อาร์มี่ 3-0 เมืองทอง














 

     
       กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์เก่า 2 สมัย พลาดท่าออกไปโดน ทีเด็ด สุภาษบุรุษวงจักร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ไล่ยิงขาดลอย 3-0 โดยทัพกิเลนผยอง ต้องเหลือ 10 ตัว เมื่อ อาทิตย์ ดาวสว่าง โดนใบเหลืองที่สอง ในช่วงต้นครึ่งหลัง ส่งให้ทัพ อาร์มี่ เก็บชัย 2 นัดติดได้แบบสะใจ ฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา




       การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา


    

อาร์มี่ ยูไนเต็ด 3-0 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด


 


       ที่สนามกองทัพ สุภาษบุรุษวงจักร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ที่ลงสนามไป 1 นัด ชนะ ศรีราชา ซูซูกิ 3-1 เปิดบ้านรับมือแชมป์เก่า 2 สมัย กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ลงสนามนัดแรกออกไปเสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี 0-0 โดยผลการแข่งขันที่พบกันซีซั่นก่อน ที่สนามแห่งนี้ ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2
 
       เกมนี้นอกจากแฟนบอลทั้งสองทีมที่แห่เข้ามาชมเกมในสนามแล้ว ยังมี เอ็นริเก้ คาลิสโต้ กุนซือชาวโปรตุเกส ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นนายใหญ่ของ เมืองทองฯ เข้ามาชมด้วย โดยได้รับความสนใจจากแฟนบอลและสื่อมวลชนที่จับตามองเป็นพิเศษ
 
       สำหรับ 11 ผู้เล่นในเกมนี้ของทั้งสองทีม เจ้าถิ่นส่ง ธาตรี สีหา ดาวยิงตัวเก่งลงล่าตาข่ายคู่กับ เลอันโดร โดส ซานโตส พร้อมมีแข้งต่างชาติทั้ง อเล็กซานโดร อัลเวส, วินิซิอุส เดอ คาร์วัลโญ่, โทนี่ เดอ ปินโญ่ และ ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า ลงสนาม
 
       ส่วนทีมเยือน เมืองทองฯ นำทัพโดยคู่กองหน้า อานนท์ สังข์สระน้อย กับ ธีรศิลป์ แดงดา พร้อมส่ง มิโรสลาฟ ทอธ ลงกระชากทางกราบขวา ส่วน จักรพันธ์ พรใส กระชากทางกราบซ้ายตามเดิม รวมถึง อาลี ดิยาร่า ที่เกมนี้ได้ลงสนามแทน ดัสกร ทองเหลา ที่ติดโทษแบน
 
       เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที เมืองทองฯ ได้ลุ้นจากฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้ายที่เปิดเข้าไปโดย จักรพันธ์ พรใส ให้ ภานุพงศ์ วงศ์ษา โหม่งบริเวณจุดโทษ ทว่าตรงตัว นราธิป พันธ์พร้อม รับเข้าซองสบาย
 
       อาร์มี่ ในฐานะเจ้าถิ่น หลังจากถูกทักทาย ก็เริ่มตั้งเกมของตนเองได้ โดยเป็นฝ่ายครองบอลและพยายามเจาะเข้าทำ ทว่าจังหวะสุดท้ายมักขาดๆ เกินๆ ตลอด
 
       นาทีที่ 10 จักรพันธ์ พรใส เปิดฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้ายอีกครั้ง แต่หนนี้ นราธิป พันธ์พร้อม นายทวารเจ้าถิ่นกระโดดปัดบอลออกหลังไปได้ และจากลูกเตะมุมที่ อาร์มี่ เคลียร์กันไม่ขาด ทำให้จังหวัสุดท้าย อาลี ดิยาร่า ได้ยิง  ทว่าหลุดกรอบออกไปอย่างน่า
 
       เจ้าถิ่นมีลุ้นเสียวเล็กน้อย นาทีที่ 19 จากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านทางฝั่งซ้ายของ ราฟาเอล ซานตาน่า ทว่า กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตู เมืองทองฯ ยังไม่พลาด ล้มตัวรับไว้ได้ติดมือ
 
