตคงจะเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสานงานต่อ ส่วนการทำงานครั้งนี้ ได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจแบบสุด ๆ เพื่อถวายแด่ “ในหลวง” สำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาวนั้นคงจะเข้าไปดูแลในเรื่องของเทคนิคและให้คำปรึกษาในเรื่องของการแสดงต่าง ๆ 
 
ส่วนเจ้าภาพซีเกมส์หนต่อไป

ครั้งที่ 25 ลาวจะเป็นเจ้าภาพ จัดในเดือน ธ.ค. ปี 2552  ท้าวพูทอง แสงอาคม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของลาว และประธานคณะกรรมการ โอลิมปิกลาว แจ้งว่า จะจัดการชิงชัย 25 ชนิดกีฬา ระหว่างวันที่ 13-22 ธ.ค. 52 ประกอบไปด้วย ว่ายน้ำและกระโดดน้ำ, ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, โบว์ลิ่ง, มวยสากลสมัครเล่น, ฟุตบอล-ฟุตซอล, กอล์ฟ, แฮนด์บอล, ยูโด, คาราเต้โด, มวย, เป  ตอง, ปันจักสีลัต, เซปักตะกร้อ, ยิงปืน, ชัตเติ้ล  ค็อก (เตะลูกขนไก่), สนุกเกอร์-บิลเลียด, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, เรือยาวประเพณี, วอลเลย์บอล (ในร่ม-ชายหาด), มวยปล้ำ และวูซู ทำการแข่งขันที่ 3 ศูนย์หลัก คือ  เวียงจันทน์, สะหวันนะเขต และหลวงพระบาง

สรุปผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24
 
ทัพนักกีฬาไทยช่วยกันทำผลงานคว้ามาได้ 183 เหรียญทอง 123 เหรียญเงิน 103 เหรียญทองแดง คว้าเจ้าเหรียญทองมาครอง แต่ยังไม่ทำลายสถิติเหรียญทองสูงสุดของอินโดนีเซีย ที่ทำไว้ในซีเกมส์ครั้งที่ 19 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 1997 ที่ 194 เหรียญทอง อันดับ 2 คือ มาเลเซีย ทำได้ 68 เหรียญทอง 52 เหรียญเงิน 96 เหรียญทองแดง และอันดับ 3 เวียดนาม 64 เหรียญทอง 58 เหรียญเงิน 82 เหรียญทองแดง ส่วนติมอร์ตะวันออก ไม่ได้เหรียญใด ๆ ติดมือกลับไปเลย
 
จากความสำเร็จของนักกีฬาไทย ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 24

ซึ่งคว้ามาได้ 183 เหรียญทอง, 123 เหรียญเงิน, 103 เหรียญทองแดง นั้น ทำให้ยอดเงินรางวัลอัดฉีดที่รัฐบาลจะต้องจ่ายให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ผ่านทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ประมาณ 169 ล้านบาท (นักกีฬาประมาณ 113 ล้านบาท, สมาคมและผู้ฝึกสอน ประมาณ 56 ล้านบาท) โดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯที่คว้ามา 4 เหรียญทอง (ฟุตบอลชาย/ฟุตบอลหญิง/ฟุตซอลชาย/ฟุตซอลหญิง) เป็นสมาคมที่ได้รับเงินอัดฉีดมากที่สุดประมาณ 20.4 ล้านบาท.