       เกมผ่านมาครึ่งทางของครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังไม่สามารถหาโอกาสยิงแบบเหน่งๆ ได้ แม้ว่าจะพยายามเปิดเกมรุกเข้าหากันอยู่ตลอดก็ตาม แต่มักไปพลาดกันในจังหวะสุดท้ายมากกว่า
 
       นาทีที่ 27 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิก 25 หลากลางประตู และเป็น อานนท์ สังข์สระน้อย ที่รับหน้าที่ปั่นอ้อมกำแพงเหมือนจะเสียบสามเหลี่ยม ทว่า นราธิป พันธ์พร้อม ยังเหินตัวปัดบอลทิ้งออกหลังได้อย่างสวยงาม
 
       ท้ายครึ่งแรกกองเชียร์ อาร์มี่ เกือบได้เฮ เมื่อ ดาวุฒิ ดินเขต วิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเฉี่ยวคานออกหลังไปแบบได้ลุ้น ก่อนจบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
 
       ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ยังคงยึดนักเตะชุดเดิม ส่วน เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ปรับทัพด้วยการส่ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงสนามไปแทน อานนท์ สังข์สระน้อย ซึ่งเริ่ม เกมมาได้เพียง 2 นาที เมืองทองฯ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ อาทิตย์ ดาวสว่าง แบ็กขวาดาวรุ่ง ไปหวด ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า ในจังหวะที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดไปแล้ว ทำให้โดนใบเหลืองที่ สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป
 
       และถัดมา 3 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนามเมื่อ วันชนะ รัตนะ กองกลางกัปตันทีมตัว เก่ง ตะบันเต็มข้อในกรอบเขตโทษตุงตาข่ายให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0
 
       ถัดมาอีกเพียงไม่ถึงนาที อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทะยานนำห่างออกไปเมื่อ วินิซิอุซ เดอ คาร์วัลโญ่ หลุดไปทางฝั่งขวาก่อนถวายพานให้ ธาตรี สีหา ที่รออยู่หน้าประตูคนเดียวยิงโล่งๆ ไม่ เหลือซากให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด นำแชมป์เก่า 2-0
 
       หลังเสียประตู เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่าพยายามเปิดเกมรุกอย่างหนักหวังเอา ประตูตีไข่แตก ซึ่งมีโอกาสหลายครั้งในการพาบอลเข้ามาในแดนของเจ้าบ้าน ทว่ายังไม่สามารถหา จังหวะจบสกอร์แบบเหน่งๆ ได้
 
       นาทีที่ 60 เชซ เรห์มาน เติมเกมขึ้นมายิงแต่ นราธิป พันธ์พร้อม นายทวาร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ยังปัด บอลออกหลังไปได้
 
       เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยังคงบุกต่อเนื่อง และมาได้ลูกเตะมุม นาทีที่ 63 ทว่ากลับกลายเป็นมาเสีย ประตูที่สามเมื่อ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ฉกฉวยในจังหวะที่ผู้เล่น เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขึ้นมาลุ้นทำประตูใน เขตโทษตัวเอง ก่อนจะโต้กลับไว โดย วินิซิอุซ เดอ คาร์วัลโญ่ จ่ายบอลให้ เลอันโดร ดอส ซานโตส กระชากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายดวลกับ กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวาร เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ตัวต่อตัวก่อนชิพบอลข้ามตัว กวิน เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด นำห่างไปไกล 3-0
 
       แม้จะโดนนำห่างแต่ แชมป์เก่า ยังคงเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ โดยมาเป็นชุดเริ่ม จากนาทีที่ 69 ที่ คริสตียน จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ธีรศิลป์ แดงดา หักบอลกลับมาที่ ดานโญ่ เซีย ก้า ยิงเน้นๆ ในกรอบเขตโทษ ทว่าบอลชนเสาอย่างจัง
 
       นาทีที่ 77 คริสเตียน เคาคู ได้กลับตัวยิงในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้ นราธิป พันธ์พร้อม นายทวาร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนีวหนึบ ลอยตัวปัดบอลออกหลัง ไปได้อีก
 
       และถัดมา 3 นาที จักรพันธ์ พรใส ยิงฟรีคิกเต็มข้อ ทว่า นราธิป พันธ์พร้อม รับบอลจังหวะ แรกกระฉอกออกมา ก่อนที่ ดานโญ่ เซียก้า จะตามซ้ำ แต่ นราธิป ยังเอาตัวบล็อกลูกยิงของดาว เตะผิวสีรายนี้เอาไว้ได้
 
       ท้ายเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พยายามจะโหมบุก แต่ไม่สามารถเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นได้ ทำให้ จบเกม อาร์มี่ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ แชมป์เก่า เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 3-0 ซึ่งถือเป็นการแพ้ใน สกอร์ที่ห่างที่สุดของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ที่ขึ้นมาสู่ไทยลีก เมื่อปี 2009


 


       วาทะโค้ช 
       พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือ อาร์มี่ ยูไนเต็ด การชนะ 2 นัดติดต่อกันถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีมากๆ สำหรับทีมเรา ซึ่งแน่นอนว่าการเจอ เมืองทองฯ เป็นงานที่หนัก แม้ว่าเขาจะมีเกมก่อนหน้านี้ก็ตาม อย่างไรก็ดี 3-0 ถือเป็นสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิด แต่ต้องยอมรับว่าการที่เราได้สองประตูติดต่อกันทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้ลูกทีมทุกคนที่วันนี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม 
       โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ กุนซือ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ครึ่งหลังแสดงให้เห็นว่าเรามีอาการล้าพอสมควร จากการลงสนาม 3 เกมในรอบ 1 สัปดาห์ รวมถึงใบแดงของ อาทิตย์ ดาวสว่าง ที่ต้องบอกว่าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนที่ผู้เล่นจะโดนใบแดงหลังจากที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหยุดเกมไปแล้ว ดังนั้นถือว่าผู้ตัดสินมีส่วนสำหรับการตัดสินผลแพ้-ชนะในเกมนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้การเหลือ 10 คนเป็นเรื่องยาก ที่จะชนะและเราไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีด้วย


       รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม 
       อาร์มี่ ยูไนเต็ด : นราธิป พันธ์พร้อม 8, วันใหม่ เศรษฐนันท์ 7, อเล็กซานโดร อัลเวส 7, ศิวเมต ธนูศร  7.5, ดาวุฒิ ดินเขต 7, วันชนะ รัตนะ 7.5, วินิซิอุส เดอ คาร์วัลโญ่ 7.5 (จารุพงศ์ สังข์พงศ์ -), โทนี่ เดอ  ปินโญ่ 7, ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า 7.5, ธาตรี สีหา 7.5 (จักรพงษ์ สมบูรณ์ 6), ลีอันโดร ดอส ซานโต ส 7.5 
       เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6, อาทิตย์ ดาวสว่าง 5, ภานุพงศ์ วงศ์ษา 6, เชซ เรห์มาน  6, วีรวุฒิ กาเหย็ม 5.5 (อมร ธรรมนาม 6), มิโรสราฟ ทอธ 5 (คริสเตียน 6), อาลี ดิยาร่า 6, ดานโญ่  เซียก้า 6.5, จักรพันธ์ พรใส 6.5, อานนท์ สังข์สระน้อย 5 (พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 6), ธีรศิลป์ แดงดา 6.5


       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : นราธิป  พันธ์พร้อม ผู้รักษาประตูอาร์มี่ ยูไนเต็ด




src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110305J1M4P.jpg



src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110305H8N3L.jpg
 กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์เก่า 2 สมัย พลาดท่าออกไปโดน ทีเด็ด สุภาษบุรุษวงจักร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ไล่ยิงขาดลอย 3-0 โดยทัพกิเลนผยอง ต้องเหลือ 10 ตัว เมื่อ อาทิตย์ ดาวสว่าง โดนใบเหลืองที่สอง ในช่วงต้นครึ่งหลัง ส่งให้ทัพ อาร์มี่ เก็บชัย 2 นัดติดได้แบบสะใจ ฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา




       การแข่งขันฟุตบอล ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา


    

อาร์มี่ ยูไนเต็ด 3-0 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด


 



       ที่สนามกองทัพ สุภาษบุรุษวงจักร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 6 ที่ลงสนามไป 1 นัด ชนะ ศรีราชา ซูซูกิ 3-1 เปิดบ้านรับมือแชมป์เก่า 2 สมัย กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ลงสนามนัดแรกออกไปเสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี 0-0 โดยผลการแข่งขันที่พบกันซีซั่นก่อน ที่สนามแห่งนี้ ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2
 
       เกมนี้นอกจากแฟนบอลทั้งสองทีมที่แห่เข้ามาชมเกมในสนามแล้ว ยังมี เอ็นริเก้ คาลิสโต้ กุนซือชาวโปรตุเกส ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นนายใหญ่ของ เมืองทองฯ เข้ามาชมด้วย โดยได้รับความสนใจจากแฟนบอลและสื่อมวลชนที่จับตามองเป็นพิเศษ
 
       สำหรับ 11 ผู้เล่นในเกมนี้ของทั้งสองทีม เจ้าถิ่นส่ง ธาตรี สีหา ดาวยิงตัวเก่งลงล่าตาข่ายคู่กับ เลอันโดร โดส ซานโตส พร้อมมีแข้งต่างชาติทั้ง อเล็กซานโดร อัลเวส, วินิซิอุส เดอ คาร์วัลโญ่, โทนี่ เดอ ปินโญ่ และ ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า ลงสนาม
 
       ส่วนทีมเยือน เมืองทองฯ นำทัพโดยคู่กองหน้า อานนท์ สังข์สระน้อย กับ ธีรศิลป์ แดงดา พร้อมส่ง มิโรสลาฟ ทอธ ลงกระชากทางกราบขวา ส่วน จักรพันธ์ พรใส กระชากทางกราบซ้ายตามเดิม รวมถึง อาลี ดิยาร่า ที่เกมนี้ได้ลงสนามแทน ดัสกร ทองเหลา ที่ติดโทษแบน
 
       เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที เมืองทองฯ ได้ลุ้นจากฟรีคิกริมเส้นฝั่งซ้ายที่เปิดเข้าไปโดย จักรพันธ์ พรใส ให้ ภานุพงศ์ วงศ์ษา โหม่งบริเวณจุดโทษ ทว่าตรงตัว นราธิป พันธ์พร้อม รับเข้าซองสบาย
 
       อาร์มี่ ในฐานะเจ้าถิ่น หลังจากถูกทักทาย ก็เริ่มตั้งเกมของตนเองได้ โดยเป็นฝ่ายครองบอลและพยายามเจาะเข้าทำ ทว่าจังหวะสุดท้ายมักขาดๆ เกินๆ ตลอด
 
       นาทีที่ 10 จักรพันธ์ พรใส เปิดฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้ายอีกครั้ง แต่หนนี้ นราธิป พันธ์พร้อม นายทวารเจ้าถิ่นกระโดดปัดบอลออกหลังไปได้ และจากลูกเตะมุมที่ อาร์มี่ เคลียร์กันไม่ขาด ทำให้จังหวัสุดท้าย อาลี ดิยาร่า ได้ยิง  ทว่าหลุดกรอบออกไปอย่างน่า
 
       เจ้าถิ่นมีลุ้นเสียวเล็กน้อย นาทีที่ 19 จากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านทางฝั่งซ้ายของ ราฟาเอล ซานตาน่า ทว่า กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตู เมืองทองฯ ยังไม่พลาด ล้มตัวรับไว้ได้ติดมือ
 
       เกมผ่านมาครึ่งทางของครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังไม่สามารถหาโอกาสยิงแบบเหน่งๆ ได้ แม้ว่าจะพยายามเปิดเกมรุกเข้าหากันอยู่ตลอดก็ตาม แต่มักไปพลาดกันในจังหวะสุดท้ายมากกว่า
 
       นาทีที่ 27 เมืองทองฯ ได้ฟรีคิก 25 หลากลางประตู และเป็น อานนท์ สังข์สระน้อย ที่รับหน้าที่ปั่นอ้อมกำแพงเหมือนจะเสียบสามเหลี่ยม ทว่า นราธิป พันธ์พร้อม ยังเหินตัวปัดบอลทิ้งออกหลังได้อย่างสวยงาม
 
       ท้ายครึ่งแรกกองเชียร์ อาร์มี่ เกือบได้เฮ เมื่อ ดาวุฒิ ดินเขต วิ่งเข้ามาซัดเต็มข้อบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเฉี่ยวคานออกหลังไปแบบได้ลุ้น ก่อนจบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
 
       ครึ่งหลังกลับมาเล่นกันใหม่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ยังคงยึดนักเตะชุดเดิม ส่วน เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ปรับทัพด้วยการส่ง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ลงสนามไปแทน อานนท์ สังข์สระน้อย ซึ่งเริ่ม เกมมาได้เพียง 2 นาที เมืองทองฯ ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ อาทิตย์ ดาวสว่าง แบ็กขวาดาวรุ่ง ไปหวด ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า ในจังหวะที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดไปแล้ว ทำให้โดนใบเหลืองที่ สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป
 
       และถัดมา 3 นาที กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนามเมื่อ วันชนะ รัตนะ กองกลางกัปตันทีมตัว เก่ง ตะบันเต็มข้อในกรอบเขตโทษตุงตาข่ายให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0
 
       ถัดมาอีกเพียงไม่ถึงนาที อาร์มี่ ยูไนเต็ด ทะยานนำห่างออกไปเมื่อ วินิซิอุซ เดอ คาร์วัลโญ่ หลุดไปทางฝั่งขวาก่อนถวายพานให้ ธาตรี สีหา ที่รออยู่หน้าประตูคนเดียวยิงโล่งๆ ไม่ เหลือซากให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด นำแชมป์เก่า 2-0
 
       หลังเสียประตู เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ตัวผู้เล่นน้อยกว่าพยายามเปิดเกมรุกอย่างหนักหวังเอา ประตูตีไข่แตก ซึ่งมีโอกาสหลายครั้งในการพาบอลเข้ามาในแดนของเจ้าบ้าน ทว่ายังไม่สามารถหา จังหวะจบสกอร์แบบเหน่งๆ ได้
 
       นาทีที่ 60 เชซ เรห์มาน เติมเกมขึ้นมายิงแต่ นราธิป พันธ์พร้อม นายทวาร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ยังปัด บอลออกหลังไปได้
 
       เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยังคงบุกต่อเนื่อง และมาได้ลูกเตะมุม นาทีที่ 63 ทว่ากลับกลายเป็นมาเสีย ประตูที่สามเมื่อ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ฉกฉวยในจังหวะที่ผู้เล่น เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขึ้นมาลุ้นทำประตูใน เขตโทษตัวเอง ก่อนจะโต้กลับไว โดย วินิซิอุซ เดอ คาร์วัลโญ่ จ่ายบอลให้ เลอันโดร ดอส ซานโตส กระชากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายดวลกับ กวิน ธรรมสัจจานันท์ นายทวาร เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ตัวต่อตัวก่อนชิพบอลข้ามตัว กวิน เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นให้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด นำห่างไปไกล 3-0
 
       แม้จะโดนนำห่างแต่ แชมป์เก่า ยังคงเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ โดยมาเป็นชุดเริ่ม จากนาทีที่ 69 ที่ คริสตียน จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ธีรศิลป์ แดงดา หักบอลกลับมาที่ ดานโญ่ เซีย ก้า ยิงเน้นๆ ในกรอบเขตโทษ ทว่าบอลชนเสาอย่างจัง
 
       นาทีที่ 77 คริสเตียน เคาคู ได้กลับตัวยิงในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่คราวนี้ นราธิป พันธ์พร้อม นายทวาร อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างเหนีวหนึบ ลอยตัวปัดบอลออกหลัง ไปได้อีก
 
       และถัดมา 3 นาที จักรพันธ์ พรใส ยิงฟรีคิกเต็มข้อ ทว่า นราธิป พันธ์พร้อม รับบอลจังหวะ แรกกระฉอกออกมา ก่อนที่ ดานโญ่ เซียก้า จะตามซ้ำ แต่ นราธิป ยังเอาตัวบล็อกลูกยิงของดาว เตะผิวสีรายนี้เอาไว้ได้
 
       ท้ายเกม เมืองทองฯ ยูไนเต็ด พยายามจะโหมบุก แต่ไม่สามารถเจาะตาข่ายเจ้าถิ่นได้ ทำให้ จบเกม อาร์มี่ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ แชมป์เก่า เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 3-0 ซึ่งถือเป็นการแพ้ใน สกอร์ที่ห่างที่สุดของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ที่ขึ้นมาสู่ไทยลีก เมื่อปี 2009



 



       วาทะโค้ช 
       พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ กุนซือ อาร์มี่ ยูไนเต็ด การชนะ 2 นัดติดต่อกันถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีมากๆ สำหรับทีมเรา ซึ่งแน่นอนว่าการเจอ เมืองทองฯ เป็นงานที่หนัก แม้ว่าเขาจะมีเกมก่อนหน้านี้ก็ตาม อย่างไรก็ดี 3-0 ถือเป็นสกอร์ที่ไม่มีใครคาดคิด แต่ต้องยอมรับว่าการที่เราได้สองประตูติดต่อกันทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้ลูกทีมทุกคนที่วันนี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม 
       โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ กุนซือ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ครึ่งหลังแสดงให้เห็นว่าเรามีอาการล้าพอสมควร จากการลงสนาม 3 เกมในรอบ 1 สัปดาห์ รวมถึงใบแดงของ อาทิตย์ ดาวสว่าง ที่ต้องบอกว่าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนที่ผู้เล่นจะโดนใบแดงหลังจากที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหยุดเกมไปแล้ว ดังนั้นถือว่าผู้ตัดสินมีส่วนสำหรับการตัดสินผลแพ้-ชนะในเกมนี้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้การเหลือ 10 คนเป็นเรื่องยาก ที่จะชนะและเราไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีด้วย




       รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม 
       อาร์มี่ ยูไนเต็ด : นราธิป พันธ์พร้อม 8, วันใหม่ เศรษฐนันท์ 7, อเล็กซานโดร อัลเวส 7, ศิวเมต ธนูศร  7.5, ดาวุฒิ ดินเขต 7, วันชนะ รัตนะ 7.5, วินิซิอุส เดอ คาร์วัลโญ่ 7.5 (จารุพงศ์ สังข์พงศ์ -), โทนี่ เดอ  ปินโญ่ 7, ราฟาเอล เดอ ซานตาน่า 7.5, ธาตรี สีหา 7.5 (จักรพงษ์ สมบูรณ์ 6), ลีอันโดร ดอส ซานโต ส 7.5 
       เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ 6, อาทิตย์ ดาวสว่าง 5, ภานุพงศ์ วงศ์ษา 6, เชซ เรห์มาน  6, วีรวุฒิ กาเหย็ม 5.5 (อมร ธรรมนาม 6), มิโรสราฟ ทอธ 5 (คริสเตียน 6), อาลี ดิยาร่า 6, ดานโญ่  เซียก้า 6.5, จักรพันธ์ พรใส 6.5, อานนท์ สังข์สระน้อย 5 (พิชิตพงษ์ เฉยฉิว 6), ธีรศิลป์ แดงดา 6.5




       แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : นราธิป  พันธ์พร้อม ผู้รักษาประตูอาร์มี่ ยูไนเต็ด




src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110305J1M4P.jpg



src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110305H8N3L.jpg

ข่าวจาก สยามกีฬา ออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์